วันครูของประเทศไทยวันครูได้จัดให้มี

วันครูของประเทศไทย

วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุม จรรยาและวินัยของครูรักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัว ได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู

ด้วยเหตุนี้ในทุกปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และชักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัย สถานที่ ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา

พ.ศ. 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า

"ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณ เป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมี สักวันหนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพ สักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับ คนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละ ทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง"

จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆ ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึก ถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดี เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมากในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอ คณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริม ความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน

การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้ ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุ

การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบ การจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ประเภทหลักดังนี้

กิจกรรมทางศาสนา
พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์
กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วันครูของประเทศไทยวันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคมพ.ศ 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อพ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่าคุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภาโดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการควบคุมจรรยาและวินัยของครูรักษาผลประโยชน์ส่งเสริมฐานะของครูจัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควรส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครูด้วยเหตุนี้ในทุกปีคุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปีเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมาและชักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคยาจารย์หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภาพ.ศ. ปี 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปีจอมพลป. พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า"ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่าเนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลายข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลายเพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษวันสงกรานต์เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญทำทานคนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลายข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วยลองปรึกษาหารือกันในหลักการทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง"จากแนวความคิดนี้กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมากในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไปโดยได้เสนอหลักการว่าเพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชนการจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคมพ.ศ 2500 กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปีอนุสรณ์ที่สำคัญคือหนังสือประวัติครูหนังสือที่ระลึกวันครูและสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุประเภทหลักดังนี้การจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา กิจกรรมทางศาสนา พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตนการกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครูส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

16 มกราคม พ.ศ. 2500 เมื่อ พ.ศ. 2488 ควบคุม ส่งเสริมฐานะของครูจัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร และชักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ สถานที่ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปีจอมพลป พิบูลสงคราม เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณ ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมี เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษวันสงกรานต์ ทำทานคนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ประกอบคุณงามความดี คณะกรรมการอำนวยการต่อไปโดยได้เสนอหลักการว่า 16 มกราคม พ.ศ. 2500 อนุสรณ์ที่สำคัญคือหนังสือประวัติครูหนังสือที่ระลึกวันครู ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันครูของประเทศไทย

วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคมพ . ศ . 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อพ . ศ .ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่าคุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา 2488ควบคุมจรรยาและวินัยของครูรักษาผลประโยชน์ส่งเสริมฐานะของครูจัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควรส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู

ด้วยเหตุนี้ในทุกปีคุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปีเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมาและชักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคยาจารย์หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา

พ . ศ . 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปีจอมพลป . พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า

" ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่าเนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลายข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพเพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษวันสงกรานต์เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญทำทานคนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลายข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย"
ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง
จากแนวความคิดนี้กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละประกอบคุณงามความดีคณะกรรมการอำนวยการต่อไปโดยได้เสนอหลักการว่าเพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน

การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคมพ . ศ .2500 กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปีหนังสือประวัติครูหนังสือที่ระลึกวันครูและสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุ

การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลาในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ประเภทหลักดังนี้


กิจกรรมทางศาสนาพิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตนการกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น

กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู