What is Sustainable Transport?Susta

What is Sustainable Transport?

Sustainable Transport is sometimes known as Green Transport and it is any form of transport that does not use or rely on dwindling natural resources. Instead it relies on renewable or regenerated energy rather than fossil fuels that have a finite life expectancy. For this reason it is said to have a low or a negative effect on the environment since it makes use of energy sources that are sustainable.

Walking, cycling and sailing are excellent examples of sustainable transport.

A fuel-hungry world

Until relatively recent times very little consideration was given to the sustainable sources of energy for transport, or for the efficient use of clean fuels. In many parts of the developing world this is still the case and high levels of pollution continue to be tolerated.

It is estimated that every year various forms of transport consume between 20% and 25% of the world's energy and this significantly contributes to the increasingly high levels of greenhouse gases that continue to be released into the atmosphere.

Information about greenhouse gases (GHGs).

It can't last forever

There are now around 750 million cars in the world and predictions are that if the present trend continues, the number will double in the next 30 years. All but a very few are powered by petroleum-based fuel.

In 1900 there were just a few thousand cars in the world but as numbers increased, so did the demand for oil. Estimates suggest that during the 20thcentury about half of the world's accessible oil deposits were used up.

It is only relatively recently that people began to be concerned about future oil supplies. A combination of political unrest in major oil producing areas like the Middle East, combined with the fact that reserves are running out in areas such as the US, has heightened this concern and had the combined effect of focusing the mind on seeking alternative energy sources, and pushing up prices.

Added to that, during the last few years people have simply become more environmentally conscious. Whereas before, in many people's eyes the resources of the world were simply there to be made use of, there is now an almost universal appreciation of the fact that the world's resources will not last for ever and that once they are gone they are gone for good.

Information about world fossil fuel reserves.

What are the alternatives?

In many areas there have been moves to encourage people to use public transport networks rather than travelling by car. Cycling has also gained in popularity, both as a means of maintaining fitness, but also because it is a cheap and often swift form of transport.

There have been moves to introduce cleaner and more fuel-efficient means of urban transport. There have been experiments using different types of fuel and there has been much effort and progress made in the development of so-called ''green vehicles''.

Hybrid vehicles have been developed as an alternative to conventional cars. These are gaining in popularity. Generally they are of a hybrid design, combining an internal combustion engine with an electric engine. Other vehicles run on natural gas and some are electrically powered.

Hybrid electric vehicle (HEV).

Biofuel: Biofuels have also become very popular in some areas. Bioethanol is made by fermenting plant materials and biodiesel is made from vegetable oils, animal fats or recycled grease. In 2008 biofuels provided 1.8% of the world's transport fuel. One of the problems is that bioethanol production relies on the cultivation of large amounts of plant material often on land that was formally tropical rain forest, or on land that would otherwise have been used to produce food.

Solar power is another possible future option, but this will depend on a technical leap in the conversion rates of the photovoltaic (PV) cells that convert sunlight into electricity. Battery power would be required at nighttime or when there was no sun during daylight periods.

More detail on solar powered cars and solar transportation as a method of sustainable transport.

Hydrogen can be used to power future transportation. This might in fact be the power of the future because hydrogen is the most common element in the Universe. Power can either be through the use of electric motors powered by fuel cell technology or by improved internal combustion engines. In both cases emissions would be zero. Hydrogen power is currently prohibitively expensive, but progress is being made in the technology to achieve this. A big challenge is to source the hydrogen from renewable resources. Honda has produced the first 'commercial' hydrogen powered vehicle in the form of the Honda FCX Clarity, although this has limited availability.

Nuclear power was once advocated as the clean alternative to coal, oil and gas for generating electricity and for producing hydrogen through electrolysis. A number of accidents at nuclear plants, together with the inherent problem of dealing with large amounts of radioactive waste, has led many countries to reconsider this method of power generation.

Looking to the future

Transport is a vital part of our everyday life. The prevailing 20thcentury view was to rely on fossil fuels for most of our transport needs and to ignore any consequences. In the 21stcentury we have woken up to the fact that there is a need for us to care for the world around us.


