It was once generally believed that

It was once generally believed that life and its materials had some essential property or substance (often referred to as the "vital principle") distinct from any found in non-living matter, and it was thought that only living beings could produce the molecules of life. Then, in 1828, Friedrich Wöhler published a paper on the synthesis of urea, proving that organic compounds can be created artificially. Since then, biochemistry has advanced, especially since the mid-20th century, with the development of new techniques such as chromatography, X-ray diffraction, dual polarisation interferometry, NMR spectroscopy, radioisotopic labeling, electron microscopy, and molecular dynamics simulations. These techniques allowed for the discovery and detailed analysis of many molecules and metabolic pathways of the cell, such as glycolysis and the Krebs cycle (citric acid cycle).
Another significant historic event in biochemistry is the discovery of the gene and its role in the transfer of information in the cell. This part of biochemistry is often called molecular biology. In the 1950s, James D. Watson, Francis Crick, Rosalind Franklin, and Maurice Wilkins were instrumental in solving DNA structure and suggesting its relationship with genetic transfer of information. In 1958, George Beadle and Edward Tatum received the Nobel Prize for work in fungi showing that one gene produces one enzyme. In 1988, Colin Pitchfork was the first person convicted of murder with DNA evidence, which led to the growth of forensic science. More recently, Andrew Z. Fire and Craig C. Mello received the 2006 Nobel Prize for discovering the role of RNA interference (RNAi), in the silencing of gene expression.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเคยเชื่อกันโดยทั่วไปว่าชีวิตและวัสดุที่มีคุณสมบัติที่สำคัญบางอย่างหรือสารเคมี (มักเรียกว่า "หลักการสำคัญ") แตกต่างจากที่พบในเรื่องที่ไม่มีชีวิตและก็คิดว่าสิ่งมีชีวิตเดียวที่อาศัยอยู่อาจจะก่อให้โมเลกุลของ ชีวิต. จากนั้นใน 1828 ฟรีดริชเวอเลอร์ตีพิมพ์กระดาษในการสังเคราะห์ยูเรียพิสูจน์ว่าสารอินทรีย์สามารถสร้างเทียม ตั้งแต่นั้นมาชีวเคมีได้สูงโดยเฉพาะตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 ที่มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เช่นโคเอ็กซ์เรย์เลนส์โพลาไรซ์อินเตอร์เฟคู่, NMR สเปกโทรสโก, ฉลาก radioisotopic กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนและแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงในระดับโมเลกุล เทคนิคเหล่านี้ได้รับอนุญาตสำหรับการค้นพบและการวิเคราะห์รายละเอียดของโมเลกุลจำนวนมากและเผาผลาญเซลล์ของเซลล์ เช่น glycolysis และวงจร Krebs (รอบกรดซิตริก)
อีกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการค้นพบทางชีวเคมีของยีนและบทบาทในการถ่ายโอนข้อมูลในเซลล์ ส่วนหนึ่งของชีวเคมีนี้มักจะถูกเรียกว่าอณูชีววิทยา ในปี 1950 เจมส์ดีวัตสัน, ฟรานซิสคริก Rosalind แฟรงคลินและมอริซวิลกินส์เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาโครงสร้าง DNA และบอกความสัมพันธ์ของตนกับการถ่ายโอนข้อมูลทางพันธุกรรมของ ในปี 1958 จอร์จพิธีการและเอ็ดเวิร์ดทาทั่มได้รับรางวัลโนเบลสำหรับการทำงานในเชื้อราแสดงให้เห็นว่ายีนผลิตเอนไซม์ ในปี 1988 โคลินโกยเป็นคนแรกข้อหาฆาตกรรมกับหลักฐานดีเอ็นเอซึ่งนำไปสู่การเจริญเติบโตของนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้แอนดรูซีไฟและเครกซีเมลโลที่ได้รับรางวัลโนเบล 2006 สำหรับการค้นพบบทบาทของการแทรกแซงอาร์เอ็นเอ (RNAi)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเคยเชื่อกันโดยทั่วไปว่า ชีวิต และวัสดุมีบางคุณสมบัติที่สำคัญหรือสาร ( มักเรียกว่า " หลักการ " ที่สำคัญใด ๆที่ไม่ ) แตกต่างจากที่พบในสิ่งมีชีวิต และคิดว่ามันเป็นมนุษย์คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่สามารถผลิตโมเลกุลแห่งชีวิต แล้วใน 1828 , ฟรีดริชเวอเลอร์เผยแพร่กระดาษในการสังเคราะห์ยูเรีย พิสูจน์ว่า สารอินทรีย์ที่สามารถสร้างเทียม ตั้งแต่นั้นมา ชีวเคมีมีสูง โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ที่มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ เช่น เทคนิคการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ , คู่ , โพลาไรเซชันอินเตอร์เฟอโรเมทรี , NMR สเปกโทรสโกปี การติดฉลาก radioisotopic จุลทรรศน์อิเล็กตรอน และพลศาสตร์เชิงโมเลกุล เหล่านี้เทคนิคการอนุญาตสำหรับการค้นพบและการวิเคราะห์รายละเอียดของโมเลกุลมากมายและเส้นทางการเผาผลาญของเซลล์ เช่น ไกลโคไลซิสและวงจรเครบส์ ( วงจรกรดซิตริก )อีกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ในชีวเคมี คือการค้นพบยีนและบทบาทของมันในการถ่ายโอนข้อมูลในเซลล์ ส่วนนี้มักเรียกว่าชีวเคมีชีววิทยาระดับโมเลกุล ในปี 1950 , เจมส์ดี. วัตสัน และฟรานซิส คริก โรซาลิน แฟรงคลิน มัวริส วิลคิน เป็นเครื่องมือในการแก้ไขโครงสร้างของดีเอ็นเอ และบอกความสัมพันธ์ของตนกับพันธุกรรมของการถ่ายโอนข้อมูล ในปี 1958 , จอร์จ เจ้าหน้าที่ และเอ็ดเวิร์ด ตาตั้ม ได้รับรางวัลโนเบลสำหรับงานในเชื้อราแสดงว่ายีนผลิตหนึ่งของเอนไซม์ ในปี 1988 , โคลิน คราดเป็นคนแรกข้อหาฆาตกรรมด้วยหลักฐานดีเอ็นเอที่นำไปสู่การเจริญเติบโตของนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อเร็วๆ นี้ แอนดริว ซีไฟและเครกซี. Mello ได้รับรางวัลโนเบลสำหรับการค้นพบ 2549 บทบาทของการแทรกแซงอาร์เอ็นเอ ( หาในความเงียบของการแสดงออกของยีน