When you hear the word “branding” i

When you hear the word “branding” it brings to mind the sign of product.
Well, product branding is not quite that painful, but it follows along the same principle. You want to “burn” into the consumer’s mind the image of your brand.
Some examples of recognizable brands include the red, white and blue “smiling” Pepsi logo, the infamous Nike “swish”, the elegant L-oval of Lexus and the golden arches of McDonalds. These icons represent established and emblazoned images in our minds.
So what’s the difference between a logo and a brand? Some may call the aforementioned examples-logos while others would refer to them as corporate brands. So what’s the difference? Logos are an image or symbol that represents a person, place or thing and is used as an identifier of a product or service in most cases. It can be equated to an individual’s “signature.”
Brands, on the other hand, would be like an individual’s “character” – it’s who you are, what you are about and what you value. A company’s brand is really no different, it is literally the personality of the company, it manifests the personality of the owner, board of directors, shareholders or even the corporate culture.
Branding takes time, it’s not something easily obtained overnight. Even the advertising Gods are unable to make that happen. And it takes repeated exposure to obtain success. Logos, the visual symbol of the brand, immediately bring an awareness of what the product or service has to offer and what reputation the company may have. Robert (2011)
A definition of what branding might be in the context of marketing may sound like: “Branding is a long and persistent attempt to convey an idea, concept or emotion in someone’s mind.” Or put another way “Brand identity should help establish a relationship between the brand and the customer by generating a value, a function, an emotion or a form of self-expression.”
There has been a multitude of studies performed over the last couple of decades to evaluate brand awareness and brand exposure.
Depending on which study you refer to, the average person is exposed to consumer brands and commercial messages anywhere from 300 to 5000 times daily, depending on individual habits. Just think of your drive to work this morning, how many billboards did you pass? What about commercial vehicles with signs? What about the businesses you past and their signage?
Branding is important because the stronger the brand is the easier the communication becomes. It’s like a snowball going downhill… it gets bigger as it rolls and gains more momentum.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อคุณได้ยินการใช้คำ "ตราสินค้า" มันนำไปใจหมายของผลิตภัณฑ์ ดี ผลิตภัณฑ์ตราสินค้าไม่ค่อนข้างที่เจ็บปวด แต่เป็นไปตามตามหลักการเดียวกัน คุณต้องการ "เขียน" ลงในจิตใจของผู้บริโภคในรูปของแบรนด์ยกตัวอย่างของแบรนด์เป็นที่รู้จักเช่นแดง ขาว และน้ำเงิน "ยิ้ม" แป๊ปซี่โลโก้ Nike อับอาย "สวิช" พัก L-วงรีของเล็กซัส และอาร์เชสทองของ McDonalds ไอคอนเหล่านี้แทน emblazoned และสร้างภาพในจิตใจของเราดังนั้น อะไรคือความแตกต่างระหว่างโลโก้และแบรนด์ บางคนอาจเรียกดังกล่าวตัวอย่างโลโก้ในขณะที่ผู้อื่นจะอ้างถึงเป็นแบรนด์ของบริษัท ดังนั้น อะไรคือความแตกต่าง โลโก้เป็นรูปหรือสัญลักษณ์ ที่แสดงถึงบุคคล สถานที่ หรือสิ่งที่ใช้เป็นรหัสของสินค้าหรือบริการในกรณีส่วนใหญ่ มันสามารถ equated กับของแต่ละ "ลายเซ็น"แบรนด์ ในทางกลับกัน จะเหมือนของแต่ละ "อักขระ" – คุณเป็นใคร สิ่งที่คุณกำลังเกี่ยวกับ และคุณค่า แบรนด์ของบริษัทคือจริง ๆ ไม่แตกต่าง มีบุคลิกภาพของบริษัทอย่างแท้จริง จะปรากฏในบุคลิกภาพของเจ้าของ คณะกรรมการ ผู้ถือหุ้น หรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมขององค์กรตราสินค้าใช้เวลา เป็นรายการที่ไม่ได้รับค้างคืน แม้พระเจ้าโฆษณาไม่ต้องการที่เกิดขึ้น และก็สัมผัสซ้ำจะได้รับความสำเร็จ โลโก้ สัญลักษณ์ภาพของแบรนด์ ทันทีนำการรับรู้ว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการมีให้และชื่อเสียงว่า บริษัทอาจมีการ โรเบิร์ต (2011)ฟังคำนิยามของตราสินค้าใดอาจอยู่ในบริบทของการตลาด: "Branding เป็นความพยายามที่ยาวนาน และแบบการถ่ายทอดความคิด แนวความคิด หรืออารมณ์ในจิตใจของคน" หรืออีกวิธีหนึ่ง "แบรนด์ประจำจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า โดยการสร้างค่า ฟังก์ชัน อารมณ์ หรือแบบของ self-expression"มีหลากหลายศึกษาดำเนินกว่าสองทศวรรษเพื่อประเมินการรับรู้แบรนด์และแบรนด์สัมผัสขึ้นอยู่กับการศึกษาที่คุณอ้างถึง คนเฉลี่ยสัมผัสกับแบรนด์ของผู้บริโภคและข้อความเชิงพาณิชย์ใด ๆ จาก 300 ไป 5000 ครั้งต่อวัน ขึ้นอยู่กับนิสัยแต่ละ เพียงคิดว่า ขับรถไปทำงานเช้านี้ ป้ายโฆษณาจำนวนไม่ผ่าน ยานพาหนะพาณิชย์มีอะไรบ้าง สิ่งที่เกี่ยวกับธุรกิจที่คุณผ่านมาและป้ายของพวกเขาตราสินค้าเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นการสื่อสารง่ายขึ้น จะ มันเป็นเหมือนก้อนหิมะไปลง...มันจะใหญ่ ตามม้วน และรับโมเมนตัมเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อคุณได้ยินคำว่า "แบรนด์" จะนำไปคิดสัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์.
