The present study showed that the e

The present study showed that the eggs of the desert locust, Schistocerca gregaria, and the migratory 28
locust, Locusta migratoria, responded to photoperiod by hatching when placed on sand in the laboratory. 29
S. gregaria mainly hatched during the dark phase and L. migratoria during the light phase. The importance 30
of light as a hatching cue depended on the magnitude of the temperature change during the ther- 31
moperiod; photoperiod played a more important role in the control of hatching time in both species 32
when the magnitude of the temperature change was small. In addition, the eggs of the two species that 33
were covered with sand did not respond to photoperiod and hatched during both the light and dark 34
phases, indicating that light did not penetrate through the sand. Because locust eggs are normally laid 35
as egg pods and a foam plug is deposited between the egg mass and the ground surface, we tested a 36
possibility that naturally deposited eggs perceived light through the foam plug. The eggs that were 37
deposited and left undisturbed in the sand hatched during the light and dark phases at similar frequen- 38
cies. These results suggest that the eggs of both locust species responded to light and controlled their 39
hatching timing accordingly but would not use light as a hatching cue in the field. The evolutionary sig- 40
nificance of the ability of eggs to respond to light in these locusts was discussed

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาปัจจุบันพบว่าไข่ของโลคัสท์ทะเลทราย Schistocerca gregaria และ 28 อพยพโลคัสท์ Locusta migratoria ตอบชั่วโมง โดยการฟักไข่เมื่อวางบนทรายในห้องปฏิบัติการ 29S. gregaria ส่วนใหญ่ฟักระยะเข้มและ L. migratoria ระยะแสง ความสำคัญ 30แสงเป็นสัญลักษณ์ฟักไข่ขึ้นอยู่กับขนาดของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระหว่างเธอ-31moperiod ชั่วโมงเล่นบทบาทสำคัญในการควบคุมของฟักเวลาในทั้ง 32 ชนิดเมื่อขนาดของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมีขนาดเล็ก นอกจากนี้ ไข่ชนิดสองที่ 33ถูกปกคลุมด้วยทรายไม่ตอบสนองช่วงแสง และฟักระหว่างทั้งสอง และ 34ระยะ แสดงว่า แสงไม่ได้ไม่ทะลุทราย เนื่องจากโลคัสท์ไข่ปกติจะวาง 35เป็นฝักไข่และโฟมการ ส่งต่อระหว่างไข่มวลและผิวดิน เราทดสอบ 36นั้นฝากไข่ธรรมชาติมองเห็นแสงผ่านปลั๊กโฟม ไข่ที่ 37ฝาก และซ้ายอีกทรายฟักระหว่างระยะแสง และความมืดที่คล้าย frequen-38cies ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำไข่ทั้งสองพันธุ์โลคัสท์ตอบสนองแสง และควบคุม 39 ของพวกเขาฟักตามกำหนดเวลา แต่จะใช้ไฟเป็นสัญลักษณ์ฟักไข่ในฟิลด์ วิวัฒนาการ sig 40nificance ความสามารถของไข่เพื่อตอบสนองต่อแสงในฝูงตั๊กแตนเหล่านี้ได้กล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าไข่ของทะเลทรายตั๊กแตน, Schistocerca gregaria และอพยพ 28
ตั๊กแตน Locusta migratoria ตอบต่อช่วงแสงโดยฟักเมื่อวางไว้บนหาดทรายในห้องปฏิบัติการ 29
เอส gregaria ฟักส่วนใหญ่ในช่วงมืดและ L. migratoria ในช่วงแสง 30 ความสำคัญ
ของแสงเป็นคิวฟักขึ้นอยู่กับขนาดของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในช่วง ther- 31
moperiod; แสงมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการควบคุมของเวลาฟักไข่ในทั้งสองชนิด 32
เมื่อขนาดของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมีขนาดเล็ก นอกจากนี้ไข่ของทั้งสองสายพันธุ์ที่ 33
ถูกปกคลุมไปด้วยทรายไม่ตอบสนองต่อช่วงแสงและฟักระหว่างทั้งแสงและสีเข้ม 34
ขั้นตอนที่แสดงให้เห็นแสงที่ไม่ได้เจาะผ่านทราย เพราะไข่ตั๊กแตนจะวางตามปกติ 35
เป็นฝักไข่และปลั๊กโฟมจะฝากระหว่างมวลไข่และพื้นดินที่เราทดสอบ 36
ความเป็นไปได้ว่าไข่ฝากตามธรรมชาติการรับรู้แสงผ่านปลั๊กโฟม ไข่ที่มี 37
ฝากและซ้ายสงบในทรายฟักระหว่างแสงและสีเข้มขั้นตอนที่คล้ายกันความถี่ 38
การทดลอง ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าไข่ของทั้งสองสายพันธุ์ตั๊กแตนตอบสนองต่อแสงและการควบคุมของพวกเขา 39
ระยะเวลาฟักไข่ตาม แต่จะไม่ใช้แสงเป็นคิวฟักในสนาม วิวัฒนาการคัญ 40
nificance ความสามารถของไข่ที่จะตอบสนองต่อแสงในตั๊กแตนเหล่านี้ได้รับการกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการศึกษาพบว่า ไข่ของทะเลทรายได้ดี schistocerca gregaria และอพยพ 28
ได้ดี locusta migratoria แสงโดยการตอบสนองเมื่อวางอยู่บนทรายในห้องปฏิบัติการ 29
S . gregaria ส่วนใหญ่ฟักในระยะ มืดและ migratoria ในระหว่างระยะที่แสง ความสำคัญ 30
ของแสงเป็นฟักคิวขึ้นอยู่กับขนาดของการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระหว่าง moperiod
31 ชาย - ; ช่วงแสงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเวลาในการฟักทั้งสองชนิด 32
เมื่อขนาดของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิขนาดเล็ก นอกจากนี้ ไข่ของทั้งสองชนิดที่ 33
ถูกปกคลุมด้วยทรายไม่ตอบสนองต่อช่วงแสงและฟักในทั้งแสงและมืด 34
ขั้นตอน ระบุว่า แสงไม่ทะลุผ่านทราย เพราะมีไข่โดยปกติจะเป็นฝักไข่วาง 35
และโฟมปลั๊กฝากระหว่างมวลไข่ และผิวดิน เราทดสอบ 36
ความเป็นไปได้ที่เป็นธรรมชาติฝากไข่ของแสงผ่านโฟมปลั๊กไข่ที่ 37
ฝากและซ้ายไม่ถูกรบกวนในทรายฟักระหว่างแสงและระยะมืดที่ frequen คล้ายกัน - 38
cies . ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าไข่ของตั๊กแตนชนิดตอบสนองต่อแสง และควบคุม 39
ฟักเวลาตาม แต่จะไม่ใช้แสงเป็นฟักคิวในฟิลด์ วิวัฒนาการ
Sig - 40nificance ของความสามารถของไข่เพื่อตอบสนองต่อแสงในตั๊กแตนเหล่านี้ได้กล่าวไว้