Making Predictions: A Strategy for

Making Predictions: A Strategy for Reading and Science Learning


Making predictions is a strategy in which readers use information from a text (including titles, headings, pictures, and diagrams) and their own personal experiences to anticipate what they are about to read (or what comes next). A reader involved in making predictions is focused on the text at hand, constantly thinking ahead and also refining, revising, and verifying his or her predictions. This strategy also helps students make connections between their prior knowledge and the text.
Students may initially be more comfortable making predictions about fiction than nonfiction or informational text. This may be due to the fact that fiction is more commonly used in early reading instruction. Students also tend to be more comfortable with the structure of narrative text than they are with the features and structures used in informational text. However, the strategy is important for all types of text. Teachers should make sure to include time for instruction, modeling, and practice as students read informational text. They can also help students successfully make predictions about informational text by ensuring that students have sufficient background knowledge before beginning to read the text.
Predicting is also a process skill used in science. In this context, a prediction is made about the outcome of a future event based upon a pattern of evidence. Students might predict that a seed will sprout based on their past experiences with plants or that it will rain tomorrow based on today’s weather. Teachers can help students develop proficiency with this skill by making connections between predicting while reading and predicting in science. Students will not necessarily make these connections independently, so teacher talk and questioning are important.
Sometimes, teachers will use the terms prediction and hypothesis interchangeably in science. While the terms are similar, there are subtle differences between the two. A hypothesis is a specific type of prediction made when designing and conducting an investigation in which a variable is changed. For example, students might write a hypothesis about what will happen to a plant’s growth if the amount of water is increased. A hypothesis is often written as an “If…then…” statement.
The distinction between a prediction and a hypothesis is not something that elementary students need to understand and explain. However, teachers can be cognizant of how they use these words during science instruction – using prediction for statements of what might happen based on prior knowledge or evidence and hypothesis only when an investigation calls for a variable to be changed.
________________________________________
For More Information
Predicting
This page provides an overview of the reading strategy, an explanation of how predicting supports reading comprehension, and several activities that support students in predicting. The article also includes a list of Ohio’s Academic Content Standards as they relate to predicting.
Predicting
This article discusses the strategy of predicting and why it is important. It also includes ideas for supporting students as they become proficient in making predictions about text.
