Ayutthaya Period (1351-1767)Ayuttha

Ayutthaya Period (1351-1767)
Ayutthaya, the capital of the Thai Kingdom was found by U-Thong King in 1350. Ayutthaya as an island is formed by the gathering of three rivers, the Chao Phraya, the Pasak, and the Loburi and surrounded by rice terraces. It is easy to see why the Ayutthaya area was settled prior to this date since the site offered a variety of geographical and economic advantages. The Thai kings of Ayutthaya became powerful in the 14th and 15th centuries, taking over U-Thong, Lopburi, and Ayutthaya.

King U-Thong and his immediate successors expanded Ayutthaya's territory, especially northward towards Sukhothai and eastward towards the Khmer capital of Angkor. The greater size of government could not remain the same as during the days of King Ramkhamhaeng. The society during the Ayutthaya period was strictly hierarchical. There were, roughly, three classes of people king at the top of scale. At the bottom of social scale were commoners and the slaves.
In the early 16th century, the European visited Ayutthaya, and a Portuguese embassy was established in 1511. Portugal's powerful neighbor Spain was the next European nation to arrive in Ayutthaya forward the end of the 16th century. In he early 17th century they saw the arrival of two northern European, the Dutch and the British, and France in 1662.

In the mid-16th century, Ayutthaya and the independent kingdom in Chiang Mai was put under the control of the Burmese, but Thais could regain both of the capitals by the end of the century.

The Burmese invaded Ayutthaya again in 1765. This time Burmese caused much fear to Thais. Burmase soldiers destroyed everything, including temples, manuscripts, and religious sculpture. After the capital fell in their hands for two years, the Burmese effectiveness could not further hold the kingdom. Phaya Taksin, a Thai general, promoted himself to be the king in 1769. He ruled the new capital of Thonburi on the bank of Chao Phraya River, opposite Bangkok. Thais regained control of their country and thus scattered themselves to the provinces in the north and central part of Thailand. Taksin eventually turn himself to be the next Buddha and was dismissed and executed by his ministers who did not approve his religious values.

Thonburi Period (1767-1782)
After the fall of Ayudthaya, General Taksin, a general of Aydthaya, drafted an army of patriots to take revenge for his country. He successfully chased away the Burmese troops. After the Burmese were gone, he decided to build a new capital along the Chaopraya river and named it "Thonburi". King Taksin has reined a peaceful country for over 15 years and extended diplomatic relationship with many countries from overseas including China. Unfortunately, King Taksin, who devoted his life to protect his beloved country, was over stressed from the wars and eventually became insane. Thonburi was collapsed because of the coup in 1782 by General Chakri. King Taksin's achievements have caused prosperity to bestow on him the epithet "the Great"
Thailand's HistoryRattanakosin Period
(1782-Present)
After Taksin's death, General Chakri became the first king of the Chakri dynasty, Rama I, ruling from 1782 to 1809. His first action as king was to transfer the royal capital across the river from Thonburi to Bangkok and build the Grand Palace. Rama II (1809-1824) continued the restoration begun by his predecessor.
King Nang Klao, Rama III (1824-1851) reopened relations with western nations and developed trade with China. King Mongkut, Rama IV, (1851-1868) of "The King and I" concluded treaties with European countries, avoided colonialization and established modern Thailand. He made many social and economic reforms during his reign.
King Chulalongkorn, Rama V (1869-1910) continued his father's tradition of reform, abolishing slavery and improving the publicThailand's History welfare and administrative system. Compulsory education and other educational reforms were introduced by King Vajiravudh, Rama VI (1910-1925). During the reign of King Prajadhipok, (1925-1935), Thailand changed from an absolute monarchy to a constitutional monarchy. The king abdicated in 1933 and was succeeded by his nephew, King Ananda Mahidol (1935-1946). The country's name was changed from Siam to Thailand with the advent of democratic government in 1939.
