คอลีฟะห์ ท่านที่1 อบูบักร์ รอฎิยัลลอฮุอันฮู........ท่านอบูบักร์เป็น คอ การแปล - คอลีฟะห์ ท่านที่1 อบูบักร์ รอฎิยัลลอฮุอันฮู........ท่านอบูบักร์เป็น คอ ไทย วิธีการพูด

คอลีฟะห์ ท่านที่1 อบูบักร์ รอฎิยัลล

คอลีฟะห์ ท่านที่1 อบูบักร์ รอฎิยัลลอฮุอันฮู

........ท่านอบูบักร์เป็น คอลีฟะฮ์ (กาหลิบ) ระหว่างปี ฮ.ศ. 11-13 หรือ ค.ศ. 632-634 มีชื่อเต็มว่า อับดุลลอฮ์ บุตร อุสมาน ( อบูกุฮาฟะฮ์ ) บุตร อามิร บุตร อัมร์ บุตร กะอับ บุตร สะอัด บุตร ตัยม์ บุตร มุรเราะฮ์ มารดาของท่านมีชื่อว่า ซัลมา ท่านเป็นที่รู้จักในนาม อบูบักร์ อัศศิดดีก มีอายุอ่อนกว่าท่านนบี ( ศ็อลฯ ) สองปีเศษ

....อบูบักร เกิดที่มักกะฮ์ ปี ค . ศ .573 เป็นชาวอาหรับตระกูล บะนูตัยม์ เผ่ากุร็อยส์ ท่านเกิดในครอบครัวที่มีเกียรติเป็นที่นับหน้าถือตาในมักกะฮ์ ท่านเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธ์และจริงใจ ท่านศาสดามุฮัมมัดได้ให้สมญานามท่านว่า " อัซซิดดีก " ( ผู้ที่มีความเชื่อมั่นอย่างบริสุทธิ์ใจในการศรัทธา ) สาเหตุที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ็อล) ได้ให้สมญานาม " อัซซิดดีก " เพราะอบูบักรเชื่อในคำพูดของท่านศาสดามุฮัมมัดโดยไม่มีความสงสัยใดๆ

....ท่านอบูบักร์ เป็นคนสุภาพ เป็นคนซื่อสัตย์ และมีสัจจะ อบูบักร์ มีบุคลิกภาพคล้ายกับท่านศาสดามุฮัมมัด เนื่องจากว่าท่านนั้นเป็นสหายคนสนิทของท่านศาสดาตั้งแต่เยาว์วัย อบูบักร์ เป็นคนใจบุญ ท่านชอบช่วยเหลือคนจน ครั้งหนึ่ง ท่านอบูบักร์ได้นำเอาทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่มากมายให้กับท่านศาสดาเพื่อใช้ในสงครามตะบูก ท่านศาสดาถามว่า " อบูบักร์ ท่านเหลือสิ่งใดไว้กับครอบครัวของท่านบ้าง " อบูบักร์ กล่าวว่า " ฉันเหลืออัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ไว้กับพวกเขา "

ท่านอบูบักร์ เป็นชายคนแรกที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม เมื่อท่านศาสดาเผยแพร่อิสลามแก่อบูบักร์ เขาตอบรับอิสลามทันที เมื่อท่านศรัทธาแล้วท่านก็เชิญชวนบุคคลเป็นจำนวนมากเข้ารับอิสลาม เช่น อุษมาน , สุเบ็ร , ฏ้อลฮะฮ์ , อับดุรเราะห์มาน , สะอัด , บิล้าล และผู้ศรัทธาอีกหลายคน ท่านอบูบักร์ มีความผูกพันกับท่านศาสดาอย่างใกล้ชิดท่านนั้นเป็นสหายคนสนิทของท่านศาสดาตั้งแต่เยาว์วัยและยังเป็นสหายของท่านศาสดาในขณะที่อพยพจากมักกะฮ์ไปมะดีนะฮ์

ท่านศาสดากล่าวว่า " ในบรรดาสหายที่ดีของข้าพเจ้านั้น อบูบักร์ เป็นผู้ประเสริฐสุด " อีกทั้งท่านยังเป็นพ่อตาของท่านศาสดา เนื่องจากลูกสาวของท่าน คือ ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เป็นภรรยาของศาสดา ท่านได้เข้าร่วมทำสงครามกับท่านศาสดาทุกครั้ง ท่านได้ซื้อทาสและปล่อยทาสให้เป็นอิสระเป็นจำนวนมาก ขณะที่ท่านศาสดาป่วย อบูบักร์ได้รับเกียรติให้เป็นผู้นำละหมาด ( อิหม่าม ) ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมในการเป็นผู้นำของท่าน อบูบักร์ เป็นผู้ใกล้ชิดต่อท่านศาสดา ท่านได้ใช้ชีวิตอยู่กับท่านศาสดาตั้งแต่เด็กจนกระทั้งท่านศาสดาเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ อบูบักร์จึงเป็นผู้หนึ่งที่มีความรู้ทางด้านซุนนะฮ์ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) อย่างแท้จริง ชีวิตทั้งชีวิต ของท่านได้อุทิศให้กับการเสียสละและการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์

ท่านอบูบักร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเคาะลีฟะฮ์ จากการประชุมกันระหว่างชาวอันศอรฺ(ชาวมะดีนะฮ์) กับฝ่ายมุฮาญิร (ชาวมักกะฮฺ) บรรดาเศาะหาบะห์ทั้งชาวอันศอรและมุฮาญิรได้มีการประชุมหารือกันเพื่อคัดเลือกผู้นำคนใหม่ซึ่งมีฐานะเป็นตัวแทนหรือเคาะลีฟะฮ์ของท่านนบี ที่ประชุมมีมติคัดเลือกให้อบูบักรเป็นเคาะลีฟะฮ์ของท่านนบี โดยเหตุผลความอาวุโส ความประเสริฐและความใกล้ชิดกับท่านนบี ชาวมุสลิมต่างก็ให้การสัตยาบันต่อท่านอบูบักร์ในฐานะเป็นผู้นำคนใหม่และเป็นเคาะลีฟะฮ์คนแรกของท่านนบี

ท่านอบู บักร์ขึ้นมาทำหน้าที่เคาะลีฟะฮ์ในขณะที่ประวัติศาสตร์อิสลามกำลังอยู่ในระยะหน้าสิ่วหน้าขวาน จะต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง เช่น การเกิดขึ้นของศาสดาเถื่อน การถอนตัวออกจากอิสลาม ตลอดจนการปฏิเสธไม่ยอมจ่ายซะกาตอย่างขันแข็งของชนเผ่าต่างๆ ทั่วภาคพื้นอาราเบีย ซึ่งเป็นการท้าทายรัฐอิสลามแห่งนครมะดีนะฮ์เป็นอย่างมาก เหตุการณ์ดังกล่าวนี้นักประวัติศาสตร์เรียกว่า “ เหตุการณ์อิรติดาด ” ท่านอบู บักร์ใช้มาตรการทางทหารอย่างเด็ดขาดในการแก้ปัญหาเหตุการณ์อิรติดาด บางเผ่าก็ยอมจำนนต่ออิสลามแต่โดยดี แต่บางเผ่าก็ยังดื้อดึงจนต้องทำสงครามกับพวกเขา

....ในช่วงสองปีในการทำหน้าที่เป็นเคาะลีฟะฮ์ ท่านอบู บักรประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการบดขยี้อำนาจของศาสดาปลอม ปราบปรามกบฏในประเทศอย่างสิ้นซากและขับไล่ผู้รุกรานจากต่างประเทศ ท่านเป็นผู้สร้างรากฐานอันมั่นคงให้แก่รัฐอิสลามและผนึกพลังอิสลามเพื่อรองรับการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจไบแซนทีนและมหาอำนาจเปอร์เซียต่อไป

ท่านอบูบักร์เสียชีวิตในปีอิจญเราะฮฺที่ 13 ขณะที่ท่านอายุ 63 ปี ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮ์ ในระยะเวลา 2 ปี กับ 10 คืน ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตท่านได้แต่งตั้งแต่งตั้งท่านอุมัร อิบนุ อัลค็อฏฏอบเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ต่อไป
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
คอลีฟะห์ ท่านที่1 อบูบักร์รอฎิยัลลอฮุอันฮู........ ท่านอบูบักร์เป็นคอลีฟะฮ์ (กาหลิบ) ระหว่างปีฮ.ศ. 11-13 หรือค.ศ. 632-634 มีชื่อเต็มว่าอับดุลลอฮ์บุตรอุสมาน (อบูกุฮาฟะฮ์) บุตรอามิรบุตรอัมร์บุตรกะอับบุตรสะอัดบุตรตัยม์บุตรมุรเราะฮ์มารดาของท่านมีชื่อว่าซัลมาท่านเป็นที่รู้จักในนามอบูบักร์อัศศิดดีกมีอายุอ่อนกว่าท่านนบี (ศ็อลฯ) สองปีเศษ .... อบูบักรเกิดที่มักกะฮ์ปีค ศ.573 เป็นชาวอาหรับตระกูลบะนูตัยม์เผ่ากุร็อยส์ท่านเกิดในครอบครัวที่มีเกียรติเป็นที่นับหน้าถือตาในมักกะฮ์ท่านเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธ์และจริงใจท่านศาสดามุฮัมมัดได้ให้สมญานามท่านว่า "อัซซิดดีก" (ผู้ที่มีความเชื่อมั่นอย่างบริสุทธิ์ใจในการศรัทธา) สาเหตุที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ็อล)ได้ให้สมญานาม "อัซซิดดีก" เพราะอบูบักรเชื่อในคำพูดของท่านศาสดามุฮัมมัดโดยไม่มีความสงสัยใด ๆ .... ท่านอบูบักร์เป็นคนสุภาพเป็นคนซื่อสัตย์และมีสัจจะอบูบักร์มีบุคลิกภาพคล้ายกับท่านศาสดามุฮัมมัดเนื่องจากว่าท่านนั้นเป็นสหายคนสนิทของท่านศาสดาตั้งแต่เยาว์วัยอบูบักร์เป็นคนใจบุญท่านชอบช่วยเหลือคนจนครั้งหนึ่งท่านอบูบักร์ได้นำเอาทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่มากมายให้กับท่านศาสดาเพื่อใช้ในสงครามตะบูกท่านศาสดาถามว่า "อบูบักร์ท่านเหลือสิ่งใดไว้กับครอบครัวของท่านบ้าง"อบูบักร์กล่าวว่า"ฉันเหลืออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ไว้กับพวกเขา" ท่านอบูบักร์เป็นชายคนแรกที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามเมื่อท่านศาสดาเผยแพร่อิสลามแก่อบูบักร์เขาตอบรับอิสลามทันทีเมื่อท่านศรัทธาแล้วท่านก็เชิญชวนบุคคลเป็นจำนวนมากเข้ารับอิสลามเช่นอุษมาน สุเบ็ร ฏ้อลฮะฮ์ อับดุรเราะห์มาน สะอัด บิล้าลและผู้ศรัทธาอีกหลายคนท่านอบูบักร์มีความผูกพันกับท่านศาสดาอย่างใกล้ชิดท่านนั้นเป็นสหายคนสนิทของท่านศาสดาตั้งแต่เยาว์วัยและยังเป็นสหายของท่านศาสดาในขณะที่อพยพจากมักกะฮ์ไปมะดีนะฮ์ ท่านศาสดากล่าวว่า " ในบรรดาสหายที่ดีของข้าพเจ้านั้น อบูบักร์ เป็นผู้ประเสริฐสุด " อีกทั้งท่านยังเป็นพ่อตาของท่านศาสดา เนื่องจากลูกสาวของท่าน คือ ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เป็นภรรยาของศาสดา ท่านได้เข้าร่วมทำสงครามกับท่านศาสดาทุกครั้ง ท่านได้ซื้อทาสและปล่อยทาสให้เป็นอิสระเป็นจำนวนมาก ขณะที่ท่านศาสดาป่วย อบูบักร์ได้รับเกียรติให้เป็นผู้นำละหมาด ( อิหม่าม ) ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมในการเป็นผู้นำของท่าน อบูบักร์ เป็นผู้ใกล้ชิดต่อท่านศาสดา ท่านได้ใช้ชีวิตอยู่กับท่านศาสดาตั้งแต่เด็กจนกระทั้งท่านศาสดาเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ อบูบักร์จึงเป็นผู้หนึ่งที่มีความรู้ทางด้านซุนนะฮ์ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) อย่างแท้จริง ชีวิตทั้งชีวิต ของท่านได้อุทิศให้กับการเสียสละและการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ ท่านอบูบักร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเคาะลีฟะฮ์จากการประชุมกันระหว่างชาวอันศอรฺ(ชาวมะดีนะฮ์)กับฝ่ายมุฮาญิร (ชาวมักกะฮฺ) บรรดาเศาะหาบะห์ทั้งชาวอันศอรและมุฮาญิรได้มีการประชุมหารือกันเพื่อคัดเลือกผู้นำคนใหม่ซึ่งมีฐานะเป็นตัวแทนหรือเคาะลีฟะฮ์ของท่านนบีที่ประชุมมีมติคัดเลือกให้อบูบักรเป็นเคาะลีฟะฮ์ของท่านนบีโดยเหตุผลความอาวุโสความประเสริฐและความใกล้ชิดกับท่านนบีชาวมุสลิมต่างก็ให้การสัตยาบันต่อท่านอบูบักร์ในฐานะเป็นผู้นำคนใหม่และเป็นเคาะลีฟะฮ์คนแรกของท่านนบี ท่านอบูบักร์ขึ้นมาทำหน้าที่เคาะลีฟะฮ์ในขณะที่ประวัติศาสตร์อิสลามกำลังอยู่ในระยะหน้าสิ่วหน้าขวานจะต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างเช่นการเกิดขึ้นของศาสดาเถื่อนการถอนตัวออกจากอิสลามตลอดจนการปฏิเสธไม่ยอมจ่ายซะกาตอย่างขันแข็งของชนเผ่าต่าง ๆ ทั่วภาคพื้นอาราเบียซึ่งเป็นการท้าทายรัฐอิสลามแห่งนครมะดีนะฮ์เป็นอย่างมากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้นักประวัติศาสตร์เรียกว่า "เหตุการณ์อิรติดาด" ท่านอบูบักร์ใช้มาตรการทางทหารอย่างเด็ดขาดในการแก้ปัญหาเหตุการณ์อิรติดาดบางเผ่าก็ยอมจำนนต่ออิสลามแต่โดยดีแต่บางเผ่าก็ยังดื้อดึงจนต้องทำสงครามกับพวกเขา .... ในช่วงสองปีในการทำหน้าที่เป็นเคาะลีฟะฮ์ท่านอบูบักรประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการบดขยี้อำนาจของศาสดาปลอมปราบปรามกบฏในประเทศอย่างสิ้นซากและขับไล่ผู้รุกรานจากต่างประเทศท่านเป็นผู้สร้างรากฐานอันมั่นคงให้แก่รัฐอิสลามและผนึกพลังอิสลามเพื่อรองรับการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจไบแซนทีนและมหาอำนาจเปอร์เซียต่อไป ท่านอบูบักร์เสียชีวิตในปีอิจญเราะฮฺที่ 13 ขณะที่ท่านอายุ 63 ปีได้ดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮ์ในระยะเวลา 2 ปีดื่มด่ำ 10 คืนก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตท่านได้แต่งตั้งแต่งตั้งท่านอุมัรอิบนุอัลค็อฏฏอบเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ต่อไป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
คอลีฟะห์ท่านที่ 1 อบูบักร์ คอลีฟะฮ์ (กาหลิบ) ระหว่างปี ฮ.ศ. วันที่ 11-13 หรือ ค.ศ. 632-634 มีชื่อเต็มว่าอับดุลลอฮ์บุตรอุสมาน (อบูกุฮาฟะฮ์) บุตรอามิรบุตรอัมร์บุตรกะอับบุตรสะอัดบุตรตัยม์บุตรมุรเราะฮ์มารดาของท่านมีชื่อว่า ซัลมาท่านเป็นที่รู้จักในนามอบูบักร์อัศศิดดีกมีอายุอ่อนกว่าท่านนบี (ศ็อลฯ ) สองปีเศษ.... อบูบักรเกิดที่มักกะฮ์ปีค ศ. 573 เป็นชาวอาหรับตระกูลบะนูตัยม์เผ่ากุร็อยส์ "อัซซิดดีก" ( ) สาเหตุที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อล) ได้ให้สมญานาม "อัซซิดดีก" เป็นคนสุภาพเป็นคนซื่อสัตย์และมีสัจจะอบูบักร์ อบูบักร์เป็นคนใจบุญท่านชอบช่วยเหลือคนจนครั้งหนึ่ง ท่านศาสดาถามว่า "อบูบักร์ "อบูบักร์กล่าวว่า" ฉันเหลืออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ไว้กับพวกเขา "ท่านอบูบักร์ เขาตอบรับอิสลามทันที เช่นอุษมาน, สุเบ็ร, ฏ้อลฮะฮ์, อับดุรเราะห์มาน, สะอัด, บิล้าลและผู้ศรัทธาอีกหลายคนท่านอบูบักร์ "ในบรรดาสหายที่ดีของข้าพเจ้านั้นอบูบักร์เป็นผู้ประเสริฐสุด" เนื่องจากลูกสาวของท่านคือท่านหญิงอาอิชะฮ์เป็นภรรยาของศาสดา ขณะที่ท่านศาสดาป่วย (อิหม่าม) อบูบักร์เป็นผู้ใกล้ชิดต่อท่านศาสดา ด้วยเหตุนี้ (ศ็อลฯ ) อย่างแท้จริงชีวิตทั้งชีวิต กับฝ่ายมุฮาญิร (ชาวมักกะฮฺ) โดยเหตุผลความอาวุโส จะต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างเช่นการเกิดขึ้นของศาสดาเถื่อนการถอนตัวออกจากอิสลาม ทั่วภาคพื้นอาราเบีย "เหตุการณ์อิรติดาด" ท่านอบู บางเผ่าก็ยอมจำนนต่ออิสลาม แต่โดยดี ท่านอบู 13 ขณะที่ท่านอายุ 63 ปีได้ดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮ์ในระยะเวลา 2 ปีกับ 10 คืน อิบนุ


















