Park Shin Hye said, "Every second I

Park Shin Hye said, "Every second I was shooting a scene, I felt happy. Trying to find cases was fun and the the evolution of the romance between Inha and Dalpo was sweet and praiseworthy. It was not all about melodrama so I liked it, and I really liked the family scenes. I liked everything." and "To me, 'Pinocchio' is an unfinished drama. Words are not the weight of one moment, but a weight that takes its toll even in the future."

Park Shin Hye cried when she saw the script of 'Pinocchio' and felt like she needed to act in this drama so she cancelled her original goals of graduating from the university and decided to film and finish this drama.

She said, "Inha has the same personality and blunt speech like me." and "She is lively, smiles a lot, and laughs loudly exactly like me that it made me so surprised that a character would be such a clone of me."

Park Shin Hye said, "I cried a lot as Inha with true feelings. To tell you the truth, I sometimes cry in front of my mom and dad while clinging on to them which made the family scenes seem more real." and "Even Inha calling Grandpa, "Harabeoji, Harabeoji~" and Grandpa answering back, "I have no money" are the same interactions I have with my grandpa."

She continued on, "Even when we were not filming, Jin Kyung mom would call me 'Ddoksooni' and I would call her mom. She would take good care of me as if she was like my real mom. She would complain about how could there be such a mother in this world and wished that Hamyeong would get his revenge in the end. Also, inha's mom in the drama is cold and my mom (real) was like that sometimes, so I would feel sad and wanted to cry. Now, whenever I hear my mom speak, I want to cry each time. Therefore, the scene with Jin Kyung mom really made me want to cry."

Park Shin Hye is known throughout the entertainment industry as the queen of making friends with everyone and is known for being nice and easy to get along with. However, she said with a small laugh, "No. I lost the title of flower of the filming site due to Jong Sukkie." She added with cute chagrin, "I even lost to the length of his eyelashes and lost to his aegyo. i lost to everything."

However, through a continuous evaluation of Lee Jong Suk, we were able to learn how close they are and how much they lean to each other for support as friends and as colleagues. She said, "Jong Sukkie is a lovely friend. His body is filled with lovely aegyo so I asked if he is the youngest child, but he replied that he is the oldest." and "Because of him, I was able to laugh a lot, strangely I felt proud of him at times, I liked him as my partner, and we were able to exchange a lot of harmony. His eyes are delicate and warm."

Also, when we talked about Lee Jong Suk's slump, she said, "Rather than being happy and having fun while acting, I feel that he was overwhelmed with new emotions. I felt a similar feeling after I filmed 'You're Beautiful'." and "When I opened my eyes, I missed filming, I couldn't grab onto anything, and I cried every single day. I was able to get over that feeling and was able to put more strength to another drama."

Like their friendship, their passion and their support and humane affection as well as consideration and respect for each other made them able to bring out the best for the Darling Couple which made viewers feel like the Darling Couple was real. Park Shin Hye pouted and said, "The scene where my dad has an imagination of us having a Toast Kiss needed to show a lot of love, but Jong Sukkie and I weren't really used to each other then so it really made us gag. The PD-nim even scolded us by saying, "Did you guys ever date?" I feel that holding the toast in my mouth for the toast kiss was really hard."

She added, "I experienced different feelings for the Mouth Covered Kiss and the Toast Kiss. While the first kiss left me a tingling feeling, I experienced more emotions with the breakup scene. In particular, I experienced such strong emotional feelings of the breakup up to the point that I was wondering to myself, "Why am I feeling this way?" My heart felt like it was really breaking that I cried a lot that day."

Park Shin Hye concluded the interview by saying, "Before filming 'Pinocchio', I didn't pay much to the news and really focused on news that had impact rather than facts. Now, I like to watch the news even the ones that may seem boring because these are the news that I need to hear. I watch all news like cases of arson, abuse, and violence. I watch everything on the news now and focus whether the reporters are really reporting us the facts or just want to give us news that we want to hear. 'Pinocchio' really changed my views of the news."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Park Shin Hye กล่าวว่า "ทุกวินาทีฉันถูกยิงฉาก ผมรู้สึกมีความสุข พยายามที่จะหากรณีสนุกและมีวิวัฒนาการของโรแมนติกระหว่าง Inha และ Dalpo หวาน และ praiseworthy ไม่ทั้งหมดเกี่ยวกับ melodrama เพื่อผมชอบ ผมชอบฉากครอบครัว ผม ชอบทุกอย่าง " และ"ฉัน 'พินอคคิโอ' เป็นละครยังไม่เสร็จ คำไม่น้ำหนักของครับ แต่น้ำหนักที่ใช้โทรได้ในอนาคต"Park Shin Hye ร้องเมื่อเธอเห็นสคริปต์ของ 'พินอคคิโอ' และรู้สึกว่าเธอต้องทำหน้าที่ในละครเรื่องนี้เพื่อให้เธอยกเลิกเป้าหมายเดิมของเธอจบจากมหาวิทยาลัย และตัดสินใจให้ภาพยนตร์ และละครเรื่องนี้จบ เธอบอก "Inha มีบุคลิกภาพเดียวกันและเสียงทื่อเช่น me." และ "เธอมีสีสัน ยิ้มมาก และหัวเราะทีดังเหมือนฉันที่ มันทำให้ฉันประหลาดใจมากว่า อักขระจะเป็นโคลนดังกล่าวของฉัน"Park Shin Hye กล่าวว่า "ข้ามากเป็น Inha ด้วยความรู้สึกที่แท้จริง คุณพูดความจริง ฉันบางครั้งร้องไห้หน้าแม่และพ่อของฉันขณะที่เข้าใจระบบพวกเขาที่ทำฉากครอบครัวดูเหมือน จริงมากขึ้น " และ" แม้ Inha เรียกปู่, " Harabeoji, Harabeoji ~ " และปู่ตอบกลับ "ฉันไม่มีเงิน" การโต้ตอบเดียวที่ฉันมีกับปู่ของฉัน "เธอต่อบน "แม้ว่าเราไม่ได้ถ่ายทำ Jin Kyung หม่อมจะเรียกฉัน 'Ddoksooni' และชอบเรียกแม่ของเธอ เธอจะใช้เอาใจฉันว่าเธอเหมือนแม่ของฉันจริง เธอจะบ่นว่า ไม่มีเช่นแม่นี้โลก และปรารถนาว่า Hamyeong จะได้รับแก้แค้นของเขาในสุด ยัง หม่อม inha ของละครจะเย็น และแม่ของฉัน (จริง) ไม่เช่นนั้นบางครั้ง ดังนั้นฉันจะรู้สึกเศร้า และอยากร้องไห้ ตอนนี้ เมื่อฉันได้ยินแม่ของฉันพูด ฉันต้องร้องไห้ทุกครั้ง ดังนั้น ฉากกับหม่อม Kyung จิ้นจริง ๆ ได้ฉันต้องร้องไห้"Park Shin Hye เป็นที่รู้จักกันทั่ววงการบันเทิงเป็นควีนของเพื่อนกับทุกคน และเป็นที่รู้จักกันดี และง่ายด้วย อย่างไรก็ตาม กล่าวพร้อมหัวเราะเล็ก "เลขหายไปชื่อของดอกไม้ของไซต์ filming จาก Jong Sukkie" เธอกล่าวเพิ่มเติม ด้วยน้ำตกชากรินน่ารัก "ฉันแม้แพ้ความยาวของขนตาของเขา และลืม aegyo ของเขา หายไปกับทุกสิ่ง"อย่างไรก็ตาม ผ่านการประเมินอย่างต่อเนื่องของ Lee Jong Suk เราไม่สามารถเรียนรู้วิธีปิดอยู่และจำนวนจะเท่กันสำหรับการสนับสนุน เป็นเพื่อน และ เป็นเพื่อนร่วมงาน เธอกล่าวว่า "Jong Sukkie เป็นเพื่อนรักกัน ร่างกายของเขาจะเต็มไป ด้วย aegyo น่าเพื่อถามถ้า เขาเป็นเด็กอายุน้อยที่สุด แต่เขาตอบว่า เป็นที่เก่าแก่ที่สุด""เนื่องจากเขา ผมสามารถหัวเราะมาก แพงกว่าผมรู้สึกภาคภูมิใจของเขาตลอดเวลา ฉันชอบเขาเป็นพันธมิตรของฉัน และเราไม่สามารถแลกเปลี่ยนของความสามัคคี ตาของเขาจะละเอียดอ่อน และอบอุ่น"ยัง เมื่อเราพูดคุยเกี่ยวกับการตกต่ำของ Lee Jong Suk กล่าว "แทนที่จะมีความสุข และสนุกสนานในขณะทำหน้าที่ ฉันรู้สึกว่า เขาจมกับอารมณ์ใหม่ ผมรู้สึกเป็นคล้ายความรู้สึกหลังจากผมมาถ่ายทำเรื่อง "คุณสวย" " และ"เมื่อเปิดตาของฉัน ฉันพลาดถ่ายทำ ฉันไม่สามารถหยิบไปอะไร ข้าทุกวันเดียว ฉันได้รับผ่านความรู้สึกนั้น และสามารถให้ความแข็งแรงมากกว่าการละครอีก"เหมือนมิตรภาพของพวกเขา