The UN’s current mission in the Dem

The UN’s current mission in the Democratic Republic of Congo, called MONUC, is entering its thirteenth year. MONUC is the UN’s largest and longest-lasting mission to date.

It is mandated to protect civilians and also help in the reconstruction of the country. With 18,000 people, MONUC is spread thinly across northeastern Congo and is largely unable to halt attacks. Rebels continue to kill and plunder natural resources with impunity. Some claim the rebels are supported by an international crime network stretching through Africa to Western Europe and North America.

The international community’s support for political and diplomatic efforts to end the war has been relatively consistent, but no effective steps have been taken to abide by repeated pledges to demand accountability for the war crimes and crimes against humanity that are routinely committed in Congo. United Nations Security Council and the U.N. Secretary-General have frequently denounced human rights abuses and the humanitarian disaster that the war unleashed on the local population. But they have shown little will to tackle the responsibility of occupying powers for the atrocities taking place in areas under their control, areas where the worst violence in the country took place.

On March 14, 2012, the International Criminal Court (ICC) issued a ‘guilty’ verdict against Thomas Lubanga Dyilo on charges of rape, murder, and the use of child soldiers, the first verdict for the ICC.

Download a one page PDF summary of this information here.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภารกิจปัจจุบันของสหประชาชาติในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก MONUC เรียกว่ากำลังเข้าปีที่สิบสาม MONUC เป็นภารกิจที่ใหญ่ที่สุด และยาวนานของสหประชาชาติวันที่มันถูกบังคับเพื่อปกป้องพลเรือน และยัง ช่วยในการฟื้นฟูประเทศ 18,000 คน MONUC กระจายบาง ๆ ทั่วคองโกตะวันออกเฉียงเหนือ และส่วนใหญ่สามารถหยุดการโจมตี กบฏยังฆ่า และปล้นทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการยกเว้นโทษ บางคนเรียกร้องสนับสนุนกบฏ โดยเครือข่ายอาชญากรรมระหว่างประเทศยืดผ่านทางแอฟริกายุโรปและอเมริกาเหนือสนับสนุนของชุมชนนานาชาติสำหรับความพยายามทางการทูต และการเมืองเพื่อยุติสงครามได้รับค่อนข้างสอดคล้องกัน แต่ไม่มีขั้นตอนมีประสิทธิภาพมีการใช้เพื่อปฏิบัติตามซ้ำละเมิดจะต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่มีความมุ่งมั่นในคองโกเป็นประจำ สหประชาชาติมนตรีและเลขาธิการสหประชาชาติได้บ่อยประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนและภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมที่สงครามปลดปล่อยประชากรท้องถิ่น แต่พวกเขาได้แสดงเพียงเล็กน้อยที่จะรับมือกับความรับผิดชอบของการครอบครองอำนาจสำหรับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา พื้นที่ที่เกิดขึ้นรุนแรงเลวร้ายที่สุดในประเทศเมื่อ 14 มีนาคม 2012 ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกคำพิพากษา 'ผิด' กับโทมัส Lubanga Dyilo ค่าข่มขืน ฆาตกรรม และการใช้ทหารเด็ก พิพากษาแรกสำหรับ ICCดาวน์โหลดสรุปข้อมูลนี้ที่นี่ PDF หนึ่งหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภารกิจของสหประชาชาติในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเรียกว่าเอ็มโอจะเข้าปีที่สิบสาม เอ็มโอเป็นภารกิจที่ใหญ่ที่สุดและนานที่สุดของสหประชาชาติวันที่

มันเป็นเรื่องที่ได้รับคำสั่งให้ปกป้องพลเรือนและยังช่วยในการฟื้นฟูบูรณะของประเทศ ที่มี 18,000 คน, เอ็มโอจะถูกกระจายไปบาง ๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือคองโกและเป็นส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะหยุดการโจมตี กบฏยังคงที่จะฆ่าและปล้นทรัพยากรธรรมชาติด้วยการยกเว้นโทษ บางคนอ้างพวกกบฏได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติผ่านการยืดแอฟริกายุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ

สนับสนุนชุมชนระหว่างประเทศสำหรับความพยายามทางการเมืองและการทูตเพื่อยุติสงครามได้รับค่อนข้างสอดคล้องกัน แต่ไม่มีขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพได้รับการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาซ้ำที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบสำหรับการก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่มีความมุ่งมั่นเป็นประจำในคองโก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเลขาธิการสหประชาชาติประณามบ่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมภัยพิบัติว่าสงครามปลดปล่อยประชากรท้องถิ่น แต่พวกเขาได้แสดงให้เห็นความประสงค์ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาความรับผิดชอบของการครองอำนาจโหดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา, พื้นที่ที่มีความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดในประเทศที่เกิดขึ้น

วันที่ 14 มีนาคม 2012 ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกคำตัดสิน 'ผิด' กับโทมัส Lubanga Dyilo ในข้อหาข่มขืนฆาตกรรมและการใช้ทหารเด็ก, คำตัดสินครั้งแรกสำหรับศาลอาญาระหว่างประเทศ

ดาวน์โหลดสรุปรูปแบบไฟล์ PDF หน้าหนึ่งของข้อมูลนี้ที่นี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ของสหประชาชาติในปัจจุบันภารกิจในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่เรียกว่าการทําเอ็มโอยูเป็นเข้าของสิบสามปี การทําเอ็มโอยูเป็นอุนที่ยาวนานที่สุดภารกิจวันที่มันอยู่ในอาณัติเพื่อปกป้องพลเรือนและยังช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูประเทศ กับ 18 , 000 คน ถูกกระจายไปทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 . การทําเอ็มโอยูคองโกและเป็นส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะหยุดการโจมตี กบฏยังฆ่าและปล้นทรัพยากรธรรมชาติกับการได้รับการยกเว้นโทษ บางคนเรียกร้องกบฏที่ได้รับการสนับสนุนโดยเครือข่ายอาชญากรรมระหว่างประเทศยืดผ่านแอฟริกายุโรปและอเมริกาเหนือชุมชนระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนความพยายามทางการเมืองและการทูตเพื่อยุติสงครามได้สอดคล้องกันค่อนข้าง แต่ไม่มีขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพได้รับการถ่ายเพื่อปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบสำหรับซ้ำก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่ตรวจยืนยันในคองโก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเลขาธิการสหประชาชาติ ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนมีบ่อยและมนุษยธรรมความหายนะที่สงครามปลดปล่อยเมื่อประชากรท้องถิ่น แต่พวกเขาได้น้อยจะเล่นงานความรับผิดชอบของอำนาจครอบครองเพื่อโหดเอาสถานที่ในพื้นที่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา พื้นที่ที่มีความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดในประเทศเกิดขึ้นเมื่อ 14 มีนาคม 2555 , ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ ( ICC ) ออก ' ผิด ' ตัดสินกับโทมัส ลูบังกา dyilo ในข้อหาข่มขืน ฆาตกรรมและการใช้ทหารเด็ก คำตัดสินครั้งแรกของ ICCดาวน์โหลดหนึ่งหน้า PDF สรุปข้อมูลที่นี่