Semiconductors consist of atoms whi

Semiconductors consist of atoms which are placed in an ordered form which is called a crystal. Crystals are identified based on their lattice structure. For instance the crystal structure of silicon is like that of diamond and refered to as the diamond lattice, shown in the figure below. Each atom in the diamond lattice has a covalent bond with four adjacent atoms which together form a tetrahedron. This lattice can also be formed from two face-centered-cubic lattices which are displaced along the body diagonal of the larger cube in the figure by one quarter of that body diagonal.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วยอะตอมที่อยู่ในแบบฟอร์มสั่งซื้อซึ่งเรียกว่าเป็นคริสตัล ผลึกจะมีระบุตามโครงสร้างของโครงตาข่ายประกอบ ตัวอย่าง โครงสร้างผลึกของซิลิคอนเป็นเช่นที่ไดมอนด์และโรงแรมเป็นโครงตาข่ายประกอบเพชร แสดงในรูปด้านล่าง แต่ละอะตอมในโครงตาข่ายประกอบเพชรมีพันธะโคเวเลนต์กับอะตอมที่ติดสี่ซึ่งแบบเป็นทรงสี่หน้าปลาย โครงตาข่ายประกอบนี้สามารถยังสามารถเกิดขึ้นจากสองหน้าแปลกลูกบาศก์ lattices ซึ่งพลัดถิ่นตามร่างกายของ cube ในภาพใหญ่ตามไตรมาสที่หนึ่งของร่างกายที่เส้นทแยงมุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุปกรณ์กึ่งตัวนำประกอบด้วยอะตอมที่มีอยู่ในรูปแบบที่มีคำสั่งที่เรียกว่าคริสตัล คริสตัลจะมีรหัสตามโครงสร้างตาข่ายของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่นโครงสร้างผลึกซิลิคอนเป็นเช่นนั้นของเพชรและอ้างว่าตาข่ายเพชรที่แสดงในรูปด้านล่าง อะตอมในตาข่ายเพชรแต่ละคนมีพันธะโควาเลนกับสี่อะตอมที่อยู่ติดกันซึ่งร่วมกันในรูปแบบจัตุรมุข ตาข่ายนอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นจากสองโปรยใบหน้าเป็นศูนย์กลางลูกบาศก์ที่มีการย้ายไปตามร่างกายของเส้นทแยงมุมของก้อนขนาดใหญ่ในรูปโดยหนึ่งในสี่ของร่างกายที่เส้นทแยงมุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สารกึ่งตัวนำประกอบด้วยอะตอมซึ่งมีอยู่ในคำสั่งแบบฟอร์มซึ่งเรียกว่า คริสตัล ผลึกจะถูกระบุตามโครงสร้างตาข่ายของ ตัวอย่างโครงสร้างผลึกซิลิคอนเป็นเหมือนเพชรและหมายถึงเพชรที่ตารางที่แสดงในรูปด้านล่างแต่ละอะตอมในขัดแตะมีพันธะโควาเลนซ์กับเพชรสี่ติดกันอะตอมซึ่งร่วมกันฟอร์มจัตุรมุข ตารางนี้ยังสามารถเกิดขึ้นจาก lattices ลูกบาศก์สองหน้ากึ่งกลางซึ่งพลัดถิ่นตามร่างกายขวางของก้อนใหญ่ในรูปโดยหนึ่งในสี่ของร่างกายในแนวทแยง