The second issue, which is related

The second issue, which is related to the first one is about the positive theorists’ belief that science is value-free or positive and non-science is value-laden or normative (Sterling, 1990).

Sterling further points out that most scientific practices or studies are normative in the sense that they attempt to find out whether the practices meet standards, which are almost invariably theory dependent. Scientific theories explain and predict the natural phenomena, but one of the function of a theory of a discipline is to provide guidelines to the practitioners of that discipline and practitioners are sometimes studied to see if they are properly following the dictates of the appropriate theory. Far from such studies being positive, those who are found to violate the dictates of the theory may be subject to sanctions. Others who are found to be ignorant of the appropriate theory may be required to remedy their deficiency by further or ‘continuing’ education. Thus, the claim that a theory should be a positive reflection of practice instead of a normative guide for practice show a profound misunde

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาที่สอง ที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่า วิทยาศาสตร์เป็นค่าว่าง หรือค่าบวก และไม่ใช่วิทยาศาสตร์รับภาระค่าของ theorists บวกหรือ normative (สเตอร์ลิง 1990) ได้ สเตอร์ลิงเติมจุดออกปฏิบัติหรือศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากที่สุด normative ในแง่ที่พวกเขาพยายามค้นหาว่าการปฏิบัติตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นทฤษฎีขึ้นเกือบเสมอ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อธิบาย และทำนายปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ฟังก์ชันของทฤษฎีการวินัยอย่างใดอย่างหนึ่งคือการให้แนวทางผู้ว่าวินัย และผู้ที่ได้ศึกษาบางครั้งเพื่อดูถ้าพวกเขากำลังถูกติดตามบอกทฤษฎีที่เหมาะสม จากการศึกษาดังกล่าวเป็นบวก ผู้ที่พบการละเมิดบอกทฤษฎีอาจจะ มีการลงโทษ คนที่พบต้องซะทฤษฎีที่เหมาะสมอาจจำเป็นต้องแก้ไขการขาดของพวกเขา โดยศึกษาเพิ่มเติม หรือ 'ต่อเนื่อง' ดังนั้น อ้างว่า ทฤษฎีที่ควรสะท้อนบวกฝึกแทนคู่มือ normative สำหรับฝึกหัดแสดง misunde ลึกซึ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาที่สองซึ่งเป็นที่เกี่ยวข้องกับคนแรกที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีบวกเชื่อว่าวิทยาศาสตร์คือค่าฟรีหรือบวกและไม่ใช่วิทยาศาสตร์ค่าภาระหรือกฎเกณฑ์ (สเตอร์ลิง, 1990). สเตอร์ลิงต่อไปชี้ให้เห็นว่าส่วนใหญ่การปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ หรือการศึกษาเป็นกฎเกณฑ์ในแง่ที่ว่าพวกเขาพยายามที่จะหาว่าการปฏิบัติตามมาตรฐานซึ่งเป็นเกือบเสมอขึ้นอยู่กับทฤษฎี ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อธิบายและทำนายปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่หนึ่งในฟังก์ชั่นของทฤษฎีของระเบียบวินัยคือการให้แนวทางในการปฏิบัติงานของตัวเองและผู้ปฏิบัติงานที่บางครั้งจะศึกษาเพื่อดูว่าพวกเขาจะถูกต้องต่อไปนี้คำสั่งของทฤษฎีที่เหมาะสม ห่างไกลจากการศึกษาดังกล่าวเป็นบวกผู้ที่จะพบว่ามีการละเมิดคำสั่งของทฤษฎีที่อาจจะมีการลงโทษ คนอื่น ๆ ที่จะพบว่ามีไม่รู้ของทฤษฎีที่เหมาะสมอาจจะต้องแก้ไขข้อบกพร่องของพวกเขาโดยเพิ่มเติมหรือ 'อย่างต่อเนื่อง' การศึกษา ดังนั้นการอ้างว่าเป็นทฤษฎีที่ควรจะเป็นภาพสะท้อนในเชิงบวกของการปฏิบัติแทนที่จะเป็นคู่มือสำหรับการปฏิบัติกฎเกณฑ์แสดง misunde ลึกซึ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเด็นที่สอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎี ' บวกความเชื่อว่าวิทยาศาสตร์เป็นค่าว่าง หรือ บวก และไม่หนัก หรือวิทยาศาสตร์ เป็นค่าอ้างอิง ( เงินสเตอร์ลิง , 1990 )

สเตอร์ลิงเพิ่มเติม ชี้ว่า วิทยาศาสตร์หรือการศึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติมากที่สุดในความรู้สึกที่พวกเขาพยายามที่จะหาคำตอบว่า การปฏิบัติตามมาตรฐานซึ่งเกือบจะทุกทฤษฎี ขึ้นอยู่กับ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายและทำนายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่หนึ่งในฟังก์ชันของทฤษฎีของวินัย เพื่อให้แนวทางการปฏิบัติงาน ของ วินัยและการปฏิบัติบางครั้งเรียนเพื่อดูว่าพวกเขาจะถูกต้องตามการสั่งการของทฤษฎีที่เหมาะสม ไกลจากการศึกษาดังกล่าวเป็นบวกผู้ที่พบว่าละเมิดสั่งการของทฤษฎีอาจลงโทษ . คนอื่น ๆที่พบ การปฏิเสธทฤษฎีที่เหมาะสม อาจจะต้องแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง โดยเพิ่มเติมหรือ ' ต่อเนื่อง ' การศึกษา ดังนั้น การอ้างว่าทฤษฎีควรเป็นบวกสะท้อนการปฏิบัติแทนคู่มืออ้างอิงสำหรับการปฏิบัติที่แสดง misunde ลึกซึ้ง