From absolute monarchy to constitutional monarchy
The politics of Thailand took some significant turn on 24 June 1932 when a group of young intellectuals, educated abroad and imbued with the concept of Western democracy, staged a bloodless coup, demanding a change form absolute to a constitutional monarchy, Determined to avoid any bloodshed, His Majesty King Prajadhipok (Rama VII) agreed to the abolition of absolute monarchy and the transfer of power to the constitution-based system of government as demanded.
To some, this demand was premature, but fortunately with the far-sightedness of King Prajadhipok and his predecessors inThailand's History particular King Chulalongkorn the Great (Rama V) and King Vajiravudh (Rama VGI), Thailand was not unprepared for this transition. While continuing the process launched by the two previous kings, King Prajadhipok had every intention of accustoming the Thais to the Western system of constitutional monarchy and had considered the eventuality of altering such form of government to the people at an appropriate moment. Popular readiness, the King believed, was an important Ingredient to success for such transition. It was only a matter of waiting for the right time.
On 10 December 1932, His Majesty King Prajadhipok signed Thailand first constitution and thus ended 700 years of Thailand absolute monarchy. Despite the number of successive constitutions that followed in the span of just over half a century, the basic concepts of constitutional government and monarchy laid down in the 1932 constitution have remained unaltered.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อยุธยา (1351-ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่ง)อยุธยา เมืองหลวงของราชอาณาจักรไทยได้ค้นพบ โดยพระอู่ทองใน 1350 อยุธยาเป็นเกาะเกิดขึ้นจากการรวบรวมสามแม่น้ำ เจ้าพระยา ป่าสัก และ Loburi และล้อมรอบ ด้วยระเบียงข้าว ซึ่งง่ายต่อการดูทำไมตั้งอยุธยาถูกชำระก่อนวันนี้เนื่องจากเว็บไซต์นำเสนอความหลากหลายของข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ และเศรษฐกิจ พระมหากษัตริย์ไทยของอยุธยาก็มีประสิทธิภาพในศตวรรษ 14 และ 15 ทางอู่ทอง ลพบุรี และอยุธยา พระเจ้าอู่ทองและผู้สืบทอดของเขาทันทีขยายดินแดนของอยุธยา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง northward สุโขทัยและออกไปทางเขมรเมืองหลวงของนครนั้น ขนาดใหญ่ของรัฐบาลอาจไม่เหมือนเดิมเป็นในช่วงวันพ่อขุนรามคำแหง สมาคมอยุธยาได้ลำดับอย่างเคร่งครัด มี ประมาณ ชั้นสามของพระมหากษัตริย์ของคนด้านบนของสเกล ที่ด้านล่างของสเกลสังคมมีไพร่และทาสในศตวรรษ 16 ช่วง ยุโรปที่เยี่ยมชมอยุธยา และสถานทูตโปรตุเกสก่อตั้งขึ้นใน 1511 เพื่อนบ้านมีประสิทธิภาพของโปรตุเกสสเปนมีประเทศยุโรปถัดไปจะเข้ามาในอยุธยาไปปลายศตวรรษ 16 เขาใน ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 เห็นมาสองยุโรปเหนือ ที่ดัตช์ และอังกฤษ และฝรั่งเศสในค.ศ. 1662 ในศตวรรษที่ 16 กลาง อยุธยาและราชอาณาจักรอิสระในเชียงใหม่ย้ายภายใต้การควบคุมของพม่า แต่คนไทยอาจฟื้นเมืองหลวงทั้งสอง โดยตอนท้ายของศตวรรษ พม่ารุกรานอยุธยาอีกครั้งในลตัน เวลานี้พม่าเกิดกลัวมากคนไทย Burmase ทหารทำลายทุกอย่าง วัด เป็น และประติมากรรมทางศาสนา หลังจากตกในมือของพวกเขาสำหรับสองปี ประสิทธิภาพพม่าอาจไม่เพิ่มเติมค้างราชอาณาจักร พระยาตากสิน ทั่วไทย ส่งเสริมตนเองเป็นกษัตริย์ใน 1769 เขาปกครองเมืองหลวงใหม่ของธนบุรีในธนาคารของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับกรุงเทพมหานคร คนไทยจากประเทศของตน และจึง กระจายตัวเองไปต่างจังหวัดเหนือและภาคกลางของประเทศไทย พระเจ้าตากสินก็เปิดพระต่อไป และถูกยกเลิก และดำเนินการ โดยรัฐมนตรีของเขาที่ไม่เห็นค่าของเขาศาสนาตัวเองช่วงธนบุรี (ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่ง-1782) หลังจากการล่มสลายของประเทศ พระเจ้าตากสินทั่วไป ทั่วไปของ Aydthaya ร่างกองทัพผู้รักชาติจะแก้แค้นในประเทศของเขา เขาประสบความสำเร็จคนนั้นได้ไล่เก็บกองทหารพม่า หลังจากที่พม่าได้หายไป เขาตัดสินใจที่จะสร้างเมืองหลวงใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และตั้งชื่อ "ธนบุรี" สมเด็จพระเจ้าตากสินได้ reined ประเทศสงบกว่า 15 ปีและขยายความสัมพันธ์ทางการทูตกับหลายประเทศจากต่างประเทศรวมถึงประเทศจีน อับ สมเด็จพระเจ้าตากสิน ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อปกป้องประเทศของเขารัก ถูกมากกว่าเน้นจากสงคราม และในที่สุดกลายเป็นบ้า ธนบุรีถูกยุบเนื่องจากการทำรัฐประหารใน 1782 โดยจักรีทั่วไป ความสำเร็จของสมเด็จพระเจ้าตากสินได้เกิดเพื่ออำนวย epithet ที่บนเขา "ดี"ระยะเวลาของประเทศไทย HistoryRattanakosin(1782-ปัจจุบัน)หลังความตายของพระเจ้าตากสิน จักรีทั่วไปกลายเป็น กษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์จักรี พระฉัน หุจาก 1782 การ 1809 ดำเนินการครั้งแรกของเขาเป็นกษัตริย์คือการ โอนย้ายเมืองหลวงรอยัลข้ามแม่น้ำจากธนบุรีไปกรุงเทพ และสร้างพระบรมมหาราชวัง ราม (1809-1824) ต่อคืนเริ่มต้นจากรุ่นก่อนของเขาพระนางเกล้า พระราม III (1824-1851) เปิดความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก และพัฒนาทางการค้ากับประเทศจีน สมเด็จพระจอมเกล้า ราม, (1851-1868) ของ "เดอะคิงแอนด์ไอ" สรุปสนธิสัญญากับประเทศในยุโรป หลีกเลี่ยงการ colonialization และก่อตั้งประเทศไทยทันสมัย เขาทำการปฏิรูปสังคม และเศรษฐกิจหลายพระองค์มหาจุฬาลงกรณ์ จุลจอมเกล้า (งแมง-1910) ต่อประเพณีบิดาของการปฏิรูป abolishing ทาส และปรับปรุงสวัสดิการของ publicThailand ประวัติและดูแลระบบ การศึกษาภาคบังคับและการปฏิรูปทางการศึกษาอื่น ๆ ได้แนะนำ โดยกษัตริย์วชิราวุธ พระรามหก (1910-1925) ในรัชสมัยของกษัตริย์ประชาธิปก, (1925-1935), ประเทศไทยเปลี่ยนจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบรัฐธรรมนูญ พระราชาสละราชในปี 1933 และได้ประสบความสำเร็จ โดยหลานชาย พระอานันทมหิดล (1935-1946) ชื่อของประเทศถูกเปลี่ยนแปลงจากสยามประเทศไทยกับการมาถึงของรัฐบาลประชาธิปไตยในปีพ.ศ. 2482จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบรัฐธรรมนูญการเมืองของไทยถ่ายรูปสำคัญเปิดใช้ 24 1932 มิถุนายนเมื่อกลุ่มนักวิชาการหนุ่ม ศึกษาต่างประเทศ และผม มีแนวคิดประชาธิปไตยตะวันตก แบ่งระยะทำรัฐประหารรับการตบ การเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสัมบูรณ์เพื่อระบอบรัฐธรรมนูญ กำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเลือดเนื้อใด ๆ พระสมเด็จพระปกเกล้า (พระราม VII) ตกลงที่จะยกเลิกของสมบูรณาญาสิทธิราชย์และถ่ายโอนอำนาจระบบตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาลเป็นการบาง ความต้องการนี้ก่อนกำหนด แต่โชคดีกับ far-sightedness เกล้า inThailand บรรดาลูกหลานของเขาประวัติศาสตร์เฉพาะมหาจุฬาลงกรณ์ดี (จุลจอมเกล้า) และกษัตริย์วชิราวุธ (พระราม VGI), ไทยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ในขณะที่ดำเนินการต่อการเปิดตัว โดยกษัตริย์ก่อนหน้าสอง เกล้ามีความตั้งใจให้ accustoming คนไทยระบบตะวันตกของระบอบรัฐธรรมนูญ และได้ถือเป็นวิถีของการเปลี่ยนแปลงแบบฟอร์มดังกล่าวของรัฐบาลประชาชนที่มีช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมยอดนิยม พระเชื่อว่า เป็นส่วนผสมสำคัญสู่ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มันเป็นเพียงเรื่องของการรอเวลาเหมาะสมบน 10 1932 ธันวาคม พระสมเด็จประชาธิปกรับรองรัฐธรรมนูญแห่งแรกของประเทศไทย และสิ้นสุดสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไทย 700 ปีดังนั้น แม้ มีจำนวน พ.ศ.2540 ต่อเนื่องที่ตามมาในระยะเพียงครึ่งศตวรรษ แนวคิดพื้นฐานของรัฐบาลรัฐธรรมนูญและพระมหากษัตริย์ในปี 1932 รัฐธรรมนูญมีอยู่ unaltered

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมัยกรุงศรีอยุธยา (1351-1767)
อยุธยาซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรไทยถูกพบโดยอู่ทองกษัตริย์ 1350 อยุธยาเป็นเกาะที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมของสามแม่น้ำเจ้าพระยาป่าสักและ Loburi และล้อมรอบ โดยนาข้าวขั้นบันได มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทำไมพื้นที่อยุธยาถูกตัดสินก่อนวันนี้ตั้งแต่เว็บไซต์ที่นำเสนอความหลากหลายของข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ พระมหากษัตริย์ไทยอยุธยากลายเป็นที่มีประสิทธิภาพในศตวรรษที่ 14 และ 15 พาไปอู่ทองลพบุรีและอยุธยา. พระเจ้าอู่ทองและสืบทอดขยายอาณาเขตของอยุธยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางทิศเหนือไปทางสุโขทัยและไปทางทิศตะวันออกไปทางเมืองหลวงเขมรของอังกอร์ ขนาดที่มากขึ้นของรัฐบาลไม่สามารถยังคงเป็นเช่นเดียวกับในช่วงวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช สังคมในสมัยอยุธยาเป็นลำดับชั้นอย่างเคร่งครัด มีประมาณสามชั้นของกษัตริย์คนที่ด้านบนของวัด ที่ด้านล่างของระดับสังคมเป็นไพร่และทาส. the ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ยุโรปเข้าเยี่ยมชมอยุธยาและสถานทูตโปรตุเกสก่อตั้งขึ้นในปีเพื่อนบ้านที่มีประสิทธิภาพ 1511 โปรตุเกสสเปนเป็นประเทศยุโรปต่อไปที่จะมาถึงในอยุธยาส่งต่อท้ายของ ศตวรรษที่ 16 เขาในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 พวกเขาได้เห็นการมาถึงของสองภาคเหนือของยุโรปชาวดัตช์และอังกฤษและประเทศฝรั่งเศสใน 1,662 ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 กรุงศรีอยุธยาและอาณาจักรอิสระในจังหวัดเชียงใหม่ถูกนำภายใต้การควบคุมของพม่า แต่ คนไทยจะฟื้นทั้งในเมืองหลวงในตอนท้ายของศตวรรษที่. พม่าบุกอยุธยาอีกครั้งใน 1765 ในครั้งนี้เกิดจากความกลัวพม่ามากเพื่อคนไทย ทหาร Burmase ทำลายทุกอย่างรวมถึงวัดต้นฉบับและประติมากรรมทางศาสนา