Read more at http://www.earthtimes.org/encyclopaedia/environmental-issues/sustainable-transport/#dhmz64oAjxAi45Ob.99

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขนส่งที่ยั่งยืนคืออะไรขนส่งอย่างยั่งยืนบางครั้งเรียกว่าขนส่งสีเขียว และเป็นรูปแบบใด ๆ ของการขนส่งที่ใช้ หรือพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ dwindling แต่มันใช้ทดแทน หรือสร้างพลังงานแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอายุขัยจำกัด ดังกล่าวจะมีผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือเป็น เพราะมันทำให้ใช้แหล่งพลังงานที่ยั่งยืนเดิน ขี่จักรยาน และล่องเรือเป็นอย่างดีการขนส่งที่ยั่งยืนโลกหิวน้ำมันเชื้อเพลิงจนถึงครั้งล่าสุดค่อนข้าง พิจารณาน้อยมากให้แหล่งพลังงานยั่งยืน สำหรับการขนส่ง หรือการใช้เชื้อเพลิงที่สะอาดมีประสิทธิภาพ ในหลายส่วนของประเทศกำลังพัฒนา เป็นยัง และมลพิษระดับสูงยังคงมีอภัยโทษมันคือประมาณว่า ทุกปีใช้แบบฟอร์มต่าง ๆ ของการขนส่งระหว่าง 20% และ 25% ของพลังงานโลก และนี้จัดสรรไปในระดับสูงมากขึ้นของก๊าซเรือนกระจกที่ต่อไปที่จะออกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างมีนัยสำคัญข้อมูลเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจก (GHGs)มันไม่สุดท้ายตลอดขณะนี้มีประมาณ 750 ล้านคันในโลก และคาดการณ์ได้ว่า หากแนวโน้มปัจจุบันยังคง หมายเลขจะดับเบิลใน 30 ปี แต่น้อยนี้ขับเคลื่อน ด้วยเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียมใน 1900 มีเพียงไม่กี่พันคัน ในโลก แต่ เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ความต้องการใช้น้ำมัน แนะนำประเมินที่ระหว่าง 20thcentury ประมาณครึ่งหนึ่งของเงินฝากเข้าน้ำมันของโลกได้ใช้กันมันเท่านั้นค่อนข้างล่าสุดที่คนเริ่มจะกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์น้ำมันในอนาคต การรวมกันของความไม่สงบทางการเมืองในพื้นที่ตะวันออกกลาง รวมกับสำรองการผลิตน้ำมันสำคัญกำลังออกในพื้นที่เช่นสหรัฐอเมริกา มี heightened ปัญหานี้ และมีผลรวมของจิตใจเน้นการแสวงหาแหล่งพลังงานทดแทน และผลักดันขึ้นราคาเพิ่มว่า ในระหว่างช่วง ปีบางคนมีเพียงมาเป็นมิตร ในขณะที่ก่อน ในสายตาของคนจำนวนมาก ทรัพยากรของโลกได้เพียงแค่มีการใช้ มีตอนนี้ได้ชื่นชมเกือบสากลของความจริงที่ว่าทรัพยากรของโลกจะสุดท้ายไม่เคยตัว และว่า เมื่อจะไป พวกเขาจะไปดีข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์โลกสำรองทางเลือกคืออะไรในหลายพื้นที่ได้มีย้ายไปสนับสนุนให้คนใช้เครือข่ายระบบขนส่งสาธารณะแทนการเดินทาง โดยรถยนต์ ขี่จักรยานได้ยังรับประเทศ ทั้งของการรักษาออกกำลังกาย แต่เนื่องจากเป็นแบบประหยัด และรวดเร็วมักจะขนส่งได้มีการย้ายไปแนะนำวิธีทำความสะอาด และเพิ่มเติม fuel-efficient การขนส่งเมือง มีการทดลองใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่น และมีความพยายามมากและความคืบหน้าในการพัฒนาเรียกว่า ''สีเขียวคัน ''ยานพาหนะไฮบริดได้รับการพัฒนาเป็นทางเลือกในรถยนต์ทั่วไป เหล่านี้จะได้รับความนิยมใน โดยทั่วไปจะมีแบบผสม รวมเครื่องยนต์สันดาปภายในกับเครื่องไฟฟ้า ยานพาหนะอื่น ๆ ที่เรียกใช้แก๊สธรรมชาติ และบางนี้ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าไฟฟ้ายานพาหนะไฮบริด (HEV)เชื้อเพลิงชีวภาพ: เชื้อเพลิงชีวภาพได้กลายเป็นนิยมมากในบางพื้นที่ Bioethanol ถูกตั้งขึ้น โดย fermenting วัสดุพืช และไบโอดีเซลจากน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ หรือไขมันที่รีไซเคิล เชื้อเพลิงชีวภาพให้ 1.8% ของเชื้อเพลิงการขนส่งของโลกในปี 2008 ปัญหาใดปัญหาหนึ่งคือว่า ผลิต bioethanol อาศัยเพาะปลูกจำนวนมากวัสดุพืชมักจะ บนที่ดินที่เป็นป่าฝนเขตร้อนอย่างเป็นกิจจะลักษณะ หรือแผ่นดินที่จะเป็นอย่างอื่นได้ใช้ในการผลิตอาหารพลังงานแสงอาทิตย์เป็นอีกทางเลือกในอนาคตเป็นไปได้ แต่นี้จะขึ้นอยู่กับการกระโดดทางเทคนิคในอัตราการแปลงของเซลล์เซลล์แสงอาทิตย์ (PV) ที่แปลงแสงแดดให้เป็นไฟฟ้า แบตเตอรีจะจำเป็น ในยามค่ำคืน หรือ เมื่อมีแดดไม่อยู่ในระหว่างรอบระยะเวลาตามฤดูกาลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ขับเคลื่อนรถยนต์และรถพลังงานแสงอาทิตย์เป็นวิธีการขนส่งที่ยั่งยืนไฮโดรเจนสามารถใช้พลังงานขนส่งในอนาคต นี้ในความเป็นจริงอาจจะใช้พลังงานในอนาคตเนื่องจากไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบมากที่สุดในจักรวาล พลังงานอย่างใดอย่างหนึ่งได้โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน โดยเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง หรือเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ดีขึ้น ในทั้งสองกรณี ปล่อยจะเป็นศูนย์ พลังงานไฮโดรเจนอยู่แพง prohibitively แต่ความก้าวหน้ามีการทำเทคโนโลยีเพื่อให้บรรลุนี้ ความท้าทายใหญ่แหล่งไฮโดรเจนจากทรัพยากรทดแทน ฮอนด้าได้ผลิตรถพลังงานไฮโดรเจน 'พาณิชย์' ครั้งแรกในแบบของฮอนด้า FCX ความคมชัด แม้ว่านี้มีความพร้อมใช้งานพลังงานนิวเคลียร์ถูกครั้งเดียวสนับสนุนเป็นวิธีสะอาดทดแทนถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ สำหรับการสร้างไฟฟ้า และ การผลิตไฮโดรเจนโดยใช้ electrolysis จำนวนอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ พร้อมจัดการปัญหาแต่กำเนิดกากกัมมันตรังสี จำนวนมากได้นำประเทศไป reconsider ไฟฟ้าวิธีนี้มองไปในอนาคตขนส่งเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของเรา เป็น 20thcentury มี การพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลสำหรับส่วนมากของความต้องการขนส่ง และ การละเว้นผลใด ๆ ใน 21stcentury เราได้ตื่นขึ้นในความเป็นจริงว่า มีความจำเป็นที่เราจะดูแลโลกรอบตัวเราอ่านเพิ่มเติมที่ http://www.earthtimes.org/encyclopaedia/environmental-issues/sustainable-transport/#dhmz64oAjxAi45Ob.99

