A framework for comprehensive relia

A framework for comprehensive reliability assessment has been developed based on Markov
models of system components and identification methods of events that contribute to
unreliability. Specifically, an improved wind-chime approach is described coupled with an
improved power system model. The model is based on the single phase quadratic modeling
approach that provides superior performance in two aspects: (a) faster convergence, (b) ability to
model complex load characteristics, and classes of loads such as interruptible load, critical load,
etc. The same model has been extended for identifying events that contribute to the unreliability
of the system. The method is integrated in the wind-chime scheme for the quick identification of
critical events and effects analysis of the critical events. Since the methods are based on the
Markov state space approach, probability, frequency and duration indices are computed, such as:
(a) probability of customer interruption, (b) frequency of customer interruption and (c) duration
of customer interruption. The advanced load modeling capability enables: (a) a realistic
evaluation of industry practices such as load management programs on system reliability, and (b)
a realistic evaluation of load characteristic on voltage problems and their impact on reliability.
Examples illustrating the capabilities of the approach are provided.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรอบสำหรับการประเมินความน่าเชื่อถือครอบคลุมได้รับการพัฒนาตาม Markovรุ่นของคอมโพเนนต์ระบบและวิธีการแสดงตนของเหตุการณ์ที่นำไปสู่ฉลาจกับ เฉพาะ กระดิ่งลมปรับปรุงวิธีการอธิบายไว้ควบคู่กับการรูปแบบระบบไฟฟ้าดีขึ้น แบบจำลองที่อิงโมเดลกำลังสองเฟสเดียววิธีที่ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในด้านที่สอง: บรรจบกัน (ก) เร็ว (ข) ความสามารถในการรุ่นลักษณะซับซ้อนโหลด และชั้นเรียนเช่น interruptible โหลด การโหลดที่สำคัญฯลฯ มีการขยายแบบเดียวกันสำหรับการระบุเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความฉลาจกับของระบบ วิธีการถูกรวมในโครงร่างสำหรับรหัสอย่างรวดเร็วของกระดิ่งลมสำคัญกิจกรรมและผลการวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญ เนื่องจากวิธีการตามMarkov รัฐพื้นที่วิธี โอกาส ความถี่ และระยะเวลาดัชนีใช้คำนวณ เช่น:(ก) น่าเป็นของลูกค้าขัดข้อง (ข) ความถี่ของการหยุดชะงักของลูกค้าและ (ค) ระยะเวลาของลูกค้าหยุดชะงัก ช่วยให้การโหลดขั้นสูงการสร้างโมเดลความสามารถ: (a) เป็นจริงการประเมินการปฏิบัติอุตสาหกรรมเช่นโหลดโปรแกรมการจัดการระบบความน่าเชื่อถือ และ (b)การประเมินผลจริงโหลดลักษณะปัญหาแรงดันไฟฟ้าและผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือตัวอย่างที่แสดงความสามารถของวิธีการไว้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรอบการประเมินความน่าเชื่อถือที่ครอบคลุมได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของมาร์คอฟ
รูปแบบของส่วนประกอบของระบบและวิธีการระบุตัวตนของเหตุการณ์ที่นำไปสู่การ
ไม่สามารถไว้ใจได้ โดยเฉพาะวิธีการที่ลมตีระฆังปรับปรุงอธิบายไว้คู่กับ
รูปแบบระบบไฟฟ้าที่ดีขึ้น รูปแบบที่อยู่บนพื้นฐานของการสร้างแบบจำลองเฟสเดียวกำลังสอง
วิธีการที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าในสองด้าน: (ก) การบรรจบกันได้เร็วขึ้น (ข) ความสามารถในการ
สร้างแบบจำลองลักษณะโหลดที่ซับซ้อนและการเรียนของแรงเช่นโหลด Interruptible โหลดที่สำคัญ
อื่น ๆ รูปแบบเดียวกันได้รับการขยายสำหรับการกำหนดกิจกรรมที่นำไปสู่ความไม่สามารถไว้ใจ
ของระบบ วิธีการที่จะรวมอยู่ในโครงการลมตีระฆังสำหรับการระบุอย่างรวดเร็วของ
เหตุการณ์สำคัญและผลกระทบของการวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญ ตั้งแต่วิธีการที่จะขึ้นอยู่กับ
รัฐมาร์คอฟวิธีพื้นที่น่าจะเป็นความถี่และระยะเวลาดัชนีจะคำนวณเช่น
(ก) น่าจะเป็นของการหยุดชะงักของลูกค้า (ข) ความถี่ของการหยุดชะงักของลูกค้าและ (ค) ในช่วงระยะเวลา
ของการหยุดชะงักของลูกค้า ความสามารถในการสร้างแบบจำลองการโหลดขั้นสูงช่วยให้: (ก) มีเหตุผล
การประเมินผลของการปฏิบัติในอุตสาหกรรมเช่นโปรแกรมการจัดการภาระในความน่าเชื่อถือของระบบและ (ข)
การประเมินผลที่เป็นจริงของลักษณะภาระในการแก้ปัญหาแรงดันไฟฟ้าและผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ.
ตัวอย่างที่แสดงความสามารถของ วิธีการที่จะได้รับบริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรอบสำหรับการประเมินความน่าเชื่อถือได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานแบบครบวงจรรูปแบบของส่วนประกอบของระบบและวิธีการของกิจกรรมที่สนับสนุนunreliability . โดยเฉพาะ การตีระฆังลมควบคู่กับการอธิบายแบบจำลองระบบกำลังปรับปรุง รูปแบบจะขึ้นอยู่กับเฟสเดียวแบบกำลังสองวิธีที่ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในด้าน ( ก ) ( ข ) บรรจบกันเร็วขึ้น ความสามารถในการแบบโหลดลักษณะ และประเภทของโหลด เช่น โหลด interruptible โหลดวิกฤตฯลฯรูปแบบเดียวกันได้รับการขยายสำหรับการระบุเหตุการณ์ที่นำไปสู่ unreliabilityของระบบ เป็นวิธีการแบบบูรณาการในรูปแบบเสียงระฆังลมสำหรับการอย่างรวดเร็วที่สำคัญเหตุการณ์และผลจากการวิเคราะห์เหตุการณ์วิกฤติ ตั้งแต่วิธีการจะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แบบมาร์คอฟ ความน่าจะเป็น การแจกแจงความถี่และคำนวณดัชนีระยะเวลา เช่น :( ก ) ความน่าจะเป็นของการหยุดชะงักของลูกค้า ( ข ) ความถี่ของการหยุดชะงักของลูกค้าและ ( c ) ระยะเวลาการของลูกค้า โหลดแบบขั้นสูง ( ) มีความสามารถในการช่วยให้สมจริงการประเมินผลของอุตสาหกรรมการปฏิบัติเช่นโหลดโปรแกรมการจัดการในระบบมีความน่าเชื่อถือและ ( B )การประเมินที่เหมือนจริงของโหลดลักษณะปัญหาแรงดันไฟฟ้าและผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของวิธีการให้