The tan d, which is associated with

The tan d, which is associated with the dampening effect or energy
lost as a heat due interfacial interactions. The theoretical decrease in the tan d of talc filled and hybrid composite should be the
same as percentage of loading in the composite as the energy loss
is mainly associated to the dampening from the viscous component
of the thermoplastic and not from the rigid filler particles.
Fig. 5, tan d decreases in case of a hybrid composite by 44% but
in case of only talc filled PHBV no decrement in its value was observed.
The increase in the Tg of talc filled composite was confirmed
by the shifting of the tan d peak towards the higher
temperature. No decrease in the tan d value along with higher Tg
specifies the restrictions imposed by the surface of talc particles
to the freedom of rotation of the chain segment in the amorphous
phase of matrix as a result of interfacial interaction between the
talc and PHBV. The additional dampening effect was due to the
agglomerated talc particle–particle slippages or friction. The interfacial
interaction between the PHBV molecules and the talc surface
may have lead to higher energy losses due to the increased polymer
particle friction thus resulting in increased dampening effect.
Lower dampening in case of hybrid particle was due to the additional
stiffer wood fibers than the matrix.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

D tan ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลหรือพลังงานสะท้อนได้ดีหายไปเป็นความร้อนเนื่อง interfacial โต้ตอบ ควรลดลง d tan เติมแป้งและคอมโพสิตแบบผสมผสานทฤษฎีการเหมือนกับเปอร์เซ็นต์ของโหลดในคอมโพสิตเป็นการสูญเสียพลังงานส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องจะสะท้อนได้ดีจากคอมโพเนนต์ความหนืดของเทอร์โมพลาสติก และ จากอนุภาคแข็งฟิลเลอร์ไม่Fig. 5 ลด tan d ในกรณีที่คอมโพสิตแบบผสมผสานโดย 44% แต่ในกรณีเฉพาะแป้งเติม PHBV ไม่ decrement ในค่าถูกตรวจสอบการเพิ่มขึ้นของ Tg ของแป้งเติมได้รับการยืนยันโดยขยับสูงสุด d tan ต่อสูงขึ้นอุณหภูมิ ไม่ลดลงในค่า tan d กับ Tg สูงระบุข้อจำกัดที่กำหนด โดยพื้นผิวของอนุภาคแป้งเพื่อเสรีภาพในการหมุนของเซ็กเมนต์ที่เครือข่ายในการไประยะของเมตริกซ์จาก interfacial โต้ตอบระหว่างแป้งและ PHBV มีผลสะท้อนได้ดีเพิ่มเติมเนื่องในslippages แป้ง agglomerated อนุภาค – อนุภาคหรือแรงเสียดทาน Interfacial ที่โต้ตอบระหว่างโมเลกุล PHBV และผิวแป้งอาจนำไปการสูญเสียพลังงานสูงเนื่องจากพอลิเมอร์เพิ่มขึ้นจึง เกิดแรงเสียดทานของอนุภาคเพิ่มขึ้นผลสะท้อนได้ดีสะท้อนได้ดีที่ต่ำกว่าในกรณีที่ผสมอนุภาคเกิดเพิ่มเติมเส้นใยไม้ stiffer กว่าเมตริกซ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตาลง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหน่วงผลกระทบหรือพลังงาน
หายไปตามความร้อนเนื่องจากระหว่างการโต้ตอบ ส่วนทฤษฎีแทน D ของแป้งเติม และลูกผสมที่ผสมควรเป็น
เดียวกับค่าโหลดในคอมโพสิต เช่น การสูญเสียพลังงาน
เป็นส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับหนืดหน่วงจากองค์ประกอบ
ของเทอร์โมและไม่ได้มาจากอนุภาคสาร
รูปแข็ง5 , Tan D ลดลงในกรณีของคอมโพสิต ไฮบริด โดย  44% แต่
ในกรณีเฉพาะแป้งเติม phbv ไม่ลดลงในค่าของ พบ .
เพิ่มขึ้นในรูปแบบของแป้งเติมผสมยืนยัน
โดยการแทน D สูงสุดต่ออุณหภูมิที่สูง
. ไม่ลดตัง D ค่าพร้อมกับ
TG สูง กำหนดข้อ จำกัด ที่กำหนดโดยพื้นผิวของอนุภาค
แป้งเพื่ออิสรภาพของการหมุนของโซ่ส่วนในเฟสไป
ของเมทริกซ์เป็นผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างและระหว่าง
แป้ง phbv . เพิ่มเติมรองรับผลกระทบเนื่องจาก
agglomerated แป้งอนุภาค–อนุภาค slippages หรือแรงเสียดทาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมเลกุลและระหว่าง phbv

อาจจะนำไปสู่ผิวแป้งสูงกว่าการสูญเสียเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของพอลิเมอร์
แรงเสียดทานมากขึ้น ส่งผลให้อนุภาคจึงสลดผล .
ลดสลดกรณีผสมอนุภาคเนื่องจากเพิ่มเติม
แข็งกว่าไม้เส้นใยเมทริกซ์