ดีการสร้างตราสินค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นไม่มากที่เจ็บปวด แต่มันดังต่อไปนี้ตามหลักการเดียวกัน คุณต้องการที่จะ "เผาผลาญ" ในใจของผู้บริโภคภาพของแบรนด์ของคุณ.
ตัวอย่างบางส่วนของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ สีแดง, สีขาวและสีฟ้า "ยิ้ม" โลโก้เป๊ปซี่, น่าอับอายไนกี้ "หวด" สง่างาม L-รูปไข่ของเล็กซัสและ ซุ้มทองของ McDonalds ไอคอนเหล่านี้เป็นตัวแทนที่จัดตั้งขึ้นและภาพประดับในจิตใจของเรา.
ดังนั้นสิ่งที่แตกต่างระหว่างโลโก้และแบรนด์? บางคนอาจเรียกโลโก้ตัวอย่าง-ดังกล่าวข้างต้นในขณะที่คนอื่นจะหมายถึงพวกเขาเป็นแบรนด์ของ บริษัท ดังนั้นสิ่งที่แตกต่างกันคือ โลโก้ที่มีภาพหรือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงบุคคลสถานที่หรือสิ่งและใช้เป็นตัวบ่งชี้ของสินค้าหรือบริการในกรณีส่วนใหญ่ มันสามารถบรรจุของแต่ละบุคคล "ลายเซ็น."
แบรนด์ในมืออื่น ๆ ที่จะเป็นเช่นของแต่ละบุคคล "ตัวอักษร" - มันเป็นที่ที่คุณมีสิ่งที่คุณกำลังและสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ แบรนด์ของ บริษัท ที่เป็นจริงไม่แตกต่างกันก็เป็นอักษรบุคลิกภาพของ บริษัท ก็แสดงออกบุคลิกภาพของเจ้าของคณะกรรมการผู้ถือหุ้นหรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมองค์กร.
ต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ก็ไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายในชั่วข้ามคืน แม้แต่พระเจ้าโฆษณาไม่สามารถที่จะทำให้มันเกิดขึ้น และจะใช้เวลาทำซ้ำการสัมผัสกับได้รับความสำเร็จ โลโก้สัญลักษณ์ภาพของแบรนด์ทันทีนำความรู้ในสิ่งที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีให้และสิ่งที่ชื่อเสียงของ บริษัท อาจจะมี โรเบิร์ต (2011)
ความหมายของสิ่งสร้างตราสินค้าที่อาจจะมีในบริบทของการตลาดอาจจะชอบ ". การสร้างแบรนด์เป็นความพยายามที่ยาวนานและถาวรในการถ่ายทอดความคิดแนวความคิดหรืออารมณ์ความรู้สึกในใจของใครบางคน" หรืออีกนัยหนึ่ง "เอกลักษณ์ของแบรนด์จะช่วยให้ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าโดยการสร้างค่าฟังก์ชั่นอารมณ์หรือรูปแบบในการแสดงออก. "
มีความหลากหลายของการศึกษาที่ดำเนินการในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาในการประเมินการรับรู้แบรนด์และสัมผัสตราสินค้า
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการศึกษาที่คุณอ้างถึงบุคคลทั่วไปที่มีการสัมผัสกับแบรนด์ของผู้บริโภคและข้อความในเชิงพาณิชย์ได้ทุกที่ 300-5,000 ครั้งต่อวันขึ้นอยู่กับนิสัยของแต่ละบุคคล เพียงแค่คิดว่าของไดรฟ์ของคุณให้ทำงานในเช้าวันนี้กี่ป้ายคุณไม่ผ่าน? สิ่งที่เกี่ยวกับรถเพื่อการพาณิชย์ที่มีอาการ? สิ่งที่เกี่ยวกับธุรกิจที่คุณอดีตและป้ายของพวกเขา
สร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญเพราะความแข็งแกร่งของแบรนด์คือการสื่อสารได้ง่ายขึ้นจะกลายเป็น มันเหมือนก้อนหิมะจะตกต่ำ ... มันก็จะใหญ่เป็นมันม้วนและโมเมนตัมกำไรมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อคุณได้ยินคำว่า " ตราสินค้า " มันทำให้คิดถึงป้ายสินค้า .