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การขนส่งที่ยั่งยืนคืออะไรการขนส่งที่ยั่งยืนเป็นที่รู้จักกันบางครั้งก็เป็นสีเขียวขนส่งและมันก็เป็นรูปแบบใด ๆ ของการขนส่งที่ไม่ได้ใช้หรือลดน้อยลงพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ แต่มันขึ้นอยู่กับพลังงานทดแทนหรือสร้างใหม่มากกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอายุขัย จำกัด ด้วยเหตุนี้จึงมีการกล่าวถึงมีน้อยหรือผลเสียต่อสภาพแวดล้อมเพราะมันทำให้การใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน. เดินขี่จักรยานและการแล่นเรือใบเป็นตัวอย่างที่ดีของการขนส่งที่ยั่งยืน. โลกเชื้อเพลิงหิวจนกระทั่งค่อนข้างครั้งที่ผ่านมามากพิจารณาเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับแหล่งที่มาของพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับการขนส่งหรือประสิทธิภาพของการใช้เชื้อเพลิงสะอาด ในหลายส่วนของโลกที่กำลังพัฒนานี้ยังคงเป็นกรณีและระดับสูงของมลพิษยังคงได้รับการยอมรับ. มันเป็นที่คาดว่าทุกปีในรูปแบบต่างๆของการขนส่งใช้ระหว่าง 20% และ 25% ของการใช้พลังงานของโลกและนี้อย่างมีนัยสำคัญก่อให้เกิดมากขึ้น ระดับสูงของก๊าซเรือนกระจกที่ยังคงได้รับการปล่อยตัวออกสู่ชั้นบรรยากาศ. ข้อมูลเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจก (ก๊าซเรือนกระจก). มันไม่สามารถอยู่ตลอดไปขณะนี้มี 750 ล้านคันในโลกและการคาดการณ์ที่ว่าหากแนวโน้มปัจจุบันยังคงมีจำนวน จะเป็นสองเท่าใน 30 ปีข้างหน้า แต่น้อยมากที่ขับเคลื่อนโดยใช้เชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม. ใน 1900 มีเพียงไม่กี่พันคันในโลก แต่เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ความต้องการใช้น้ำมัน ประมาณการชี้ให้เห็นว่าในช่วง 20thcentury ประมาณครึ่งหนึ่งของเงินฝากที่สามารถเข้าถึงน้ำมันของโลกที่ถูกนำมาใช้ขึ้น. มันเป็นเพียงค่อนข้างเร็ว ๆ นี้ว่าผู้คนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันในอนาคต การรวมกันของเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในน้ำมันรายใหญ่ผลิตพื้นที่เช่นตะวันออกกลางรวมกับความจริงที่ว่าเงินสำรองหมดในพื้นที่เช่นสหรัฐที่ได้มีความคิดริเริ่มความกังวลนี้และมีผลกระทบโดยรวมของการมุ่งเน้นความคิดในการแสวงหาแหล่งพลังงานทางเลือก และผลักดันขึ้นราคา. เพิ่มเข้ามาเพื่อที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีคนมากขึ้นที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ก่อนในสายตาของคนจำนวนมากทรัพยากรของโลกที่มีเพียงมีที่จะทำให้การใช้มีตอนนี้ความชื่นชมสากลเกือบถึงความจริงที่ว่าทรัพยากรของโลกจะไม่ตลอดว่าเมื่อพวกเขาจะหายไปพวกเขาจะหายไป ดี. ข้อมูลเกี่ยวกับเงินสำรองเชื้อเพลิงฟอสซิลโลก. สิ่งที่ทางเลือกมีอะไรบ้างในหลายพื้นที่มีการย้ายที่จะส่งเสริมให้คนที่จะใช้เครือข่ายการขนส่งสาธารณะมากกว่าเดินทางโดยรถยนต์ ขี่จักรยานยังได้รับความนิยมทั้งเป็นวิธีการรักษาออกกำลังกาย แต่ยังเพราะมันเป็นรูปแบบที่มีราคาถูกและรวดเร็วมักจะของการขนส่ง. มีการย้ายที่จะแนะนำการทำความสะอาดและอื่น ๆ หมายถึงเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพของการขนส่งในเมือง