Bilateral trade[edit]Official figur

Bilateral trade[edit]
Official figures of trade volume published by two countries contradict each other.

According to Thai sources, trade with Russia in 2008 reached 2.11 billion US dollars; Thailand has a trade deficit of 1.76 billion US dollars.[1] Russia exports mineral resources, while Thailand exports auto parts, electronics and foodstuffs.[1]
According to Russian customs service, Russian exports to Thailand in 2008 amounted to 1.23 billion, imports to 1.49 billion, leaving Russia with a deficit of 254 million US dollars.[2] In total, trade with Thailand is only 0.4% of Russian foreign trade.[2] According to Russian embassy in Bangkok, Thailand is Russia's largest trading partner in South-eastern Asia and third largest buyer of Russian ferrous metals worldwide.[3]
As recently as in 2002, Russia had a significant trade deficit and imported significant (up to half a million metric tons p.a.)[4] amounts of Thai rice.[5] In 2005 Russia imposed prohibitive protectionist tariffs on rice, then an embargo on Thai rice and a full ban on imports of Thai rice in 2007, citing pest infection.[4]

In 2004 Thailand approached Russian authorities about the prospects of buying 12 Su-30 jet fighters. Thai chicken industry, weakened by avian influenza crisis,[6] enthusiastically backed the deal, betting on reciprocal easing of Russian food import regime, but the deal never materialized.[7] In October 2008 Thai Prime Minister Somchai Wongsawat agreed to purchase Russian Mi-17 military helicopters, breaking with dependence on American weapons,[8] however his government was ousted two months later.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้ไข] การค้าทวิภาคีตัวเลขอย่างเป็นทางการของปริมาณการค้าที่เผยแพร่ โดยทั้งสองประเทศขัดแย้งกันตามแหล่งไทย ทำค้ากับรัสเซียใน 2008 เดิน 2.11 ล้านเหรียญ ประเทศไทยมีดุลการค้า 1.76 พันล้านดอลลาร์ [1] รัสเซียส่งออกทรัพยากรแร่ ในขณะที่ไทยส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร [1]ตามศุลกากรรัสเซีย รัสเซียส่งออกไทยในปี 2551 มีการนำเข้าที่ 1.23 พันล้าน จะ 1.49 พันล้าน ออกจากรัสเซียกับดุล 254 ล้านดอลลาร์ [2] ในผลรวม การค้ากับประเทศไทยมีเพียง 0.4% ของการค้าต่างประเทศรัสเซีย [2] ตามสถานทูตที่รัสเซียในกรุงเทพฯ ประเทศไทยเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้ซื้อมากที่สุดสามของรัสเซียโลหะเหล็กทั่วโลก [3]ล่าสุดในปี 2002 รัสเซียมีการขาดดุลทางการค้าที่สำคัญ และนำเข้าสำคัญ (ถึงเป็นล้านเมตริกตันต่อครึ่ง) [4] ยอดข้าว [5] ในปี 2005 รัสเซียกำหนดนโยบายห้ามปรามภาษีข้าว แล้ว embargo ที่เกี่ยวกับข้าวและการห้ามนำเข้าข้าวในปี 2007 เต็มอ้างพืชติดเชื้อ [4]ในปี 2004 ไทยทาบทามหน่วยงานรัสเซียเกี่ยวกับแนวโน้มการซื้อนักรบ jet Su 30 12 อุตสาหกรรมไก่ไทย ลดลงจากวิกฤติไข้หวัดนก, [6] ใหม่ ๆ สนับสนุนการจัดการ การวางเดิมพันในการผ่อนคลายกฎของอาหารรัสเซียนำระบอบการปกครอง แต่การเจรจาไม่ materialized [7] ในเดือน 2008 ตุลาคม พ.ต.ท.สมชาย Wongsawat ตกลงการซื้อเฮลิคอปเตอร์ทหารรัสเซีย Mi-17 ทำลาย ด้วยการพึ่งพาอาวุธอเมริกัน, [8] อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของเขาถูกล้มสองเดือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การค้าทวิภาคี [แก้ไข]
. ตัวเลขอย่างเป็นทางการของปริมาณการค้าการตีพิมพ์โดยทั้งสองประเทศขัดแย้งกันตามแหล่งที่มาไทยการค้ากับรัสเซียในปี 2008 ถึง $ 2110000000; ประเทศไทยมีการขาดดุลการค้าของ $ 1760000000. [1] รัสเซียส่งออกทรัพยากรแร่ในขณะที่ประเทศไทยส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์และอาหาร. [1] ตามบริการศุลกากรรัสเซียส่งออกของรัสเซียเข้ามาในประเทศไทยในปี 2008 มีจำนวน 1230000000 การนำเข้า 1.49 พันล้านออกจากรัสเซียที่มีการขาดดุล 254 ล้านดอลลาร์สรอ. [2] รวมการค้ากับประเทศไทยเป็นเพียง 0.4% ของการค้าต่างประเทศของรัสเซีย. [2] ตามที่สถานทูตรัสเซียในกรุงเทพฯซื้อขายใหญ่ที่สุดของรัสเซียพันธมิตรใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้ซื้อที่สามที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียโลหะเหล็กทั่วโลก. [3] เมื่อเร็ว ๆ นี้ในปี 2002 รัสเซียมีการขาดดุลทางการค้าที่สำคัญและนำเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ (ถึงครึ่งล้านเมตริกตันต่อปี) [4] ปริมาณของข้าวไทย [5] ในปี 2005 รัสเซียกำหนดอัตราภาษีศุลกากรกีดกันห้ามปรามข้าวแล้วห้ามข้าวไทยและห้ามเต็มรูปแบบในการนำเข้าข้าวไทยในปี 2007 โดยอ้างถึงการติดเชื้อศัตรูพืช. [4] ในปี 2004 ประเทศไทยเข้าหาทางการรัสเซียเกี่ยวกับแนวโน้มของการซื้อ 12 Su-30 เครื่องบินรบ อุตสาหกรรมไก่ไทยลดลงจากวิกฤตไข้หวัดนก [6] กระตือรือร้นได้รับการสนับสนุนข้อตกลงการพนันในการผ่อนคลายซึ่งกันและกันของระบอบการปกครองที่นำเข้าอาหารรัสเซีย แต่การจัดการที่ไม่เคย. [7] ในตุลาคม 2008 นายกรัฐมนตรีไทยนายสมชายวงศ์สวัสดิ์ตกลงที่จะซื้อรัสเซีย Mi -17 เฮลิคอปเตอร์ทหารทำลายด้วยการพึ่งพาอาวุธอเมริกัน [8] แต่รัฐบาลของเขาถูกตัดขาดสองเดือนต่อมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การค้าทวิภาคี [ แก้ไข ]
ตัวเลขอย่างเป็นทางการของปริมาณการค้าสองประเทศที่เผยแพร่โดยขัดแย้งกับแต่ละอื่น ๆ .