หลังจากที่เมืองหลวงตกอยู่ในมือของพวกเขาเป็นเวลาสองปีที่ผ่านมามีประสิทธิภาพพม่าไม่สามารถถือต่อในราชอาณาจักร พญาตากสินทั่วไปไทยเลื่อนตัวเองเป็นกษัตริย์ในปี 1769 เขาปกครองเมืองหลวงใหม่ธนบุรีบนฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกรุงเทพมหานคร คนไทยควบคุมของประเทศของพวกเขาจึงกระจัดกระจายตัวเองไปยังจังหวัดในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทย ตากสินในที่สุดก็เปิดตัวเองให้เป็นพระพุทธรูปต่อไปและได้รับการยอมรับและดำเนินการโดยรัฐมนตรีของเขาที่ไม่เห็นคุณค่าทางศาสนาของเขา. ธนบุรีระยะเวลา (1767-1782) หลังจากการล่มสลายของอยุธยานายพลตากสินทั่วไปของ Aydthaya ร่างของกองทัพ รักชาติที่จะแก้แค้นสำหรับประเทศของเขา เขาประสบความสำเร็จไล่ไปทหารพม่า หลังจากที่พม่าก็หายไปเขาตัดสินใจที่จะสร้างเมืองหลวงใหม่ไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาและตั้งชื่อมันว่า "ธนบุรี" สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ reined เป็นประเทศที่เงียบสงบมานานกว่า 15 ปีและขยายความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจำนวนมากจากต่างประเทศรวมทั้งประเทศจีน แต่น่าเสียดายที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่อุทิศชีวิตของเขาเพื่อปกป้องประเทศที่รักของเขาได้รับมากกว่าเน้นจากสงครามและในที่สุดก็กลายเป็นคนบ้า ธนบุรีได้ทรุดตัวลงเพราะการทำรัฐประหารใน 1782 โดยนายพลจักรี ความสำเร็จของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เขาฉายา "มหาราช" HistoryRattanakosin ของประเทศไทยระยะเวลา(1782 ปัจจุบัน) หลังจากการตายตากสินนายพลจักรีกลายเป็นกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์จักรีพระรามปกครองจาก 1782 ไป 1809 ครั้งแรกของเขา การดำเนินการเป็นกษัตริย์คือการโอนเมืองหลวงข้ามแม่น้ำจากธนบุรีไปยังกรุงเทพฯและสร้างพระบรมมหาราชวัง พระรามที่สอง (1809-1824) การฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องเริ่มจากบรรพบุรุษของเขา. คิงนั่งเกล้า, พระรามสาม (1824-1851) เปิดความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตกที่พัฒนาและการค้ากับจีน พระจอมเกล้าพระรามสี่ (1851-1868) ของ "กษัตริย์และฉัน" สรุปสนธิสัญญากับประเทศในยุโรป colonialization หลีกเลี่ยงได้และเป็นที่ยอมรับในประเทศไทยที่ทันสมัย เขาทำให้การปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมจำนวนมากในช่วงรัชสมัยของพระองค์. จุฬาลงกรณ์, จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (1869-1910) ยังคงประเพณีของพ่อของการปฏิรูปการยกเลิกการเป็นทาสและการปรับปรุงสวัสดิการประวัติ publicThailand และระบบการบริหาร การศึกษาภาคบังคับและการปฏิรูปการศึกษาอื่น ๆ ถูกนำมาใช้โดยกษัตริย์วชิราวุธพระรามหก (1910-1925) ในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ (1925-1935) ประเทศไทยเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบรัฐธรรมนูญ กษัตริย์สละราชสมบัติในปี 1933 และประสบความสำเร็จโดยหลานชายของกษัตริย์อานันทมหิดล (1935-1946) ชื่อประเทศที่ถูกเปลี่ยนจากสยามประเทศไทยกับการถือกำเนิดของรัฐบาลประชาธิปไตยในปี 1939 จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไประบอบรัฐธรรมนูญการเมืองของประเทศไทยเอาบางส่วนหันมีนัยสำคัญเมื่อ 