To behave as a probiotic, LAB must

To behave as a probiotic, LAB must first be able to survival passage though the upper GIT,
meaning that LAB must have the characteristics of resistance to increased acidity from inorganic acid
production (e.g., hydrochloric acid) and pancreatic enzymes [42]. The most commonly used probiotics
are strains of LAB such as Lactobacillus, and Bifidobacterium, which are known to withstand gastric

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำเป็นเป็นโปรไบโอติกส์ แล็บแรกต้องสามารถอยู่รอดแม้ว่า passage GIT บนหมายความ ว่า ห้องปฏิบัติต้องมีลักษณะของความต้านทานเป็นมีเพิ่มขึ้นจากกรดอนินทรีย์ผลิต (เช่น กรดไฮโดรคลอริก) และเอนไซม์ตับอ่อน [42] Probiotics ที่ใช้บ่อยที่สุดมีสายพันธุ์ของห้องปฏิบัติการเช่นแลคโตบาซิลลัส และ Bifidobacterium ซึ่งเป็นที่รู้จักในกระเพาะอาหารทนต่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการประพฤติตัวเป็นโปรไบโอติก, LAB แรกจะต้องสามารถอยู่รอดทางแม้ว่า GIT บน
หมายความว่า LAB ต้องมีลักษณะของความต้านทานต่อความเป็นกรดเพิ่มขึ้นจากกรดอนินทรี
ผลิต (เช่นกรดไฮโดรคลอริก) และเอนไซม์ตับอ่อน [42] โปรไบโอติกที่ใช้กันมากที่สุด
เป็นสายพันธุ์ของ LAB เช่นแลคโตบาซิลลัสและ Bifidobacterium ซึ่งเป็นที่รู้จักในการทนต่อกระเพาะอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำตัวเป็นโปรไบโอติก , Lab ครั้งแรกจะต้องสามารถเดินรอดแต่คอมไพล์บน
/ ห้องปฏิบัติการต้องมีลักษณะของความต้านทานจะเพิ่มความเป็นกรดจากการผลิตกรด
อนินทรีย์ ( เช่นกรดเกลือ ) และตับอ่อนเอนไซม์ [ 42 ] ที่ใช้บ่อยที่สุดโปรไบโอติก
เป็นสายพันธุ์ของห้องปฏิบัติการ เช่น แลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นที่รู้จักที่จะทนต่อกระเพาะอาหาร