ตามแหล่งที่มาไทยค้ากับรัสเซียในปี 2008 ถึง 2.11 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ไทยได้ดุลการค้าของ 1.76 พันล้านดอลลาร์ [ 1 ] รัสเซียส่งออกทรัพยากรแร่ ขณะที่ไทยส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และ ของกิน [ 1 ]
จากรัสเซียบริการศุลกากรการส่งออกของรัสเซียกับประเทศไทย ในปี 2551 มีจำนวน 1.23 ล้านบาท นำเข้า 1.49 พันล้าน จากรัสเซีย ด้วยการนำ 254 ล้านเหรียญสหรัฐ [ 2 ] รวมการค้ากับไทยเพียง 0.4% ของการค้าต่างประเทศของรัสเซีย [ 2 ] ตามสถานทูตรัสเซีย ไทยเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียในภูมิภาคเอเชีย ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ที่สามที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียและผู้ซื้อโลหะเหล็กทั่วโลก [ 3 ]
เมื่อเร็ว ๆ นี้ในปี 2002 , รัสเซียมีการขาดดุลการค้าที่สําคัญ และนำเข้าที่สำคัญ ( ถึงครึ่งล้านเมตริกตันต่อปี ) [ 4 ] ปริมาณข้าวไทย [ 5 ] ในปี 2005 รัสเซียบังคับห้ามกีดกันภาษีข้าว แล้วห้ามในข้าวไทยและบ้านเต็มรูปแบบในการนำเข้าข้าวไทยในปี 2007 อ้างการติดเชื้อเพสท์ [ 4 ]

ในปี 2004 ประเทศไทยเข้าหาเจ้าหน้าที่รัสเซีย เกี่ยวกับโอกาสในการซื้อเครื่องบินรบ Su-30 12 . อุตสาหกรรมไก่ไทย ลดลงจากวิกฤตไข้หวัดนก , [ 6 ] กระตือรือร้นสนับสนุนข้อตกลงการพนันในการผ่อนคลายกฎของการปกครองรัสเซียนำเข้าอาหาร แต่การเจรจาไม่เคยปรากฏ .[ 7 ] ในเดือนตุลาคม 2551 นายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตกลงที่จะซื้อเฮลิคอปเตอร์กองทัพรัสเซีย mi-17 หมดสภาพกับการพึ่งพาอาวุธอเมริกัน , [ 8 ] แต่รัฐบาลของเขาถูกขับออกไป สองเดือนต่อมา