The three upper-central panels (14,

The three upper-central panels (14, 17 and 20), representing the Virgin carrying the Christ Child on her lap in a strongly frontal pose (the so-called Sedes Sapientiae or 'Throne of Wisdom' format) are mid-12th century in date - rare survivors from Fulbert's glazing programme, possibly from the eastern axial chapel. They survived the fire of 1194 and were later re-fitted in this window, which otherwise dates from c.1220. The 13th century saw many such examples of earlier panels being re-used, as if their supposed antiquity (in fact most were little more than a generation or two old) gave them a special sanctity. From the 15th century onwards such recycled panels became known as Belles verrieres - many such exist though this is perhaps the most famous. As with the west windows, although the roots of the Virgin and Child panels are 12th century, they have been so heavily restored, in the 13th, 14th and 19th centuries, that relatively little of the original glass survives (for example, of the Virgin's halo, only two small fragments are original).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ติดตั้งบนกลาง 3 (14, 17 และ 20), แทนบริสุทธิ์ถือครองบุตรบนตักของเธอในการก่อให้เกิดอย่างยิ่งหน้าผาก (เรียกว่า sedes ราคา Sapientiae หรือ 'บัลลังก์ของภูมิปัญญา' รูปแบบ) มีราคากลาง 12 ศตวรรษวัน - ผู้รอดชีวิตที่หายากจากโครงการกระจกของ Fulbert อาจจากโบสถ์แกนตะวันออก พวกเขารอดชีวิตไฟของ 1194 และถูกในภายหลังอีกเพียบในหน้าต่างนี้ ที่อื่นวันจาก c.1220 ศตวรรษ 13 เห็นอย่างเช่นของแผงก่อนหน้าการใช้ใหม่ ว่าของโบราณควร (ในความเป็นจริงมากที่สุดถูกสร้างน้อยกว่าหรือเก่าสอง) ให้ศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ จากศตวรรษ 15 เป็นต้นไปแผงดังกล่าวกลับกลายเป็นว่า Belles verrieres - มากเช่นมีอยู่แม้ว่านี้อาจจะมีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นกับ windows ตะวันตก แม้รากแผ่นพระนางพรหมจารีและเด็ก ศตวรรษที่ 12 พวกเขาได้ทำการหนักเพื่อคืน ใน 13, 14 และ 19 ศตวรรษ ที่ค่อนข้างน้อยแก้วเดิม survives (เช่น halo ของเวอร์จิน ชิ้นส่วนเล็ก ๆ เพียงสองเป็นต้นฉบับ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สามแผงบนกลาง (14, 17 และ 20) คิดเป็นเวอร์จินแบกพระบุตรบนตักของเธอในการก่อให้เกิดแรงหน้าผาก (ที่เรียกว่าที่นั่ง Sapientiae หรือ 'บัลลังก์แห่งปัญญา' รูปแบบ) เป็นช่วงกลางศตวรรษที่ 12 ใน วันที่ - ผู้รอดชีวิตที่หายากจากโปรแกรมการเคลือบ Fulbert ของอาจจะมาจากโรงพยาบาลตามแนวแกนทิศตะวันออก พวกเขารอดชีวิตจากไฟไหม้ของ 1194 และอีกครั้งหลังจากติดตั้งในหน้าต่างนี้ที่อื่นจากวันที่ c.1220 ศตวรรษที่ 13 เห็นตัวอย่างดังกล่าวจำนวนมากของแผงก่อนหน้านี้มีการกลับมาใช้ใหม่เช่นถ้าสมัยโบราณควรของพวกเขา (ในความเป็นจริงมากที่สุดคือน้อยกว่ารุ่นเก่าหรือสอง) ทำให้พวกเขามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ จากศตวรรษที่ 15 การติดตั้งดังกล่าวกลับมาใช้ใหม่เป็นต้นไปกลายเป็นที่รู้จัก Verrieres สวย - จำนวนมากดังกล่าวอยู่ แต่นี่อาจจะเป็นที่มีชื่อเสียงที่สุด เช่นเดียวกับหน้าต่างทางทิศตะวันตกถึงแม้ว่ารากของแผงบริสุทธิ์และเด็กเป็นศตวรรษที่ 12 พวกเขาได้รับการบูรณะอย่างหนักในวันที่ 13 14 และศตวรรษที่ 19 ที่ค่อนข้างน้อยของกระจกเดิมยังมีชีวิตอยู่ (เช่นของเวอร์จิน รัศมีเพียงสองชิ้นส่วนเล็ก ๆ เป็นต้นฉบับ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ามกลางบนแผง ( 14 , 17 และ 20 ) , เป็นตัวแทนสาวอุ้มเด็กตายบนตักของเธอในท่าหน้าผากขอ ( ที่เรียกว่า เซเดส sapientiae หรือบัลลังก์ของรูปแบบ ' ปัญญา ' ) mid-12th ศตวรรษในวันที่ - หาผู้รอดชีวิตจากโครงการฟูลเป็นกระจก อาจจะจากโบสถ์ตามแนวแกนตะวันออก พวกเขารอดจากไฟของชิ้นงาน และต่อมาจะติดตั้งในหน้าต่างนี้ซึ่งเป็นอย่างอื่นจากวันที่ c.1220 . ศตวรรษที่ 13 เห็นอีกมาก เช่น ตัวอย่างก่อนหน้านี้แผงถูกอีกครั้งใช้เป็นถ้าพวกเขาควรจะสมัยโบราณ ( ในความเป็นจริงมากที่สุด คือ น้อยกว่ารุ่นหรือสองปี ) ให้ความศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ จากศตวรรษที่ 15 เป็นต้นไป เช่น รีไซเคิลแผงกลายเป็นที่รู้จักกันเป็นระฆัง verrieres - มากมายเช่นมีอยู่แม้ว่านี้อาจจะมีชื่อเสียงมากที่สุด เช่นเดียวกับทางหน้าต่างแม้ว่ารากของพระแม่มารีและแผงเด็กศตวรรษที่ 12 พวกเขาได้รับอย่างหนักมา ในวันที่ 13 , 14 และ 19 ศตวรรษ , ที่ค่อนข้างน้อยของแก้วเดิมรอด ( ตัวอย่างเช่น ของบริสุทธิ์รัศมี , เพียงสองชิ้นเล็ก เดิม )