มีการทดลองโดยใช้ชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงและได้มีการใช้ความพยายามมากและความคืบหน้าในการพัฒนาของสิ่งที่เรียกว่า '' ยานพาหนะสีเขียว ''. รถไฮบริดได้รับการพัฒนาเป็นทางเลือกให้รถยนต์ธรรมดา เหล่านี้จะได้รับความนิยม โดยทั่วไปพวกเขามีการออกแบบไฮบริดรวมเครื่องยนต์สันดาปภายในกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า ยานพาหนะอื่น ๆ ทำงานในก๊าซธรรมชาติและบางส่วนจะขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า. ไฮบริดรถยนต์ไฟฟ้า (HEV). เชื้อเพลิงชีวภาพ: เชื้อเพลิงชีวภาพยังได้กลายเป็นที่นิยมมากในบางพื้นที่ เอทานอลจะทำโดยการหมักวัสดุพืชและไบโอดีเซลที่ทำจากน้ำมันพืชไขมันสัตว์หรือไขมันรีไซเคิล ในปี 2008 เชื้อเพลิงชีวภาพให้ 1.8% ของการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงของโลก หนึ่งในปัญหาคือว่าการผลิตเอทานอลต้องอาศัยการเพาะปลูกของจำนวนมากของวัสดุจากพืชมักจะอยู่บนดินแดนที่เป็นป่าฝนเขตร้อนอย่างเป็นทางการหรือบนที่ดินที่มิฉะนั้นจะถูกนำมาใช้ในการผลิตอาหาร. พลังงานแสงอาทิตย์เป็นอีกหนึ่งที่เป็นไปได้ตัวเลือกในอนาคต แต่ นี้จะขึ้นอยู่กับการก้าวกระโดดทางเทคนิคในการอัตราการแปลงของเซลล์แสงอาทิตย์ (PV) เซลล์ที่แปลงแสงแดดเป็นไฟฟ้า พลังงานแบตเตอรี่จะต้องเวลากลางคืนหรือเมื่อมีดวงอาทิตย์ในช่วงเวลากลางวันไม่มี. รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์และการขนส่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นวิธีการของการขนส่งอย่างยั่งยืน. ไฮโดรเจนสามารถนำมาใช้ในการใช้พลังงานการขนส่งในอนาคต อาจนี้ในความเป็นจริงจะเป็นอำนาจของอนาคตเพราะไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบที่พบมากที่สุดในจักรวาล พาวเวอร์สามารถเป็นได้ทั้งผ่านการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงหรือโดยการปรับตัวดีขึ้นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ในทั้งสองกรณีจะปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ พลังงานไฮโดรเจนในปัจจุบันคือราคาแพง แต่มีความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีเพื่อให้บรรลุนี้ ความท้าทายที่ใหญ่เป็นแหล่งไฮโดรเจนจากทรัพยากรทดแทน ฮอนด้ามีการผลิตครั้งแรก 'พาณิชย์' ไฮโดรเจนรถขับเคลื่อนในรูปแบบของฮอนด้า FCX ชัดเจนแม้นี้จำนวน จำกัด . พลังงานนิวเคลียร์ได้รับการสนับสนุนในครั้งเดียวเป็นทางเลือกที่สะอาดเพื่อถ่านหินน้ำมันและก๊าซสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าและการผลิตไฮโดรเจนผ่านกระแสไฟฟ้า . จำนวนของการเกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ร่วมกับปัญหาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของการจัดการกับจำนวนมากของกากกัมมันตรังสีได้นำหลายประเทศที่จะพิจารณาวิธีการในการผลิตกระแสไฟฟ้านี้. มองไปในอนาคตการขนส่งเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของเรา มุมมอง 20thcentury แลกเปลี่ยนคือการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่ของความต้องการการขนส่งของเราและจะไม่สนใจผลกระทบใด ๆ ในศตวรรษที่ 21 เราได้ตื่นขึ้นมาจากความจริงที่ว่ามีความจำเป็นสำหรับเราที่จะดูแลโลกรอบตัวเรา. อ่านเพิ่มเติมได้ที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือการขนส่งที่ยั่งยืน