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
คอลีฟะห์ท่านที่ 1 อบูบักร์รอฎิยัลลอฮุอันฮู

. . . . . ท่านอบูบักร์เป็นคอลีฟะฮ์ ( กาหลิบ ) ระหว่างปีผูกเหยื่อ . ศ . 11-13 ค็อคค . ศ .632-634 มีชื่อเต็มว่าอับดุลลอฮ์บุตรอุสมาน ( อบูกุฮาฟะฮ์ ) บุตรอามิรบุตรอัมร์บุตรกะอับบุตรสะอัดบุตรตัยม์บุตรมุรเราะฮ์มารดาของท่านมีชื่อว่าซัลมาท่านเป็นที่รู้จักในนามอบูบักร์อัศศิดดีก( ศ็อลฯ ) สองปีเศษ

. . . . . . . อบูบักรเกิดที่มักกะฮ์ . ค . ศ .แต่เป็นชาวอาหรับตระกูลบะนูตัยม์เผ่ากุร็อยส์ท่านเกิดในครอบครัวที่มีเกียรติเป็นที่นับหน้าถือตาในมักกะฮ์ท่านเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธ์และจริงใจท่านศาสดามุฮัมมัดได้ให้สมญานามท่านว่า " อัซซิดดีก”) สาเหตุที่ท่านศาสดามุฮัมมัด ( ศ็อล ) ได้ให้สมญานาม " อัซซิดดีก " เพราะอบูบักรเชื่อในคำพูดของท่านศาสดามุฮัมมัดโดยไม่มีความสงสัยใดๆ

. . . . . . .ท่านอบูบักร์เป็นคนสุภาพเป็นคนซื่อสัตย์และมีสัจจะอบูบักร์มีบุคลิกภาพคล้ายกับท่านศาสดามุฮัมมัดเนื่องจากว่าท่านนั้นเป็นสหายคนสนิทของท่านศาสดาตั้งแต่เยาว์วัยอบูบักร์เป็นคนใจบุญท่านชอบช่วยเหลือคนจนท่านอบูบักร์ได้นำเอาทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่มากมายให้กับท่านศาสดาเพื่อใช้ในสงครามตะบูกท่านศาสดาถามว่า " อบูบักร์ท่านเหลือสิ่งใดไว้กับครอบครัวของท่านบ้าง " อบูบักร์กล่าวว่า " ฉันเหลืออัลลอฮ์"

ท่านอบูบักร์เป็นชายคนแรกที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามเมื่อท่านศาสดาเผยแพร่อิสลามแก่อบูบักร์เขาตอบรับอิสลามทันทีเมื่อท่านศรัทธาแล้วท่านก็เชิญชวนบุคคลเป็นจำนวนมากเข้ารับอิสลามเช่นอุษมานสุเบ็ร , ,ฏ้อลฮะฮ์อับดุรเราะห์มานสะอัด , , ,
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: