In the present study, we used Thomp

In the present study, we used Thompson’s Derwent Innovation Index to retrieve patent data for the strings and over the search time span from January 2000 to December 2012. The data retrieved on the total number of patents published on graphene during the years 2000–2012 was approximately 2,306 patents; thus, in a span of two years (2010–2012), compared to the results of Shapira et al. (2012), a strong jump occurred of nearly 1,395 patents. The results for the second search on graphene nanocomposites patents published during 2000–2012 retrieved only 80 records. Both searches showed that, during 2000–2007, there were no records of published patents on graphene and graphene-based nanocomposites. This can be attributed to the onset of trials to investigate the commercial importance of graphene in modern industry, with many researchers carrying out various trials to demonstrate high-end applications that are likely to become available in the forthcoming years. We also conducted a cumulative search to see the trends and competition among the standalone graphene patents and graphene-based nanocomposites during January 2000–December 2012.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาปัจจุบัน เราใช้ดัชนีนวัตกรรมเดอร์เวนท์วิทอมป์สันเพื่อดึงข้อมูลสิทธิบัตรสำหรับสตริและผ่านระยะเวลาค้นหาจาก 2543 ถึง 2012 ธันวาคม ข้อมูลที่รับมาในจำนวนสิทธิบัตรที่เผยแพร่บน graphene ระหว่างปี 2000 – 2012 ได้ประมาณ 2,306 สิทธิบัตร ดังนั้น ในช่วงสองปี (2010-2012), เปรียบเทียบกับผลของ Shapira et al. (2012), กระโดดแรงเกิดของสิทธิบัตรเกือบ 1,395 ผลการค้นหาที่สองบนสิทธิสิท graphene ที่เผยแพร่ในช่วง 2000 – 55 เรียกระเบียน 80 เท่านั้น ค้นหาทั้งสองพบว่า ระหว่าง 2000 – 2007 มีสิทธิเผยแพร่ graphene และสิทใช้ graphene ระเบียนไม่ สามารถเกิดจากการเริ่มทดลองการตรวจสอบความสำคัญเชิงพาณิชย์ของ graphene ในอุตสาหกรรมที่ทันสมัย มีหลายนักวิจัยดำเนินการทดลองต่าง ๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงโปรแกรมประยุกต์ระดับสูงที่มักจะเป็นในปีหน้า เรายังดำเนินการค้นหาสะสมเพื่อดูแนวโน้มและการแข่งขันแบบสแตนด์อโลน graphene สิทธิและสิทใช้ graphene ระหว่าง 2000 มกราคม – 2012 ธันวาคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการศึกษาปัจจุบันเราใช้ดัชนี ธ อมป์สัน Derwent นวัตกรรมเพื่อดึงข้อมูลสิทธิบัตรสำหรับสตริง และ ในช่วงระยะเวลาการค้นหาตั้งแต่เดือนมกราคม 2000 ถึงเดือนธันวาคม 2012 ข้อมูลที่ดึงมาอยู่กับจำนวนของสิทธิบัตรที่เผยแพร่บนกราฟีนในช่วงปี 2000-2012 อยู่ที่ประมาณ 2,306 สิทธิบัตร; ดังนั้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา (2010-2012) เมื่อเทียบกับผลการ Shapira et al, (2012), การกระโดดที่แข็งแกร่งที่เกิดขึ้นเกือบ 1,395 สิทธิบัตร ผลสำหรับการค้นหาที่สองในสิทธิบัตรกราฟีนนาโนคอมพอสิตตีพิมพ์ในช่วง 2000-2012 ดึงเพียง 80 ระเบียน ค้นหาทั้งสองแสดงให้เห็นว่าในช่วง 2000-2007 มีไม่มีระเบียนของสิทธิบัตรที่เผยแพร่บนกราฟีนและกราฟีนนาโนคอมพอสิตที่ใช้ นี้สามารถนำมาประกอบกับการโจมตีของการทดลองเพื่อตรวจสอบถึงความสำคัญในเชิงพาณิชย์ของกราฟีนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีนักวิจัยหลายคนดำเนินการทดลองต่างๆเพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้งานระดับไฮเอนด์ที่มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นที่มีอยู่ในปีที่กำลังจะมาถึง นอกจากนี้เรายังดำเนินการค้นหาสะสมเพื่อดูแนวโน้มและการแข่งขันระหว่างสิทธิบัตร graphene แบบสแตนด์อโลนและกราฟีนนาโนคอมพอสิตที่ใช้ในช่วงเดือนมกราคม 2000 ธันวาคม 2012

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการศึกษาครั้งนี้เราใช้ทอมป์สัน Derwent นวัตกรรมดัชนีเพื่อดึงข้อมูลสิทธิบัตรสำหรับสตริง < graphene > และ < กราฟีนนาโนคอมโพสิต > กว่าเวลาค้นหาช่วงเดือนมกราคม 2543 ถึงธันวาคม 2555 ข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับจำนวนของสิทธิบัตรเผยแพร่บนกราฟีนในระหว่างปี 2000 – 2555 อยู่ที่ประมาณ 2306 สิทธิบัตร ดังนั้น ในช่วง 2 ปี ( ปี 2553 – 2555 )เปรียบเทียบกับผลของ shapira et al . ( 2012 ) , กระโดดแรงขึ้นเกือบ 1395 สิทธิบัตร ผลการค้นหาที่สองในแกรฟีนนาโนคอมโพสิตสิทธิบัตรเผยแพร่ใน 2000 – 2012 ดึงเฉพาะ 80 บันทึก การค้นหาพบว่า ในช่วงปี 2000 - 2007 , ไม่มีประวัติของการตีพิมพ์สิทธิบัตรใน graphene graphene ที่ใช้และนาโนคอมพอสิท .นี้สามารถนำมาประกอบกับการโจมตีของการทดลองเพื่อศึกษาความสำคัญของพาณิชย์ของกราฟีน ในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ มีนักวิจัยหลายเนินการทดลองต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้งานระดับไฮเอนด์ที่มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นใช้ได้ในปีหน้านอกจากนี้เรายังดำเนินการค้นหาสะสม เพื่อดูแนวโน้มและการแข่งขันระหว่างเดี่ยว graphene graphene ที่ใช้สิทธิบัตรและนาโนคอมโพสิตระหว่างเดือนมกราคม 2543 - ธันวาคม 2012