ดี การสร้างแบรนด์สินค้าที่ไม่ค่อนข้างเจ็บปวด แต่มันเป็นไปตามตาม หลักการเดียวกัน คุณต้องการที่จะ " เผาไหม้ " ลงในจิตใจของผู้บริโภคภาพลักษณ์ของแบรนด์ของคุณ .
ตัวอย่างบางส่วนของที่รู้จักแบรนด์ ได้แก่ สีแดง , สีขาวและสีฟ้า " ยิ้ม " โลโก้เป๊ปซี่ , infamous Nike " หวด "การ l-oval หรูเล็กซัส และโค้งสีทองของแมคโดนัลด์ ไอคอนเหล่านี้เป็นตัวแทนของการก่อตั้งและ emblazoned ภาพในจิตใจของเรา .
แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างโลโก้และแบรนด์ บางคนอาจเรียกใช้โลโก้ตัวอย่างในขณะที่คนอื่นจะหมายถึงพวกเขาเป็นแบรนด์ของบริษัท ดังนั้น อะไรคือความแตกต่าง ? โลโก้เป็นภาพหรือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงบุคคลสถานที่หรือสิ่งของ และ ใช้เป็นตัวระบุของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ในกรณีส่วนใหญ่ มันสามารถ equated กับของส่วนบุคคล " ลายเซ็น "
แบรนด์บนมืออื่น ๆที่อาจจะเหมือนเป็น " ตัวละครแต่ละ " ซึ่งที่คุณเป็นสิ่งที่คุณเป็นและสิ่งที่คุณค่า แบรนด์ของ บริษัท จะไม่แตกต่างกันมาก มันเป็นอักษรบุคลิกภาพของบริษัทมันแสดงออกบุคลิกของเจ้าของ คณะกรรมการ ผู้ถือหุ้น หรือแม้แต่ วัฒนธรรมองค์กร การสร้างตราสินค้า
ใช้เวลา มันไม่ใช่อะไรง่ายๆเพียงชั่วข้ามคืน แม้แต่โฆษณาพระไม่สามารถที่จะทำให้มันเกิดขึ้น และใช้ซ้ำ การได้รับความสำเร็จ ภาพโลโก้สัญลักษณ์ของแบรนด์ทันทีนำความตระหนักเกี่ยวกับสิ่งที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีให้และว่าชื่อเสียงของ บริษัท อาจ โรเบิร์ต ( 2011 )
นิยามของสิ่งที่ตราสินค้าอาจจะอยู่ในบริบทของการตลาดอาจเสียงเช่น : " การสร้างตราสินค้าเป็นความพยายามที่ยาวนานและถาวร เพื่อถ่ายทอดความคิด ความคิด หรืออารมณ์ในจิตใจของผู้อื่น ." หรือวางวิธีอื่น " เอกลักษณ์ตราสินค้าจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โดยการสร้างคุณค่า หน้าที่ อารมณ์ หรือ รูปแบบของการแสดงออก . "
มีความหลากหลายของการศึกษาดำเนินการมากกว่าคู่สุดท้ายของทศวรรษเพื่อประเมินการรับรู้แบรนด์และการเปิดรับแบรนด์ .
ซึ่งขึ้นอยู่กับการศึกษา คุณดูไปคนทั่วไปจะสัมผัสกับแบรนด์และผู้บริโภคข้อความที่ใดก็ได้จาก 300 , 000 ครั้งต่อวัน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล แค่คิดว่าขับรถไปทำงานตอนเช้า กี่ป้ายผ่านไหม ? อะไรที่เกี่ยวกับรถเพื่อการพาณิชย์ ด้วยสัญญาณ อะไรที่เกี่ยวกับธุรกิจที่คุณที่ผ่านมาและป้ายของพวกเขา
การสร้างตราสินค้าเป็นสิ่งสำคัญเพราะแข็งแกร่งแบรนด์ได้ง่ายกว่าการสื่อสารกลายเป็น มันเหมือนก้อนหิมะจะพัง . . . . . . . มันก็จะใหญ่ขึ้นเป็นม้วนและเพิ่มแรงมากขึ้น .