ความรักของพวกเขา และสนับสนุน และมนุษยธรรมจิตตลอดจนพิจารณา และเคารพกันทำให้พวกเขาสามารถที่จะนำมาออกดีที่สุดสำหรับคู่ดาร์ลิงซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนคู่ดาร์ลิงถูกจริง Park Shin Hye pouted และกล่าว ว่า "ฉากที่พ่อของฉันมีจินตนาการที่เรามีจูบขนมปังต้องแสดงมากรัก แต่ Jong Sukkie และฉันไม่ได้จริง ๆ ใช้กันแล้วดังนั้นจริง ๆ ทำเราแก๊ก PD-นิ่มแม้ scolded เรา โดยบอกว่า "ไม่พวกคุณเคยวัน" รู้สึกว่า กดขนมปังที่ในปากของฉันสำหรับจูบปังยากจริง ๆ ด้วย"เธอเพิ่ม "พบความรู้สึกที่แตกต่างกันปากครองจูบและจูบขนมปัง ในขณะที่จูบแรกซ้ายฉันความรู้สึกรู้สึกเสียวซ่า ฉันมีประสบการณ์เพิ่มเติมอารมณ์ ด้วยฉากแบ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันมีประสบการณ์ดังกล่าวแข็งแรงความรู้สึกทางอารมณ์ของแบ่งได้ถึงจุดที่ผมสงสัยกับตัวเอง "ทำไมฉันรู้สึกแบบนี้" หัวใจรู้สึกมันถูกจริง ๆ แบ่งให้ข้ามากวันนั้น"Park Shin Hye สรุปการสัมภาษณ์ โดยการพูด "ก่อนถ่ายทำ 'พินอคคิโอ' ฉันไม่ได้จ่ายมากข่าว แล้วจริง ๆ เน้นข่าวที่มีผลกระทบมากกว่าข้อเท็จจริง ตอนนี้ ฉันชอบที่จะดูข่าวแม้แต่คนที่อาจดูน่าเบื่อ เพราะมีข่าวที่ต้องการได้ยิน ฉันดูข่าวทั้งหมดเช่นกรณีการลอบวางเพลิง ละเมิดสิทธิ และความรุนแรง ฉันดูทุกอย่างในข่าวตอนนี้โฟกัสว่าข่าวจะจริงรายงานเราข้อเท็จจริง หรือเพียงต้องการให้ข่าวสารที่เราต้องการได้ยิน 'พินอคคิโอ' จริง ๆ แล้วมุมมองของฉันของข่าว"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปาร์คชินเฮกล่าวว่า "ทุกครั้งที่สองที่ผมกำลังถ่ายทำฉากที่ผมรู้สึกมีความสุข. พยายามที่จะหากรณีเป็นเรื่องที่สนุกและวิวัฒนาการของความรักระหว่าง Inha และ Dalpo เป็นหวานและสรรเสริญ. มันไม่ได้ทั้งหมดเกี่ยวกับโลกดังนั้นฉันชอบมัน และผมชอบฉากครอบครัว. ผมชอบทุกอย่าง. " และ "ฉัน 'Pinocchio' เป็นละครที่ยังไม่เสร็จ. คำไม่น้ำหนักของช่วงเวลาหนึ่ง แต่น้ำหนักที่จะโทรที่แม้ในอนาคต." ปาร์คชินเฮร้องไห้เมื่อเธอเห็นบท 'Pinocchio' และรู้สึกว่า เหมือนที่เธอต้องการที่จะทำหน้าที่ในละครเรื่องนี้เพื่อให้เธอยกเลิกเป้าหมายเดิมของเธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและตัดสินใจที่จะถ่ายทำและจบละครเรื่องนี้. เธอกล่าวว่า "Inha มีบุคลิกที่เหมือนกันและการพูดทื่อเหมือนฉัน." และ "เธอเป็นคนที่มีชีวิตชีวามากยิ้มและหัวเราะเสียงดังเหมือนกันผมว่ามันทำให้ฉันประหลาดใจที่ตัวละครจะเป็นเช่นโคลนของฉัน." ปาร์คชินเฮกล่าวว่า "ฉันร้องไห้เป็นจำนวนมาก Inha กับความรู้สึกที่แท้จริง จะบอกความจริงบางครั้งผมร้องไห้อยู่ด้านหน้าของแม่และพ่อของฉันในขณะที่การยึดมั่นในพวกเขาซึ่งทำให้ฉากครอบครัวดูเหมือนจริงมากขึ้น. " และ "แม้ Inha เรียกคุณปู่" Harabeoji, Harabeoji ~ "และคุณปู่ตอบกลับว่า" ผมไม่มีเงิน "เป็นปฏิสัมพันธ์เดียวกันฉันมีกับคุณปู่ของฉัน." เธอยังคงอยู่ "แม้เมื่อเราไม่ได้ถ่ายทำแม่ของจินยอง จะโทรหาฉัน 'Ddoksooni' และฉันจะเรียกแม่ของเธอ. เธอจะดูแลที่ดีของฉันเป็นถ้าเธอเป็นเหมือนแม่ที่แท้จริงของฉัน. เธอจะบ่นเกี่ยวกับวิธีการที่อาจจะมีเช่นแม่ในโลกนี้และหวังว่าจะได้รับ Hamyeong ของเขา แก้แค้นในที่สุด. นอกจากนี้แม่ inha ในละครเรื่องนี้มีอากาศหนาวเย็นและแม่ของฉัน (จริง) เป็นเหมือนว่าบางครั้งดังนั้นฉันจะรู้สึกเศร้าและอยากจะร้องไห้. ตอนนี้เมื่อใดก็ตามที่ผมได้ยินแม่ของฉันพูดฉันต้องการที่จะร้องไห้ทุกครั้ง . ดังนั้นฉากกับแม่ของจินยองจริงๆทำให้ผมอยากจะร้องไห้. " ปาร์คชินเฮเป็นที่รู้จักกันไปทั่ววงการบันเทิงเป็นราชินีของการทำให้เพื่อนกับทุกคนและเป็นที่รู้จักสำหรับการที่ดีและง่ายที่จะได้รับพร้อมกับ อย่างไรก็ตามเธอกล่าวพร้อมกับหัวเราะขนาดเล็ก "ที่ฉันหายไปชื่อของดอกไม้ของเว็บไซต์การถ่ายทำเนื่องจาก Jong Sukkie." เธอเพิ่มเข้ามาด้วยความผิดหวังที่น่ารัก "ฉันหายไปแม้แต่ความยาวของขนตาของเขาและหายไปแอ๊บแบ๊วของเขา. ฉันหายไปทุกอย่าง." แต่ผ่านการประเมินผลอย่างต่อเนื่องของ Lee Jong Suk เราก็สามารถที่จะเรียนรู้วิธีการปิดพวกเขาและวิธี พวกเขายันกับแต่ละอื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุนเป็นเพื่อนและเป็นเพื่อนร่วมงาน เธอกล่าวว่า "จง Sukkie เป็นเพื่อนที่น่ารัก. ร่างของเขาเต็มไปด้วยความน่ารักน่ารักดังนั้นฉันถามว่าเขาเป็นลูกคนสุดท้อง แต่เขาตอบว่าเขาเป็นที่เก่าแก่ที่สุด." และ "เพราะเขาฉันก็สามารถที่จะหัวเราะมากแปลกผมรู้สึกภูมิใจในตัวเขาในช่วงเวลาที่ผมชอบเขาในฐานะพันธมิตรของฉันและเราสามารถที่จะแลกเปลี่ยนจำนวนมากของความสามัคคี. ดวงตาของเขามีความละเอียดอ่อนและอบอุ่น." นอกจากนี้ เมื่อเราได้พูดคุยเกี่ยวกับการตกต่ำ Lee Jong Suk เธอกล่าวว่า "แทนที่จะมีความสุขและมีความสนุกสนานในขณะที่ทำหน้าที่ผมรู้สึกว่าเขาเป็นจมกับอารมณ์ใหม่. ผมรู้สึกว่าเป็นความรู้สึกที่คล้ายกันหลังจากที่ผมถ่ายทำ 'คุณสวย'." และ "เมื่อฉันเปิดตาของฉันฉันพลาดถ่ายทำฉันไม่สามารถคว้าอะไรและฉันร้องไห้ทุกวันเดียว. ผมก็สามารถที่จะได้รับมากกว่าความรู้สึกและก็สามารถที่จะนำความแข็งแรงมากขึ้นกับละครอื่น." เช่นเดียวกับมิตรภาพของพวกเขา ความรักของพวกเขาและการสนับสนุนและความรักที่มีมนุษยธรรมของพวกเขาเช่นเดียวกับการพิจารณาและเคารพซึ่งกันและกันทำให้พวกเขาสามารถที่จะนำมาออกที่ดีที่สุดสำหรับคู่รักที่รักซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนคู่ที่รักเป็นเรื่องจริง ปาร์คชินเฮ pouted และกล่าวว่า "ฉากที่พ่อของฉันมีจินตนาการของเรามีขนมปังปิ้งจูบที่จำเป็นในการแสดงความรักมากมาย แต่ Jong Sukkie และฉันไม่ได้ใช้จริงๆกับแต่ละอื่น ๆ แล้วจึงจริงๆทำให้เราปิดปาก . PD-nim แม้ดุเราโดยพูดว่า "พวกคุณไม่ได้วันที่เคย?" ผมรู้สึกว่าขนมปังโฮลดิ้งในปากของฉันจูบขนมปังปิ้งเป็นเรื่องยากจริงๆ. " เธอกล่าวเสริมว่า "ผมมีประสบการณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันสำหรับปาก Covered จูบ และจูบขนมปัง. ในขณะที่จูบแรกทิ้งฉันรู้สึกเสียวซ่าผมมีประสบการณ์อารมณ์มากขึ้นกับฉากการล่มสลาย. โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมมีประสบการณ์ความรู้สึกทางอารมณ์เช่นที่แข็งแกร่งของการล่มสลายถึงจุดที่ผมสงสัยกับตัวเองว่า "ทำไม am ผมรู้สึกแบบนี้? "หัวใจของฉันรู้สึกเหมือนมันเป็นจริงทำลายที่ฉันร้องไห้มากวันนั้น." ปาร์คชินเฮสรุปการสัมภาษณ์โดยกล่าวว่า "ก่อนที่จะถ่ายทำ 'Pinocchio' ผมไม่ได้จ่ายมากกับข่าวและจริงๆ มุ่งเน้นไปที่ข่าวว่ามีผลกระทบมากกว่าข้อเท็จจริง. ตอนนี้ผมชอบที่จะดูข่าวแม้กระทั่งคนที่อาจจะดูน่าเบื่อเพราะเหล่านี้มีข่าวว่าผมต้องการที่จะได้ยิน ผมดูข่าวเหมือนทุกกรณีของการลอบวางเพลิงเสพติดและความรุนแรง ฉันดูทุกอย่างที่เกี่ยวกับข่าวในขณะนี้และเน้นว่านักข่าวจริงๆเรารายงานข้อเท็จจริงหรือเพียงแค่ต้องการที่จะให้เรามีข่าวว่าเราต้องการที่จะได้ยิน 'Pinocchio' การเปลี่ยนแปลงจริงๆมุมมองของฉันของข่าว. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปาร์ค ชิน เฮ กล่าวว่า " ทุกๆ ครั้งที่ฉันถ่ายละคร ผมรู้สึกมีความสุข พยายามค้นหากรณีคือความสนุกและวิวัฒนาการของความรักระหว่าง inha และทัลโพคือหวานและน่าสรรเสริญ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องประโลมโลก ฉันชอบมัน ฉันชอบฉากที่ครอบครัว ฉันชอบทุกสิ่ง " และ " ฉัน ' Pinocchio ' เป็นละครที่ยังไม่เสร็จ คำพูดไม่มีน้ำหนักในช่วงเวลาหนึ่งแต่น้ำหนักที่ใช้เวลาการโทรแม้ในอนาคต "

