After the roaring nineties, which b

After the roaring nineties, which began with the collapse of the Soviet Union in 1991
and ended with the rouble crisis in 1998, the start of this century was characterised by
a much more stable and prosperous development. The year 1999 was one of
adjustment, and since president Putin took power in 2000 the Russian economy has
shown an outstanding performance. The period of uninterrupted decline over the first
eight years of the transition period were followed by a period of prolonged strong
growth following the rouble crisis. And in fact, the end of this sustained growth is not yet
in sight. The year 2006 was a milestone as it was the first year in which Russia was
able to make up for the large decline in the real value of GDP during the years of
transition prior to the rouble crisis. 1
With a population of over 140 million people, a nominal GDP of almost one trillion USD
and rising wealth levels, Russia is not only attractive because of its rich natural
resource base and related industrial investments and services, but has also become an
interesting consumer market with a rising middle class.
Although the positive economic developments since 1999 are mostly attributable to
high energy prices and the much improved competitive position due to the sharp fall in
the rouble at the end of 1998, sound macroeconomic management also played an
important role. Fiscal surpluses became the rule and debt levels were reduced to the
point that the government became a net creditor. The currency started to strengthen
and inflation was brought under control. The much improved macroeconomic stability
also enhanced the inflow of foreign investment, which rose considerably over recent
years. There is, however, a flipside to these strong growth levels and the inflow of
foreign capital. The central bank is having a hard time balancing the need to keep
inflation in check and the risk of a strong loss in competitiveness due to the resulting
strong currency. A loosening of fiscal policy in the run-up to the parliamentary elections
at the end of 2007 and the presidential elections in March 2008 makes this balancing
act even more difficult.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจาก nineties คำราม ซึ่งเริ่มต้น ด้วยการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในพ.ศ. 2534และจบลง ด้วยวิกฤต rouble ในปี 1998 จุดเริ่มต้นของศตวรรษนี้มีประสบการ์พัฒนาที่มั่นคง และเจริญรุ่งเรืองมาก ปี 1999 เป็นหนึ่งปรับปรุง และเนื่องจากประธานาธิบดีปูตินจะเอาพลังงาน 2000 เศรษฐกิจรัสเซียได้แสดงประสิทธิภาพที่โดดเด่น ระยะเวลาลดลงอย่างต่อเนื่องผ่านครั้งแรกแปดปีของรอบระยะเวลาเปลี่ยนตามระยะนานแข็งแรงเจริญเติบโตขั้นวิกฤต rouble ในความเป็นจริง ตามนี้ sustained เติบโตยังไม่ในสายตา ปี 2549 ได้สำคัญเพราะเป็นปีแรกที่รัสเซียถูกสามารถจัดทำขึ้นสำหรับปฏิเสธใหญ่ในมูลค่าแท้จริงของ GDP ของช่วงก่อนวิกฤต rouble 1มีประชากรกว่า 140 ล้านคน GDP ระบุเกือบหนึ่งแสนล้านเหรียญและเพิ่มขึ้นอีกมากมายให้ระดับ รัสเซียไม่น่าสนใจเนื่องจากอุดมไปด้วยธรรมชาติฐานทรัพยากร และการลงทุนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และ บริการ แต่ยังเป็นการตลาดผู้บริโภคชั้นกลางเพิ่มขึ้นที่น่าสนใจแม้ว่าการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นบวกตั้งแต่ปี 1999 อย่างส่วนใหญ่ราคาพลังงานที่สูงและตำแหน่งแข่งขันดีขึ้นมากเนื่องจากความคมชัดตกอยู่ในrouble เมื่อสิ้นสุดปี 1998 เสียงเศรษฐกิจมหภาคจัดการยัง เล่นตัวบทบาทที่สำคัญ Surpluses เงินกลายเป็น กฎ และถูกลดระดับหนี้point that the government became a net creditor. The currency started to strengthenand inflation was brought under control. The much improved macroeconomic stabilityalso enhanced the inflow of foreign investment, which rose considerably over recentyears. There is, however, a flipside to these strong growth levels and the inflow offoreign capital. The central bank is having a hard time balancing the need to keepinflation in check and the risk of a strong loss in competitiveness due to the resultingstrong currency. A loosening of fiscal policy in the run-up to the parliamentary electionsat the end of 2007 and the presidential elections in March 2008 makes this balancingact even more difficult.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากยุคคำรามซึ่งเริ่มด้วยการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991
และจบลงด้วยวิกฤตเงินรูเบิลในปี 1998
จุดเริ่มต้นของศตวรรษนี้ก็มีลักษณะการพัฒนาที่มีเสถียรภาพมากขึ้นและความเจริญรุ่งเรือง เป็นปี 1999
หนึ่งในการปรับตัวและตั้งแต่ประธานาธิบดีปูตินเข้ามากุมอำนาจในปี2000
เศรษฐกิจของรัสเซียได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่โดดเด่น ระยะเวลาของการลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกแปดปีของระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงได้ตามระยะเวลาของการที่แข็งแกร่งเป็นเวลานานการเจริญเติบโตต่อไปนี้วิกฤตเงินรูเบิล และในความเป็นจริงในตอนท้ายของการเติบโตอย่างยั่งยืนนี้ยังไม่อยู่ในสายตา ในปี 2006 เป็นก้าวที่มันเป็นปีแรกที่รัสเซียสามารถที่จะทำขึ้นสำหรับการลดลงของขนาดใหญ่ในมูลค่าที่แท้จริงของจีดีพีในช่วงปีของการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะเกิดวิกฤตเงินรูเบิล 1 มีประชากรกว่า 140 ล้านคนมี GDP เล็กน้อยเกือบหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐและระดับความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียไม่ได้เป็นเพียงที่น่าสนใจเพราะของธรรมชาติที่อุดมไปด้วยฐานทรัพยากรและที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอุตสาหกรรมและบริการแต่ยังได้กลายเป็นตลาดผู้บริโภคที่น่าสนใจกับชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น. แม้ว่าการพัฒนาเศรษฐกิจในเชิงบวกตั้งแต่ปี 1999 ส่วนใหญ่เนื่องมาจากราคาพลังงานที่สูงและตำแหน่งในการแข่งขันมากขึ้นเนื่องจากการลดลงของเงินรูเบิลในช่วงปลายปี1998 เสียงการจัดการเศรษฐกิจมหภาคยังเล่นบทบาทที่สำคัญ เกินดุลการคลังกลายเป็นกฎและตราสารหนี้ระดับลดลงไปที่จุดนั้นรัฐบาลก็กลายเป็นเจ้าหนี้สุทธิ สกุลเงินเริ่มต้นที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อถูกนำภายใต้การควบคุม เสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคที่ดีขึ้นมากนอกจากนี้ยังเพิ่มการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาปีที่ผ่านมา มี แต่เป็น flipside เหล่านี้ระดับการเติบโตที่แข็งแกร่งและการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ธนาคารกลางจะมีช่วงเวลาที่ยากสมดุลความจำเป็นในการที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อในการตรวจสอบและความเสี่ยงของการสูญเสียที่แข็งแกร่งในการแข่งขันเนื่องจากการส่งผลให้สกุลเงินที่แข็งแกร่ง คลายของนโยบายการคลังในการทำงานขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งรัฐสภาในตอนท้ายของปี 2007 และการเลือกตั้งประธานาธิบดีมีนาคม 2008 ทำให้สมดุลนี้กระทำได้ยากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังที่เก้า ซึ่งเริ่มด้วยการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในพ.ศ. 2534 และจบลงด้วย
สรงน้ำวิกฤตในปี 1998 เริ่มต้นของศตวรรษนี้เป็นลักษณะโดย
มากมั่นคงและพัฒนาเจริญรุ่งเรือง ปี 1999 เป็นหนึ่ง
การปรับตัว และนับตั้งแต่ประธานาธิบดีปูตินยึดอำนาจในพ.ศ. 2543 เศรษฐกิจรัสเซียมี
แสดงประสิทธิภาพที่โดดเด่นระยะเวลาของการลดลงอย่างต่อเนื่องกว่าครั้งแรก
ของการเปลี่ยนระยะเวลาแปดปีตามมาด้วยระยะเวลานาน แข็งแรง
การเจริญเติบโตต่อไปนี้วิกฤตสรงน้ำ . และในความเป็นจริง สิ้นปีนี้เติบโตอย่างยั่งยืนไม่ได้
ในสายตา ปี 2549 เป็นหลัก เช่น เป็นปีแรกที่รัสเซีย
สามารถชดเชยขนาดใหญ่ลดลงในมูลค่าที่แท้จริงของ GDP ในช่วงปี
ช่วงก่อนวิกฤตสรงน้ำ . 1
มีประชากรกว่า 140 ล้านคน จีดีพีลดลงเกือบหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ
และระดับความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น รัสเซียไม่ได้เป็นเพียงที่น่าสนใจเนื่องจากฐานทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
การลงทุนและบริการ แต่ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจกับผู้บริโภค

ขึ้นชั้นกลางแม้ว่าบวกการพัฒนาทางเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 1999 ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูล
ราคาพลังงานที่สูงและดีขึ้นมากแข่งขันตำแหน่งเนื่องจากการลดลงใน
สรงน้ำที่ส่วนท้ายของปี 1998 การจัดการเศรษฐกิจมหภาค เสียงยัง เล่น บทบาทสำคัญ การเกินดุลการคลังเป็นกฎและระดับหนี้ลดลง
จุดที่รัฐบาลเป็นเจ้าหนี้สุทธิสกุลเงินเริ่มต้นเพื่อเสริมสร้าง
และอัตราเงินเฟ้อถูกนำภายใต้การควบคุม การปรับปรุงเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคมาก
ยังเพิ่มการไหลเข้าของการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ปี อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่แข็งแกร่งและ flipside เหล่านี้ระดับ
การไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ธนาคารกลางคือมีเวลาที่ยากสมดุลต้องเก็บ
อัตราเงินเฟ้อในการตรวจสอบและความเสี่ยงของการสูญเสียแรงในการแข่งขันเนื่องจากผล
แข็งแรง สกุลเงิน เป็นปัญหาของนโยบายการคลังใน run-up เพื่อการเลือกตั้งรัฐสภา
ณ สิ้นปี 2550 และการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคม 2551 ทำให้ดุล
ทำได้ยากขึ้น