Directed Reading Thinking Activity (DRTA)
DRTA is a way to support students as they practice making predictions from a text. This article provides a step-by-step sequence for teachers who wish to create a directed reading thinking activity with any type of text.
Tips for Success with Informational Text
This brief article discusses five steps that can help students make predictions about an informational text. Students preview the article and then jot down words that they would expect to find in the article.
The Science Process Skills
This article includes definitions of both prediction and hypothesis as they apply to science.
Learning and Assessing Science Process Skills
This book explains basic and integrated science process skills and provides activities to help your students develop these skills.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำให้คาดคะเน: กลยุทธ์การอ่านและการเรียนรู้วิทยาศาสตร์การคาดคะเนเป็นกลยุทธ์ที่ผู้อ่านใช้ข้อมูลจากข้อความ (รวมถึงชื่อเรื่อง หัวเรื่อง รูปภาพ และไดอะแกรม) และประสบการณ์ส่วนบุคคลของพวกเขาเองตัดสิ่งที่พวกเขากำลังจะอ่าน (หรืออะไรมาถัดไป) อ่านที่เกี่ยวข้องกับการคาดคะเนจะเน้นข้อความตลอด ตลอดเวลาคิดล่วงหน้า และยังกลั่น การแก้ไข และการตรวจสอบการคาดคะเนของเขา หรือเธอ กลยุทธ์นี้ยังช่วยให้นักเรียนทำการเชื่อมต่อระหว่างความรู้ก่อนและข้อความนักเรียนสะดวกสบายมากขึ้นทำให้คาดคะเนเกี่ยวกับนิยายกว่า nonfiction ตัวแรกได้ นี้อาจจะเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่านิยายมากกว่าปกติใช้ก่อนอ่านคำสั่ง นักเรียนยังมีแนวโน้มจะสะดวกสบายมากขึ้นกับโครงสร้างของข้อความบรรยายกว่าจะ มีคุณสมบัติและโครงสร้างที่ใช้ในข้อความที่ให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์มีความสำคัญสำหรับข้อความทุกชนิด ครูควรทำให้มีเวลาสำหรับคำแนะนำ โมเดล และฝึกนักเรียนอ่านข้อความข้อมูล พวกเขายังสามารถช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จทำให้คาดคะเนเกี่ยวกับข้อความข้อมูล โดยมั่นใจว่า นักเรียนมีพื้นความรู้ที่เพียงพอก่อนที่จะเริ่มอ่านข้อความคาดการณ์ก็ได้ทักษะกระบวนการที่ใช้ในวิทยาศาสตร์ ในบริบทนี้ เป็นทำการคาดการณ์เกี่ยวกับผลของเหตุการณ์ในอนาคตที่ตามรูปแบบของหลักฐาน นักเรียนอาจทำนายว่า เมล็ดจะงอกงามตามประสบการณ์ของพวกเขามากับพืช หรือว่า ว่าฝนจะตกตามสภาพอากาศวันนี้พรุ่งนี้ ครูสามารถช่วยพัฒนาความชำนาญ มีทักษะนี้ โดยทำการเชื่อมต่อระหว่างการคาดการณ์ในขณะที่การอ่าน และการคาดการณ์ในวิทยาศาสตร์นักเรียน นักเรียนจะไม่จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อเหล่านี้อิสระ ดังนั้น ครูพูดคุยและซักถามเป็นสำคัญบางครั้งครูจะใช้คำทำนายและสมมติฐานสลับวิทยาศาสตร์ ขณะที่เงื่อนไขคล้ายกัน มีความแตกต่างอย่างลงตัวระหว่างสอง สมมติฐานเป็นชนิดของการออกแบบ และทำการสืบสวนที่มีเปลี่ยนตัวแปรทาย ตัวอย่าง นักเรียนจะเขียนสมมติฐานที่เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพื่อการเติบโตของพืชถ้าเพิ่มจำนวนน้ำ สมมติฐานมักจะเขียนเป็นตัว "ถ้า... แล้ว..." งบความแตกต่างระหว่างการคาดการณ์และสมมติฐานไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนระดับประถมศึกษาต้องเข้าใจ และอธิบาย อย่างไรก็ตาม ครูสามารถซึ่งรู้ถึงวิธีใช้คำเหล่านี้ในระหว่างการสอนวิทยาศาสตร์ – ใช้การคาดเดาสำหรับงบที่อาจเกิดขึ้นตามความรู้เดิม หรือหลักฐาน และสมมติฐานเฉพาะเมื่อการสอบสวนสำหรับตัวแปรที่มีการเปลี่ยนแปลง________________________________________สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมคาดการณ์หน้านี้แสดงภาพรวมของกลยุทธ์การอ่าน คำอธิบายวิธีคาดการณ์สนับสนุนการอ่านทำความเข้าใจ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สนับสนุนนักเรียนในการทำนาย บทความรวมถึงรายการมาตรฐานเนื้อหาวิชาการของรัฐโอไฮโอยังเกี่ยวข้องกับการคาดการณ์คาดการณ์บทความนี้กล่าวถึงกลยุทธ์ของการคาดการณ์ และเหตุผลเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังรวมแนวคิดสำหรับการสนับสนุนนักเรียนที่มีความเชี่ยวชาญในการคาดคะเนเกี่ยวกับข้อความโดยตรงอ่านคิดกิจกรรม (DRTA)DRTA คือ วิธีการสนับสนุนนักศึกษาจะฝึกทำการคาดคะเนจากข้อความ บทความนี้แสดงลำดับขั้นตอนสำหรับครูที่ต้องการสร้างการอ่านโดยตรงที่คิดกิจกรรมกับข้อความเคล็ดลับความสำเร็จด้วยตัวบทความนี้โดยย่อกล่าวถึงห้าขั้นตอนที่ช่วยให้นักเรียนทำการคาดคะเนเกี่ยวกับข้อความข้อมูล นักเรียนดูตัวอย่างบทความ และจดคำที่พวกเขาคาดหวังว่าจะค้นหาในบทความทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์บทความนี้ประกอบด้วยคำนิยามของการทำนายและสมมติฐานเท่านั้นวิทยาศาสตร์เรียนรู้ และประเมินทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์หนังสือเล่มนี้อธิบายทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน และบูรณาการ และกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือนักเรียนของคุณพัฒนาทักษะเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทำให้การคาดการณ์: กลยุทธ์สำหรับการอ่านและการเรียนรู้วิทยาศาสตร์การคาดการณ์เป็นกลยุทธ์ในการที่ผู้อ่านใช้ข้อมูลจากข้อความ (รวมถึงชื่อหัวรูปภาพและแผนภาพ) และประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองในการคาดการณ์สิ่งที่พวกเขากำลังจะอ่าน (หรือสิ่งที่ มาต่อไป) ผู้อ่านมีส่วนร่วมในการคาดการณ์การมุ่งเน้นไปที่ตัวอักษรที่อยู่ในมืออย่างต่อเนื่องคิดล่วงหน้าและการกลั่น, การแก้ไขและตรวจสอบการคาดการณ์ของเขาหรือเธอ กลยุทธ์นี้จะช่วยให้นักเรียนทำให้การเชื่อมต่อระหว่างความรู้ก่อนและข้อความของพวกเขา. นักเรียนอาจจะมีการคาดการณ์ในตอนแรกทำให้สะดวกสบายมากขึ้นเกี่ยวกับนิยายกว่าสารคดีหรือข้อความในการให้ข้อมูล นี้อาจจะเป็นเพราะความจริงที่ว่านิยายถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการเรียนการสอนการอ่านในช่วงต้น นักเรียนยังมีแนวโน้มที่จะสะดวกสบายมากขึ้นกับโครงสร้างของข้อความบรรยายกว่าที่พวกเขาจะมาพร้อมกับคุณสมบัติและโครงสร้างที่ใช้ในเอกสารในการให้ข้อมูล แต่กลยุทธ์ที่มีความสำคัญสำหรับทุกประเภทของข้อความ ครูควรให้แน่ใจว่าจะรวมถึงเวลาสำหรับการเรียนการสอน, การสร้างแบบจำลองและการปฏิบัติเป็นนักเรียนอ่านข้อความในการให้ข้อมูล นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับข้อความที่ให้ข้อมูลโดยมั่นใจว่านักเรียนมีความรู้พื้นฐานเพียงพอก่อนที่จะเริ่มที่จะอ่านข้อความ. ทำนายนี้ยังมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการ ในบริบทนี้การคาดการณ์ที่ทำเกี่ยวกับผลของเหตุการณ์ในอนาคตขึ้นอยู่กับรูปแบบของหลักฐาน นักเรียนอาจคาดการณ์ว่าเมล็ดจะงอกขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเขากับพืชหรือว่าฝนจะตกในวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนี้ ครูสามารถช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถมีทักษะนี้โดยการเชื่อมต่อระหว่างการคาดการณ์ในขณะที่อ่านและการคาดการณ์ในทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนจะไม่จำเป็นต้องให้การเชื่อมต่อเหล่านี้เป็นอิสระเพื่อพูดคุยและซักถามครูที่มีความสำคัญ. บางครั้งครูจะใช้ทำนายข้อกำหนดและสมมติฐานสลับกันในทางวิทยาศาสตร์ ในขณะที่ข้อตกลงจะคล้ายกันมีความแตกต่างที่ลึกซึ้งระหว่างคนทั้งสอง สมมติฐานเป็นชนิดที่เฉพาะเจาะจงของการคาดการณ์ที่ทำเมื่อมีการออกแบบและการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการที่ตัวแปรมีการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่นนักเรียนอาจเขียนสมมติฐานเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับการเจริญเติบโตของพืชถ้าปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้น สมมติฐานมักจะเขียนเป็น "ถ้า ... แล้ว ... " คำสั่ง. ความแตกต่างระหว่างการคาดการณ์และสมมติฐานไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนชั้นประถมต้องเข้าใจและอธิบาย แต่ครูสามารถรู้ทันวิธีที่พวกเขาใช้คำเหล่านี้ในระหว่างการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ -. โดยใช้การคาดการณ์สำหรับงบของสิ่งที่อาจเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความรู้เดิมหรือหลักฐานและสมมติฐานเฉพาะเมื่อการสอบสวนเรียกร้องให้ตัวแปรจะมีการเปลี่ยนแปลง________________________________________ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมทำนายนี้ หน้าให้ภาพรวมของกลยุทธ์การอ่านคำอธิบายของวิธีการทำนายสนับสนุนการอ่านจับใจความและกิจกรรมหลายอย่างที่สนับสนุนให้นักศึกษาในการทำนาย บทความนี้ยังรวมถึงรายชื่อของรัฐโอไฮโอมาตรฐานเนื้อหาทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์. ทำนายบทความนี้กล่าวถึงกลยุทธ์ในการคาดการณ์และเหตุผลที่มันเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ยังมีความคิดในการสนับสนุนนักเรียนที่พวกเขากลายเป็นความเชี่ยวชาญในการคาดการณ์เกี่ยวกับข้อความ. กำกับการอ่านการคิดกิจกรรม (dRTA) dRTA เป็นวิธีที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาที่พวกเขาปฏิบัติทำให้การคาดการณ์จากข้อความ บทความนี้จะให้ลำดับขั้นตอนโดยขั้นตอนสำหรับครูผู้สอนที่มีความประสงค์ที่จะสร้างการอ่านกำกับกิจกรรมคิดกับประเภทใด ๆ ของข้อความ. เคล็ดลับความสำเร็จกับข้อความข้อมูลข่าวสารบทความสั้น ๆ นี้กล่าวถึงห้าขั้นตอนที่สามารถช่วยให้นักเรียนทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับข้อความในการให้ข้อมูล นักเรียนดูตัวอย่างบทความแล้วจดคำว่าพวกเขาจะคาดหวังจะพบในบทความ. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์บทความนี้มีคำจำกัดความของทั้งสองการคาดการณ์และสมมติฐานที่พวกเขานำไปใช้กับวิทยาศาสตร์. การเรียนรู้และการประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หนังสือเล่มนี้อธิบายขั้นพื้นฐานและบูรณาการ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และมีกิจกรรมที่จะช่วยให้นักเรียนของคุณพัฒนาทักษะเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำให้คาดคะเน : กลยุทธ์สำหรับการอ่านและการเรียนรู้วิทยาศาสตร์


ทำให้คาดคะเนเป็นกลยุทธ์ที่ผู้อ่านใช้ข้อมูลจากข้อความ ( รวมทั้งชื่อเรื่อง , หัวเรื่อง , รูปภาพและไดอะแกรม ) และประสบการณ์ส่วนตัวของพวกเขาเองที่จะคาดการณ์สิ่งที่พวกเขากำลังอ่าน ( หรือสิ่งที่มาต่อไป ) อ่านที่เกี่ยวข้องกับการคาดคะเน เน้นข้อความในมือตลอดเวลาคิดไปข้างหน้าและการกลั่น , แก้ไข , การตรวจสอบและการคาดการณ์ของเขาหรือเธอ กลยุทธ์นี้ยังช่วยให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงระหว่างความรู้เดิมของพวกเขาและข้อความ .
นักเรียนอาจเริ่มต้นเป็นสะดวกสบายมากขึ้นทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับนิยายมากกว่าสารคดีหรือข้อความที่ให้ข้อมูล นี้อาจจะเนื่องจากความจริงที่ว่านิยายมากขึ้น นิยมใช้ในการสอนการอ่านนักเรียนมีแนวโน้มจะสะดวกสบายมากขึ้นกับโครงสร้างของข้อความเล่าเรื่องมากกว่าพวกเขากับคุณสมบัติและโครงสร้างที่ใช้ในข้อความที่ให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกประเภทของข้อความ ครูควรให้แน่ใจว่ารวมเวลาสำหรับการเรียนการสอน สร้างโมเดล และการปฏิบัติที่นักเรียนอ่านข้อความที่ให้ข้อมูลพวกเขายังสามารถช่วยให้นักเรียนประสบความสําเร็จทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับข้อความที่ให้ข้อมูล โดยมั่นใจว่านักเรียนมีความรู้พื้นฐานเพียงพอ ก่อนที่จะเริ่มอ่านข้อความ .
ทำนายยังใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในบริบทนี้ คำทำนายจะเกี่ยวกับผลของเหตุการณ์ในอนาคตขึ้นอยู่กับรูปแบบของหลักฐานนักเรียนอาจจะทำนายว่า เมล็ดก็จะงอกออกมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเขากับพืช หรือ ว่า จะตกพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนี้ ครูสามารถช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถสกิลนี้ ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างทำนายในขณะที่การอ่านและการทำนายในวิทยาศาสตร์ นักเรียนจะไม่จําเป็นต้องทำให้การเชื่อมต่อเหล่านี้อย่างอิสระดังนั้นพูดครูและคำถามสำคัญ
บางครั้งครูจะใช้คําพยากรณ์และสมมติฐานนั้นในวิทยาศาสตร์ ในขณะที่เงื่อนไขที่คล้ายกันมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างสอง สมมติฐาน คือ ชนิดที่เฉพาะเจาะจงของการพยากรณ์เมื่อการออกแบบและการสอบสวนที่แปรเปลี่ยน . ตัวอย่างเช่นนักเรียนอาจเขียนสมมติฐานเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อการเจริญเติบโตของพืช ถ้าปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น เป็นสมมติฐานที่เขียนมักจะเป็น " ถ้า . . . . . . . . . . . . . . " คำพูด .
ความแตกต่างระหว่างการพยากรณ์และสมมติฐานเป็นสิ่งที่นักเรียนต้องการที่จะเข้าใจและอธิบาย อย่างไรก็ตามครูสามารถตระหนักถึงวิธีการที่พวกเขาใช้คำเหล่านี้ในการสอนวิทยาศาสตร์ที่ใช้สำหรับการพยากรณ์งบการเงินของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นบนพื้นฐานความรู้เดิม หรือหลักฐานและสมมติฐานเฉพาะเมื่อการโทรสำหรับตัวแปรที่จะเปลี่ยนแปลง ________________________________________



สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในหน้านี้จะให้ภาพรวมของกลยุทธ์การอ่านอธิบายวิธีการทำนายที่สนับสนุนการอ่าน และกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ . บทความนี้ยังประกอบด้วยรายการของโอไฮโอวิชาการเนื้อหามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับทำนายพยากรณ์ .

บทความนี้กล่าวถึงกลยุทธ์ของการประมาณการและทำไมมันเป็นสิ่งสำคัญนอกจากนี้ยังรวมถึงความคิดเพื่อสนับสนุนนักเรียนที่พวกเขากลายเป็นความเชี่ยวชาญในการคาดคะเนเกี่ยวกับข้อความ คิดกิจกรรมชี้นำการอ่าน

( dRTA ) หน่วยงานเป็นวิธีที่จะสนับสนุนนักเรียนที่พวกเขาฝึกการคาดคะเน จากข้อความ บทความนี้แสดงขั้นตอนลำดับสำหรับครูที่ต้องการสร้างกิจกรรมชี้นำการอ่านการคิดประเภทของข้อความใด ๆ .
เคล็ดลับความสำเร็จกับข้อความข้อมูล
บทความสั้น ๆนี้อธิบายห้าขั้นตอนที่สามารถช่วยให้นักเรียนสามารถคาดคะเนเกี่ยวกับข้อความที่ให้ข้อมูล นักเรียนดูตัวอย่างบทความ และจดคำที่พวกเขาจะคาดหวังจะพบในบทความ ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์

บทความนี้ประกอบด้วยคำนิยามของการทำนายและสมมติฐานเช่นที่พวกเขาใช้กับวิทยาศาสตร์ .
การเรียนรู้และประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
หนังสือเล่มนี้จะอธิบายพื้นฐานและวิทยาศาสตร์บูรณาการทักษะกระบวนการ และมีกิจกรรมเพื่อช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะเหล่านี้ .