โบราณสถานของประเทศมาเลเซีย
ตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราช ที่สร้างในปีค.ศ. 1912 เป็นสถานที่นายกร้ฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย ตวนกูอับดุล ราห์มัน พุตรา อัล-ฮาจ ได้อ่านเอกสารสำคัญประกาศประเทศเป็นเอกราช
โบสถ์เซนต์พอล สร้างโดยกัปตันดูเออต้า โดแอลโฮ ชาวโปรตุเกส และหลังจากที่ชาวดัชท์เข้าครอบครองมะละกา ได้ถูกเปลี่ยนเป็นที่ฝั่งศพ ของนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ ถูกวางไว้ในที่ฝังศพแบบเปิด ปีค.ศ. 1553 จึงถูกนำไปไว้ที่กัว ประเทศอินเดีย
พระราชวังสุลต่านเน็ทแห่งมะละกา สร้างแทนพระราชวังเดิมของอดีตประมุขชาวมาเลย์แห่งมะละกา สถาปัตยกรรมที่ใช้มีรากฐานมาจากหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์มาเลย์ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมของมะละกา
ป้อมเอ ฟอ โมซา สร้างโดยชาวโปรตุเกสในปี ค.ศ. 1511 แต่ต้องเสียหายไปเพราะถูกพวกดัชท์โจมตี แต่เนื่องจากการเข้าขัดขวางของ เซอร์ สะแตมฟอร์ด เร๊ปเฟิ้ลส์เมื่อปี ค.ศ. 1808 จึงช่วยให้ป้อมพ้นจากการถูกทำลาย และประตูทางเข้าของป้อมก็ยังคงมีอยู่ให้เราได้เห็นจนเท่าทุกวันนี้
โปรตุกีสสแควร์ ปัจจุบันยังคงมีชาวโปรตุเกส นับถือศาสนาคริสต์ นิกาย คาธอลิคประกิบอาชีพเป็นชาวประมง จะเก่งทางด้านดนตรีซึ่งที่นี่เราสามารถมองเห็นฝั่งของประเทศอินโดนีเซียได้ นั่นก็คือช่องแคบมะละกา จุดนี้มีความยาวเชื่อมต่อกันกับประเทศอินโดนีเซียแค่ 96 กิโลเมตรเท่านั้น
โบสถ์คริสต์ สถาปัตยกรรมชั้นเยี่ยมของชาวดัชท์ที่เก็บเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้ โบสถ์แห่งนี้ ทำด้วยไม้ ประณีตด้วยงานปั้นและงานแกะสลักที่ย้อนหลังไปในปี ค.ศ. 1553 นวัตกรรมของคนสมัยก่อนมีฝีมือมากในการประกอบเก้าอี้นั่งฟังเทศน์และไม่รอดเพดานโบสถ์ ซึ่งสร้างขึ้นโดยไม่มีรอยต่อเลย
น้ำพุควีนวิกตอเรีย ที่ยังคงอนุรักษ์ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหอนาฬิกา และน้ำพุ ที่ไม่ได้รื้อเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่ทดแทน มีแต่จะบำรุงและรักษาเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม
อาคารสแตดหุย เป็นอาคารดัชท์ที่เก่าแก่ที่สุดในตะวันออก สร้างในปีค.ศ. 1641 เพื่อเป็นที่พำนักทางราชการของผู้ว่าราชการชาวดัชท์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง วันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งมะละกา ซึ่งกรมประวัติศาสตร์พิเศษ และแผนกชนชาติวิทยา ผู้เข้าเยี่ยมชมจะได้เห็นวัตถุโบราณต่างด้วย
เรือจำลองโบราณที่สร้างด้วยงบประมาณ 3 ล้านเหรียญมาเลย์ เป็นอีกจุดที่แตะตาเรา....ว่าเขาทุ่มทุนสร้างที่จะให้การท่องเที่ยวของเขาประสบความสำเร็จ ที่ควบคู่ไปกับการอรุรักษ์โบราณวัตถุ เพื่อให้คนอย่างเราในยุค IT ได้มีโอกาสหวนไปลำลึกถึงอดีตที่เป้นรากฐานของความเจริญเหล่านี้ได้.
อุทยานคินาบาลู (Kinabalu Park) อุทยานนี้ตั้งอยู่ในรัฐซาบาห์ทางเหนือสุดของเกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย ภูเขาคินาบาลูสูง 4,095 เมตร ตั้งตระหง่านสูงที่สุดอยู่ระหว่างภูเขาหิมาลัยกับนิวกีนี บริเวณนี้เต็มไปด้วยพืชพันธุ์มากมาย ตั้งแต่ป่าทึบที่ลุ่มต่ำเขตร้อน ภูเขาที่เป็นป่าฝนไปจนถึงป่าภูเขาเขตร้อน ป่าค่อนข้างหนาวและป่าละเมาะบนพื้นที่สูง บริเวณนี้เหมาะกับเป็นศูนย์กลางความหลากหลายของพืชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่พืชประจำถิ่นในหิมาลัย จีน ออสเตรเลีย มาเลเซีย และพันธุ์ไม้เขตร้อนทั้งหมด