Before the mid-nineteenth century,

Before the mid-nineteenth century, people in the United States ate most foods only in season. Drying, smoking, and salting could preserve meat for a short time, but the availability of fresh meat, like that of fresh milk, was very limited; there was no way to prevent spoilage. But in 1810 a French inventor named Nicolas Appert developed the cooking-and-sealing process of canning. And in the 1850's an American named Gail Borden developed a means of condensing and preserving milk.

20. What does the passage mainly discuss?
(A) Causes of food spoilage
(B) Commercial production of ice
(C) Inventions that led to changes in the American diet
(D) Population movements in the nineteenth century

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนที่ช่วงกลางศตวรรษที่สิบเก้าคนในประเทศสหรัฐอเมริกากินอาหารส่วนใหญ่เฉพาะในฤดู การอบแห้ง, การสูบบุหรี่และเกลือสามารถรักษาเนื้อสัตว์เป็นเวลาสั้น ๆ แต่ความพร้อมของเนื้อสดเหมือนนมสดถูก จำกัด มาก มีวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการเน่าเสียไม่มี แต่ใน 1810 นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสชื่อนิโคลัส Appert พัฒนากระบวนการปรุงอาหารและการปิดผนึกของกระป๋อง และในปี 1850 ชาวอเมริกันชื่อเกลเลือกตั้งการพัฒนาวิธีการกลั่นและรักษานม. 20 เนื้อเรื่องส่วนใหญ่หารือเกี่ยวกับอะไร? (A) สาเหตุของการเน่าเสียของอาหาร(B) การผลิตเชิงพาณิชย์ของน้ำแข็ง(C) สิ่งประดิษฐ์ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอาหารอเมริกัน(D) การเคลื่อนไหวของประชากรในศตวรรษที่สิบเก้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก่อนศตวรรษที่สิบเก้ากลาง คนในสหรัฐอเมริกา กินอาหารมากที่สุดในฤดูกาล การสูบบุหรี่ การอบแห้งและเกลือช่วยรักษาเนื้อในเวลาอันสั้น แต่ความพร้อมของเนื้อสดที่ชอบนมสด , ถูก จำกัด มาก ไม่มีวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการเน่าเสีย แต่ในฝรั่งเศส 1810 เป็นนักประดิษฐ์ชื่อนิโคลัส Appert พัฒนากระบวนการของการทำอาหารและการปิดผนึกกระป๋องและใน 1850 เป็นชาวอเมริกันชื่อ เกล บอร์เดน พัฒนาวิธีการควบแน่น และเก็บรักษานม

20 แล้วเนื้อเรื่องส่วนใหญ่อภิปราย ?
( )
สาเหตุของการเน่าเสียของอาหาร ( B ) การผลิตไอศกรีม
พาณิชย์ ( C ) สิ่งประดิษฐ์ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอาหารอเมริกัน
( D ) ของประชากรในศตวรรษที่สิบเก้า