ปาร์คชินเฮร้อง เมื่อเธอได้เห็นบทของ ' Pinocchio ' และรู้สึกว่าเธอต้องการที่จะแสดงในละครเรื่องนี้เธอยกเลิกเธอเดิมเป้าหมายเรียนจบจากมหาวิทยาลัย และตัดสินใจที่จะจบภาพยนตร์และละคร

เธอกล่าวว่า " inha มีบุคลิกเดียวกันและมีการพูดเหมือนฉัน " และ " เธอร่าเริง ยิ้มบ่อยและหัวเราะเสียงดังเหมือนฉัน มันทำให้ฉันแปลกใจว่าตัวละครจะเป็นเช่นโคลนของฉัน . "

ปาร์คชินเฮพูดว่า " ฉันร้องไห้มากเป็น inha กับความรู้สึกที่แท้จริง บอกตามตรง ฉันก็ร้องไห้ต่อหน้าพ่อและแม่ของฉันในขณะที่ยึดมั่นในพวกเขาซึ่งทำให้ฉากครอบครัวที่ดูเหมือนจริงมากขึ้น . " และ " แม้ inha เรียกปู่ " harabeoji harabeoji , ~ " และปู่ตอบกลับ" ฉันไม่มีเงิน " เป็นปฏิกิริยาเดียวกับผมกับปู่ของฉัน "

เธออย่างต่อเนื่อง " แม้เมื่อเราไม่ถ่าย แม่จินคยองก็เรียกฉันว่า ' ddoksooni ' และฉันจะโทรหาแม่เธอ เธอจะดูแลฉัน เธอเหมือนเป็นแม่แท้ๆของฉัน เธอจะบ่นทำไมมีเช่นแม่ในโลกนี้ และหวังว่า hamyeong จะแก้แค้นในที่สุด นอกจากนี้inha แม่ในละครเย็นและแม่ ( จริง ) ก็เป็นแบบนี้ บางครั้งผมก็รู้สึกเศร้าและอยากร้องไห้ ตอนนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมได้ยินแม่พูด ฉันต้องร้องไห้ทุกครั้ง ดังนั้นฉากกับแม่จินคยองจริงๆทำให้ผมต้องร้องไห้ "

ปาร์ค ชิน เฮ เป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งวงการบันเทิงเป็นราชินีของเป็นเพื่อนกับทุกคน และเป็นที่รู้จักกันสำหรับการที่ดีและง่ายที่จะได้รับพร้อมกับ . อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวพร้อมกับหัวเราะเล็ก ๆ " ไม่ ผมลืมชื่อของดอกไม้ สถานที่ถ่ายทำ เนื่องจากจองซอก " เธอกล่าวกับความผิดหวังน่ารัก " ผมต้องสูญเสียไปตามความยาวของขนตา และแพ้ความน่ารักของเขา ฉันสูญเสียทุกอย่าง

"อย่างไรก็ตาม ผ่านการประเมินผลอย่างต่อเนื่องของ ลี จุง ซุก เราสามารถที่จะเรียนรู้วิธีการปิดพวกเขาเป็นและวิธีการมากที่พวกเขายันกับแต่ละอื่น ๆเพื่อสนับสนุนการเป็นเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน เธอกล่าวว่า " จงซอก คือ เพื่อนที่น่ารัก ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยน่ารักแอ๊บแบ๊ว ฉันถามว่าเขาเป็นลูกคนสุดท้อง แต่เขาตอบว่าเขาเป็นคนโต และเพราะเขา ฉันสามารถที่จะหัวเราะเยอะๆแปลกที่ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเขาตลอดเวลา ผมชอบเขาในฐานะหุ้นส่วน และเราสามารถที่จะแลกเปลี่ยนมากของความสามัคคี ตาของเขามีความละเอียดอ่อนและอบอุ่น "

นอกจากนี้ เมื่อเราพูดถึงตกต่ำ , ลี จอง ซุก เธอกล่าวว่า " แทนที่จะมีความสุขและมีความสนุกสนานในขณะที่การแสดง ผมรู้สึกว่าเขาถูกครอบงำด้วยอารมณ์ใหม่ ความรู้สึกที่คล้ายกัน หลังจากที่ผมถ่าย ' สวย '" และ " เมื่อผมลืมตาขึ้น ผมไม่ได้ถ่าย ผมไม่สามารถคว้าอะไร ฉันร้องไห้ทุกวัน ผมสามารถที่จะได้รับความรู้สึกนั้น และสามารถใส่พลังเพื่อละครอีกเรื่อง "

ชอบมิตรภาพของพวกเขาความรักของพวกเขาและให้การสนับสนุนและความรักเมตตา ตลอดจนการพิจารณาและการเคารพซึ่งกันและกัน ให้สามารถนำมาออกที่ดีที่สุดสำหรับที่รักคู่ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนที่รักคู่จริงๆ ปาร์ค ชิน เฮ ยื่น และบอกว่า " ฉากที่พ่อผมมีจินตนาการของเรา มีขนมปังปิ้ง จูบ ต้องแสดงความรักมากมายแต่ซอกจองกับผมไม่ได้จริง ๆใช้กัน แล้วมันทำให้เราเล่นมุก พีดีนิมก็ด่าเรา โดยกล่าวว่า " พวกคุณอาจเคย ? ผมรู้สึกว่าถือขนมปังอยู่ในปากสำหรับขนมปังจูบมันยากจริงๆ "

เธอกล่าว " ผมมีประสบการณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันสำหรับปากและขนมปังปิ้งครอบคลุมจูบจูบ ในขณะที่จูบแรกจากฉันเสียวซ่าความรู้สึกผมมีประสบการณ์อารมณ์มากขึ้นด้วยการแบ่งฉาก โดยเฉพาะ ผมมีประสบการณ์เช่นแรงอารมณ์ความรู้สึกของการแบ่งถึงจุดที่ผมสงสัยกับตัวเองว่า " ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้ ? " หัวใจของฉันรู้สึกเหมือนมันก็ทำลายผมร้องไห้ทุกวัน "

ปาร์คชินเฮได้ให้สัมภาษณ์โดยกล่าวว่า " ก่อนถ่ายทำ ' Pinocchio 'ผมไม่ได้จ่ายมากกับข่าว และเน้นจริงๆในข่าวที่ได้ผลกระทบมากกว่าข้อเท็จจริง ตอนนี้ , ฉันต้องการดูข่าวคนที่แม้อาจจะดูน่าเบื่อ เพราะเป็นข่าวที่ผมต้องการจะได้ยิน ผมดูข่าว เช่น กรณีของการลอบวางเพลิง การละเมิดและความรุนแรงผมดูข่าวทุกอย่างในขณะนี้และเน้นว่านักข่าวจริงๆ รายงานข้อเท็จจริง หรือเราเพียงต้องการให้เราข่าวที่เราต้องการที่จะได้ยิน . . . พิน็อคคิโอ ' จริง ๆเปลี่ยนมุมมองของข่าว "
.