อย่างยั่งยืนขนส่งคือบางครั้งเรียกว่าการขนส่งสีเขียวและมันเป็นรูปแบบใด ๆของการขนส่งที่ไม่ใช้หรือพึ่งพาทรัพยากรลดน้อยลงตามธรรมชาติ แทนที่จะอาศัยพลังงานทดแทนหรือพลังงานได้มากกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีชีวิตจำกัดด้วยเหตุผลนี้ มันบอกว่าได้น้อย หรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมันทำให้การใช้แหล่งพลังงานที่ยั่งยืน .

เดิน จักรยาน และการเป็นตัวอย่างที่ดีของการขนส่งที่ยั่งยืน

หิวเป็นเชื้อเพลิงโลก

จนครั้งล่าสุดค่อนข้างน้อยมาก การพิจารณาที่ได้รับไปยังแหล่งที่ยั่งยืนของ พลังงานขนส่งหรือเพื่อประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่สะอาด ในส่วนต่างๆของโลกที่พัฒนานี้ยังคงเป็นกรณีและระดับมลพิษต่อไปได้

มันคือประมาณว่าทุกปี รูปแบบต่างๆของการขนส่งกินระหว่าง 20% และ 25% ของโลก พลังงานนี้อย่างมากมีส่วนช่วยในระดับที่สูงยิ่งขึ้นของก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศต่อไป

ข้อมูลเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจก ( GHGs )

ไม่ได้สุดท้ายตลอดไป

ขณะนี้มีประมาณ 750 ล้านคันในโลก และคาดคะเนว่า หากแนวโน้มปัจจุบันยังคง หมายเลขจะเป็นสองเท่าในอีก 30 ปี ทั้งหมด แต่น้อยมากที่ขับเคลื่อนโดยเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม .

ใน 1900 มีรถแค่ไม่กี่พัน ใน โลก แต่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เพื่อความต้องการน้ำมันประมาณการว่า ในช่วง 20thcentury ประมาณครึ่งหนึ่งของโลกที่สามารถใช้น้ำมันปรับขึ้น

มันค่อนข้างเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ประชาชนเริ่มกังวลเกี่ยวกับวัสดุสิ้นเปลืองน้ำมันในอนาคต การรวมกันของความไม่สงบทางการเมืองในสาขาการผลิตน้ำมันในบริเวณตะวันออกกลาง รวมกับความจริงที่ว่า สำรองใช้ในพื้นที่เช่นเรามีความกังวลนี้และได้รวมผลของการรวบรวมสมาธิในการแสวงหาแหล่งพลังงานทางเลือก และผลักดันราคา

เพิ่มว่าในช่วงไม่กี่ปีสุดท้าย คนได้กลายเป็นสิ่งแวดล้อม . ในขณะที่ก่อน ในสายตาของหลายคน ทรัพยากรของโลกก็มีให้ใช้ขณะนี้มีความชื่นชมสากลเกือบความจริงว่าทรัพยากรของโลกจะไม่ล่าสุดตลอดไปและเมื่อพวกเขาไปแล้วพวกเขาจะหายไปสำหรับดี

ข้อมูลเกี่ยวกับโลกเชื้อเพลิงฟอสซิลสำรอง

อะไรคือทางเลือก ?

ในหลายพื้นที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนใช้เครือข่ายการขนส่งสาธารณะมากกว่าการเดินทางโดยรถยนต์ จักรยานยังได้รับความนิยมทั้งสองเป็นวิธีการรักษาฟิตเนส แต่ยังเพราะมันเป็นแบบราคาถูกและมักจะรวดเร็วของการขนส่ง

มีย้ายแนะนำเครื่องดูดฝุ่นและเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้นวิธีการของการขนส่งในเขตเมือง มีการทดลองโดยการใช้ที่แตกต่างกันประเภทของเชื้อเพลิงและมีความพยายามมาก และความคืบหน้าในการพัฒนาที่เรียกว่า ' 'green คัน

' '