การทําบุญขึ้นบ้านใหม่
=================
การนิมนต์พระสงฆ์ จะนิมนต์ก่อนจะถึงวันพิธี ส่วนมากจะใช้จํานวนคี่ คือ 5 องค์ 7 องค์ 9 องค์ การที่นิมนค์พระจํานวนคี่ก็เพราะจะได้นับรวมพระพุทธด้วย รวมเป็นเลขคู่ เมื่อนิมนต์พระได้แล้ว พอถึงวันงานเราจะต้องจัดสถานที่ให้เรียบร้อย ลําดับแรกคือการตั้งพระพุทธบูชา จะตั้งบนโต๊ะหมู่พร้อมด้วยเครื่องบูชาที่จําเป็นคือ แจกันดอกไม้ เชิงเทียน กระถางธูป ถ้าไม่มีโต๊ะหมู่บูชา จะจัดหาโต๊ะที่มีความกว้างพอที่จะตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชาได้อย่างไม่แออัดก็ได้ แต่ควรดาดปูด้วยผ้าขาวสะอาด โดยให้พระพุทธรูปหันพระพักตรไปทางทิศตะวันออก
เมื่อตั้งพระพุทธรูปเสร็จแล้วก็เป็นการจัดอาสนะสงฆ์สําหรับพระสงฆ์ที่นิมนต์มา โดยจัดเป็นที่ๆเท่าจํานวนสงฆ์อาสนะสงฆ์มีลักษณะเป็นผ้าเพลาสี่เหลี่ยม ภายในยัดด้วยเศษผ้า ถ้าไม่มีจะขอยืมจากทางวัดก็ได้ การปูอาสนะก็เพื่อต้องการให้พระสงฆ์นั่งอยู่ในที่สูงกว่าฆราวาสนั่นเอง โดยจัดปูนับจากซ้ายมือของโต๊ะพระพุทธรูปเรียงซ้ายยาว โดยมีกระโถน แก้วนํ้า หรือพานหมากพลู และควรเตรียมของถวายพระ ที่นิยมกันก็คือปัจจัย (เงินใส่ซอง) และดอกไม้ธูปเทียนไว้ด้วย
สิ่งสําคัญอย่างหนึ่งคือ "การโยงด้ายสายสิญจน์" รอบบ้าน ถือกันว่า เพื่อป้องกันสรรพอุปัทวันตรายมิให้มาทําลายพิธีมงคลสายสิญจน์ที่ใช้ ควรใช้สายสิญจน์ที่จับเก้าเส้น วิธีวางสายสิญจน์ให้ตั้งต้นรอบองค์พระพุทธบูชาที่จัดตั้งไว้โดยโยงออกไปจากมุมห้อง เวียนไปทางขวาออกไปรอบเรือน หรือรอบรั้วบ้านยิ่งดี เมื่อวงรอบแล้วจึงยกเข้าสู่เรือนเข้าสู่ที่ตั้งพระพุทธรูป วนรอบบาตรนํ้ามนต์ กลุ่มสายสิญจน์ที่เหลือ วางไว้ข้างบาตรนํ้ามนต์บนพานเล็กๆ เมื่อพระสงฆ์มาถึงเข้าที่และเจริญพระพุทธมนต์แล้ว ท่านจะโยงกลุ่มสายสิญจน์ไปจากพระสงฆ์อาวุโสพรรษารูปแรกจนถึงรูปสุดท้าย การตั้งบาตรนํ้ามนต์ ต้องตั้งหน้าโต๊ะหมู่บูชาและพันด้วยสายสิญจน์ ส่วนมากนิยมใช้บาตรดิน แต่ถ้าไม่มีจะใช้ขันสัมฤทธิ์ หรือบาตรพระก็ได้ ใส่นํ้าสะอาดพอสมควร โดยพระสงฆ์ผู้อาวุดสจะเป็นผู้กระทําพิธีด้วยการใช้เทียนสําหรับทํานํ้ามนต์โดยเฉพาะหยดนํ้าตาเทียนลงไปในบาตรพระนั้ามนต์เป็นอันเสร็จพิธี
การเริ่มพิธีเมื่อพระสงฆ์มาถึงและเข้าที่เรียบร้อยแลัวสักครู่ เจ้าภาพจะต้องเป็นผู้จุดธูป 3 ดอกและเทียนคู่หน้าพระพุทธก่อน โดยจุดเทียนก่อนแล้วจึงจุดธูป แล้วจึงกราบพระพุทธ 3 หน แล้วเริ่มอาราธนาศีล 5 ( มะยังภันเตฯ ) เมื่อพระสงฆ์สวดเสร็จแล้วจะเจริญพระพุทธมนต์ ต่อไป แต่เจ้าภาพต้องอาราะนาพระปริตรอีกครั้งหนึ่งก่อน ( วิปฏิปัตติภาหายะฯ ) เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์บทนี้เสร็จ ก็ได้เวลาฉันเพลพอดี เจ้าภาพถวายอาหารคาวหวาน ถวายปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา ตอนนี้เจ้าภาพจะต้องทําพิธีกรวดนํ้าเมื่อพระสวดแผ่กุศล ( ยะถาวาริวะหาฯ ) และต้องกรวดนํ้าให้เสร็จก่อนพระเริ่มสวดสัพพี (สวดให้พรกับผู้ที่อยู่ในงาน ) เพราะจะต้องประณมมือรับพรในตอนนี้ เป็นอันเสร็จพิธีมงคลในการทําบุญขึ้นบ้านใหม่
การจัดโต๊ะบูชา ให้ใช้โต๊ะหมู่ ๕ หมู่ ๗ หรือหมู่ ๙ ถ้าไม่มีโต๊ะหมู่จะใช้โต๊ะอย่างอื่นที่เหมาะสมแทนก็ได้ เมื่อไม่สามารถจะหาโต๊ะหมู่และเครื่องตั้งบูชาได้ครบ ก็พึงจัดหาเท่าที่หาได้ คือ พระพุทธรูป ๑ องค์ ตั้งไว้ที่โต๊ะตัวสูง ผินหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ถ้าสถานที่ไม่อำนวย ก็ให้ตั้งผินหน้าไปทางที่เหมาะสม การที่นิยมตั้งพระพุทธรูปผินหน้าไปทางทิศตะวันออกนั้น นิยมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เพราะพระองค์ผินหน้าไปทางทิศตะวันออก รวมไปถึงตั้งหิ้งพระบูชาที่บ้าน หรือตามสถานที่ราชการทั่วไป ก็นิยมปฏิบัติตามในทิศดังกล่าวนี้ ถือกันว่าผินหน้าไปทางทิศอื่นหรือทิศตรงกันข้าม จะไม่เป็นมงคลทำนองนี้
วิธีการโยงสายสิญจน์ ให้ตั้งต้นที่พระพุทธรูป เวียนตามเข็มนาฬิกา โยงออกไปรอบบ้านหรือรั้วบ้านแล้ววนกลับเข้ามาตรงเสาเรือนเข้าสู่ที่บูชา แล้ววงรอบฐานพระพุทธรูป โยงรอบบาตรหรือขันน้ำมนต์กลุ่มด้ายสายสิญจน์ที่เหลือวางไว้บนพาน ตั้งไว้ในที่อันควร เวลาวางสายสิญจน์ พึงพยายามสำรวมจิตรำลึกถึง คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ขออำนาจช่วยปกปักรักษาปัดเป่าสรรพภยันตราย ให้เกิดความสุข ความเจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตลอดกาล