of reading habit, barriers that stu

of reading habit, barriers that students face during reading,
time spent on reading every one of medical references. Using
Likert scale the answers were designed as multiple choice
questions; to answer questions about the degree of benefit
gained from medical references; (with 5 answers) as not useful
at all, partially not useful, neutral, somewhat useful and extremely
useful.
Scores for knowledge, attitude and practice were calculated
using the following formula: “Total score/Maximum possible
score
100”.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อ่านนิสัย อุปสรรคที่ใบหน้าของนักเรียนระหว่างการอ่านเวลาที่ใช้ในการอ่านทุกคนอ้างอิงทางการแพทย์ โดยใช้สเกล Likert ได้คำตอบมาหลากหลายเป็นทางเลือกถาม ตอบคำถามเกี่ยวกับระดับของประโยชน์ของจากการอ้างอิงทางการแพทย์ (กับคำตอบ 5) ไม่มีประโยชน์ที่ทั้งหมด บางส่วนไม่มีประโยชน์ เป็นกลาง มีประโยชน์ค่อนข้างมากและมีประโยชน์มีคำนวณคะแนนสำหรับความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติโดยใช้สูตรต่อไปนี้: "รวมคะแนน/เป็นไปได้สูงสุดคะแนน 100"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นิสัยการอ่านอุปสรรคที่นักเรียนเผชิญในระหว่างการอ่าน
เวลาที่ใช้ในการอ่านทุกคนของการอ้างอิงทางการแพทย์ ใช้
ขนาด Likert คำตอบที่ถูกออกแบบมาเป็นทางเลือกหลาย
คำถาม; ที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับระดับของผลประโยชน์ที่
ได้รับจากการอ้างอิงทางการแพทย์ (มี 5 คำตอบ) ในขณะที่ไม่ได้มีประโยชน์
ในทุกส่วนไม่ได้มีประโยชน์ที่มีความเป็นกลางค่อนข้างมากที่มีประโยชน์และ
มีประโยชน์.
คะแนนสำหรับความรู้ทัศนคติและการปฏิบัติที่ถูกคำนวณ
โดยใช้สูตรต่อไปนี้: "รวมคะแนน / ความเป็นไปได้สูงสุด
คะแนน? 100 "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นิสัยรักการอ่าน อุปสรรคที่ใบหน้าของนักเรียนในระหว่างการอ่าน เวลาที่ใช้ในการอ่าน
ทุกคนอ้างอิงทางการแพทย์ ใช้
มาตรวัดแบบไลเคิร์ต คำตอบถูกออกแบบมาเป็นคำถามหลายทางเลือก
; เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับระดับของผลประโยชน์ที่ได้รับจากอ้างอิงทางการแพทย์
; ( 5 ตอบ ) ไม่มีประโยชน์
ทั้งหมด บางส่วนที่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นกลาง ค่อนข้างมีประโยชน์มากและเป็นประโยชน์

.คะแนนความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติ คำนวณโดยใช้สูตรต่อไปนี้ : "

คะแนนรวมคะแนนสูงสุดที่เป็นไปได้
100 "