24 มิถุนายน 1932 เมื่อกลุ่มปัญญาชนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาในต่างประเทศและตื้นตันใจกับแนวคิด ของระบอบประชาธิปไตยตะวันตกฉากเลือดการทำรัฐประหารเรียกร้องรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่แน่นอนที่จะเป็นระบอบรัฐธรรมนูญมุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการนองเลือดใด ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว) เห็นด้วยกับการยกเลิกระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และการถ่ายโอนอำนาจในรัฐธรรมนูญตาม ระบบการทำงานของรัฐบาลเรียกร้อง. บางความต้องการนี้คือก่อนวัยอันควร แต่โชคดีที่มีไกลสายตาของสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและรุ่นก่อนของเขาประวัติความเป็นมาในประเทศไทยของโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ามหาราช (จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) และพระมหากษัตริย์วชิราวุธ (รัชกาลที่วีจีไอ) ประเทศไทยไม่ได้เตรียมตัวไว้ สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ อย่างต่อเนื่องในขณะที่ขั้นตอนการเปิดตัวโดยกษัตริย์ทั้งสองก่อนหน้านี้พระปกเกล้ามีความตั้งใจที่ accustoming คนไทยกับระบบตะวันตกระบอบรัฐธรรมนูญทุกคนและได้พิจารณาเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบดังกล่าวของรัฐบาลให้กับประชาชนในช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมยอดนิยมกษัตริย์เชื่อว่าเป็นส่วนผสมที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จดังกล่าวสำหรับการเปลี่ยนแปลง มันเป็นเพียงเรื่องของการรอคอยเวลาที่เหมาะสม. เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1932, พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวของเขาลงนามในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทยและทำให้สิ้นสุดวันที่ 700 ปีแห่งประเทศไทยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แม้จะมีจำนวนของรัฐธรรมนูญต่อเนื่องที่ใช้ในช่วงเวลาเพียงกว่าครึ่งศตวรรษที่แนวคิดพื้นฐานของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญและพระมหากษัตริย์ไว้ในรัฐธรรมนูญ 1932 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมัยอยุธยา ( 1351-1767 )
อยุธยาซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรไทยถูกพบโดยอู่ทองพระมหากษัตริย์ 1350 . พระนครศรีอยุธยา เป็นเกาะที่เกิดจากการรวมตัวของ 3 แม่น้ำ , เจ้าพระยา , ป่าสัก ลพบุรี และข้าว และล้อมรอบด้วยระเบียง มันเป็นเรื่องง่ายเพื่อดูว่าทำไมพื้นที่อยุธยาถูกตัดสินก่อนวันนี้ เนื่องจากเว็บไซต์ที่เสนอความหลากหลายของประโยชน์ทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจไทยกษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยาจะเป็นพลังในศตวรรษที่ 14 และ 15 รับช่วง อู่ทอง ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา

พระอู่ทองและทันทีสืบขยายดินแดนอยุธยา โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกไปสุโขทัยต่อเขมร เมืองหลวงของนคร ยิ่งขนาดของรัฐบาลอาจไม่เหมือนเดิม เช่น ในระหว่างวันของกษัตริย์รามคำแหงสังคมสมัยอยุธยาอย่างเคร่งครัดลำดับชั้น . มีประมาณ สามประเภทของประชาชน กษัตริย์ที่ด้านบนของมาตราส่วน ที่ด้านล่างของสังคมขนาดเป็นสามัญชนและทาส .
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 , ยุโรปเยือนอยุธยา และสถานทูตโปรตุเกสก่อตั้งขึ้นใน 1 .โปรตุเกสสเปนที่มีเพื่อนบ้านอีกชาติยุโรปที่จะมาถึงอยุธยาไปข้างหน้าปลายศตวรรษที่ 16 ในต้นศตวรรษที่ 17 ได้เห็นการมาถึงของยุโรปสองภาคเหนือ , ดัตช์และอังกฤษและฝรั่งเศสในตอนนี้ .

ในศตวรรษที่ mid-16th อยุธยาและอาณาจักรอิสระในเชียงใหม่ถูกวางภายใต้การควบคุมของพม่าแต่คนไทยอาจจะได้ทั้งสองอย่างในเมืองหลวง โดยจุดสิ้นสุดของศตวรรษที่

พม่าบุกกรุงศรีอยุธยาอีกครั้งใน 1765 . เวลานี้พม่าเกิดความกลัวมากคนไทย ทหาร burmase ทำลายทุกอย่าง รวมทั้งวัด ต้นฉบับ และประติมากรรมทางศาสนา หลังจากที่ทุนลดลงในมือของพวกเขาสำหรับสองปี , ประสิทธิผลพม่าไม่สามารถเพิ่มเติมไว้ในราชอาณาจักร พญาตากสินไทย , การส่งเสริมตัวเองเป็นกษัตริย์ใน 1769 . เขาปกครองเมืองหลวงใหม่ของธนบุรี ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับกรุงเทพฯ คนไทยฟื้นการควบคุมของประเทศของพวกเขาจึงกระจัดกระจายตัวจังหวัดในภาคเหนือ และภาคกลางทักษิณ ในที่สุดก็เปิดตัวเป็นพระพุทธเจ้าต่อไป และถูกไล่ออก และดำเนินการโดยของท่านรัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วย กับค่านิยมทางศาสนาของเขา

) ระยะเวลา ( 1767-1782 )
หลังจากการล่มสลายของอยุธยา ท่านทักษิณ เป็นแม่ทัพของ aydthaya ร่างกองทัพรักชาติเพื่อแก้แค้น ให้กับประเทศของเขา เขาประสบความสำเร็จไล่ทัพพม่า . หลังจากพม่าไปแล้วเขาตัดสินใจที่จะสร้างเมืองหลวงใหม่ตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา และตั้งชื่อมันว่า " ธนบุรี " พระเจ้าตากสินมี reined ประเทศสงบเป็นเวลากว่า 15 ปี และการขยายความสัมพันธ์ทางการทูตกับหลายประเทศจากต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ขออภัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทุ่มเทชีวิตของเขาเพื่อปกป้องประเทศอันเป็นที่รักของเขา มากกว่าเน้นจากสงคราม และในที่สุดก็กลายเป็นบ้าธนบุรี ถูกยุบ เพราะการรัฐประหารใน 1782 โดยอาคารทั่วไป ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้สำเร็จ ทำให้ความเจริญให้เขาฉายา " ยอด "

ช่วง historyrattanakosin ของไทย ( ปัจจุบัน 1782 )
หลังจากทักษิณ ตาย อาคารทั่วไป กลายเป็นกษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี รัชกาลที่ปกครองจาก 4.2 1256 .การกระทำแรกของเขาในฐานะกษัตริย์ได้ย้ายเมืองหลวงเสด็จข้ามแม่น้ำจากธนบุรี กรุงเทพฯ สร้างพระบรมมหาราชวัง พระราม 2 ( 1809-1824 ) ต่อการฟื้นฟูเริ่มโดยบรรพบุรุษของเขา .
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า พระราม 3 ( 1824-1851 ) เปิดความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตก และการพัฒนาทางการค้ากับประเทศจีน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พระรามสี่( 1851-1868 ) ของ " เดอะคิงแอนด์ไอ " สรุปสนธิสัญญากับประเทศในยุโรป และหลีกเลี่ยง colonialization ก่อตั้ง ไทย สมัยใหม่ เขาทำให้การปฏิรูปทางเศรษฐกิจและสังคมมากมายในช่วงรัชสมัยของพระองค์ .
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ( 1869-1910 ) บิดาของเขาต่อไปเป็นประเพณีของการปฏิรูปการยกเลิกทาสและปรับปรุงระบบสวัสดิการ ประวัติศาสตร์ของ publicthailand และบริหารการศึกษาภาคบังคับ และการปฏิรูปการศึกษาอื่น ๆมีการแนะนำโดยกษัตริย์วชิราวุธ ถนนพระราม 6 ( ถาวร ) ในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ( 1925-1935 ) ประเทศไทยเปลี่ยนจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบรัฐธรรมนูญ กษัตริย์สละราชสมบัติในปี 1933 และประสบความสำเร็จ โดยหลานชายของเขา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ( 1935-1946 )ชื่อประเทศ ก็เปลี่ยนจากสยามเป็นไทย ด้วยการมาถึงของประชาธิปไตยรัฐบาลในปี 1939 .
จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์

ระบอบรัฐธรรมนูญ การเมือง ไทย เอา ที่สำคัญเปิดในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เมื่อกลุ่มหนุ่มสาวปัญญาชน มีการศึกษาในต่างประเทศและตื้นตันใจกับแนวคิดประชาธิปไตยแบบตะวันตก ก่อการรัฐประหารไม่เชื่ออะไรง่ายๆนะต้องการเปลี่ยนรูปแบบสมบูรณ์รัฐธรรมนูญกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 7 ) ตกลงที่จะยกเลิกระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และถ่ายโอนอำนาจรัฐธรรมนูญตามระบบของรัฐบาล ตามที่เรียกร้อง
บาง ความต้องการนี้เป็นวัยแต่โชคดีที่มี sightedness ไกลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และบรรพชนในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะพระปิยมหาราช ( รัชกาลที่ 5 ) และสมเด็จพระมหาวชิราวุธ ( พระราม รวมถึง ) ประเทศไทยไม่ได้เตรียมการเปลี่ยนผ่านนี้ อย่างต่อเนื่องในขณะที่กระบวนการเปิดโดยก่อนหน้านี้สองกษัตริย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีความตั้งใจ accustoming คนไทยในระบบตะวันตกของระบอบรัฐธรรมนูญ และมีการพิจารณาที่ไม่แน่นอนของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบดังกล่าวของรัฐบาลกับประชาชนในเวลาที่เหมาะสม ที่ได้รับความนิยมในกษัตริย์เชื่อ เป็นส่วนผสมที่สำคัญเพื่อความสำเร็จสำหรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มันเป็นเพียงเรื่องของการรอเวลาที่เหมาะสม .
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า รัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทยได้ลงนามและ 700 ปี ไทยจึงสิ้นสุดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แม้จะมีจำนวนของต่อเนื่องตามรัฐธรรมนูญ ในช่วงกว่าครึ่งศตวรรษ แนวคิดพื้นฐานของรัฐบาลและสถาบันที่วางไว้ใน พ.ศ. 2475 รัฐธรรมนูญยังคงไม่เปลี่ยนแปลง .