Choosing when to buy and sell stock

Choosing when to buy and sell stocks is very important for a swing trader. The first thing
to do is take a look at the stock charts. The first thing to look at is the stage the stock is in. There
are four stages that a stock goes through with a time frame of a day, week, or even a month.
Stage 1 is considered the time after a downtrend, stage 2 is the beginning of an uptrend, stage 3
is the peak or sideways trend and stage 4 is the beginning of a downtrend. A swing trader wants
to buy stocks in stage 2 and sell stocks at stage 4. The second thing to look for is the strength of
the current trend of the stock. A weak trend is when the stocks jump up and down all the time. A
swing trader is looking for a strong upward trend. The third thing a swing trader will look at is
the relative strength of the industry. The best way to tell the relative strength of an industry is to
compare it to the market. The industries that do well on days that the market falls on have good
relative strength. Those are the industries a swing trader wants to be in. The final thing a swing
trader will look at is the market capitalization. A swing trader wants to invest in a large market
capitalization, greater than 10 B, because they are actively traded and tend to have large swings
causing a greater profit is bought and sold correctly

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เลือกเวลา การซื้อขายหุ้นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการที่แกว่ง สิ่งแรกที่ไม่ได้ดูที่แผนภูมิหุ้น สิ่งแรกที่ต้องดูเป็นขั้นตอนที่หุ้นอยู่ใน มีมีสี่ขั้นตอนที่หุ้นที่ผ่านไปกับเวลา ของวัน สัปดาห์ เดือนกำลังหลังจาก downtrend เป็นระยะ 1, 2 ขั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อน ขั้นตอนที่ 3พีคหรือแนวโน้มด้านข้าง และระยะที่ 4 เป็นจุดเริ่มต้นของ downtrend เป็น ต้องการผู้ประกอบการที่สวิงการซื้อหุ้นใน 2 ขั้น และขายหุ้นในขั้นตอนที่ 4 สิ่งสองหามีความแข็งแรงของปัจจุบันแนวโน้มของหุ้น แนวโน้มที่อ่อนแอคือเมื่อหุ้นกระโดดขึ้นและลงตลอดเวลา Aสวิงผู้กำลังมองหาแนวโน้มขึ้นแข็งแกร่ง สิ่งสามคนสวิงจะดูคือความสัมพันธ์ของอุตสาหกรรม วิธีดีที่สุดเพื่อบอกความสัมพันธ์ของอุตสาหกรรมคือเปรียบเทียบกับตลาด อุตสาหกรรมที่ทำกันในวันที่ตลาดบน ได้ดีความสัมพันธ์กัน ผู้เป็นอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการสวิงต้อง สิ่งสุดท้ายที่สวิงดูคนขายที่มีมูลค่าตลาดรวม ผู้ประกอบการที่สวิงอยากลงทุนในตลาดขนาดใหญ่พิมพ์ใหญ่ มากกว่า 10 B เพราะพวกเขาจะซื้อขายอย่างแข็งขัน และมักจะ มีกระเช้าชิงช้าใหญ่ก่อให้เกิดกำไรที่มากขึ้นจะซื้อ และขายได้อย่างถูกต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เลือกเวลาที่จะซื้อและขายหุ้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเป็นผู้ประกอบการแกว่ง สิ่งแรกที่
จะทำคือการใช้เวลาดูแผนภูมิหุ้น สิ่งแรกที่ต้องดูที่เป็นเวทีหุ้นอยู่ใน. มี
สี่ขั้นตอนที่หุ้นจะผ่านไปกับกรอบเวลาของวัน, สัปดาห์หรือแม้กระทั่งเดือน.
ขั้นตอนที่ 1 คือการพิจารณาเวลาขาลงหลังจากที่เวที 2 เป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นระยะที่ 3
เป็นจุดสูงสุดหรือแนวโน้มด้านข้างและขั้นตอนที่ 4 เป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง ผู้ประกอบการแกว่งต้องการ
ที่จะซื้อหุ้นที่อยู่ในขั้นตอนที่ 2 และขายหุ้นในขั้นตอนที่ 4 สิ่งที่สองที่จะมองหาคือความแข็งแรงของ
แนวโน้มปัจจุบันของหุ้น แนวโน้มอ่อนแอคือเมื่อหุ้นกระโดดขึ้นและลงตลอดเวลา
ผู้ประกอบการแกว่งที่กำลังมองหาแนวโน้มสูงขึ้นแข็งแกร่ง สิ่งที่สามที่เป็นผู้ประกอบการแกว่งจะดูที่เป็น
ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรม วิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกความแข็งแรงของอุตสาหกรรมคือการ
เปรียบเทียบกับตลาด อุตสาหกรรมที่ทำดีในวันที่ตลาดตรงกับวันที่ดีมี
ความแข็งแรงญาติ ผู้ที่เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ประกอบการแกว่งต้องการที่จะอยู่ใน. สิ่งสุดท้ายที่แกว่ง
ผู้ประกอบการจะดูที่เป็นมูลค่าตลาด ผู้ประกอบการแกว่งต้องการที่จะลงทุนในตลาดขนาดใหญ่
ใหญ่มากกว่า 10 B, เพราะพวกเขามีการซื้อขายอย่างแข็งขันและมีแนวโน้มที่จะมีชิงช้าขนาดใหญ่
ที่ก่อให้เกิดกำไรมากขึ้นมีการซื้อและขายได้อย่างถูกต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เลือกเมื่อซื้อและขายหุ้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการสวิง
สิ่งแรกที่ต้องทำคือดูที่แผนภูมิหุ้น . สิ่งแรกที่ต้องดูคือขั้นตอนหุ้นเป็นใน มี
4 ขั้นตอนที่หุ้นจะผ่านกับกรอบเวลาของวัน , สัปดาห์หรือเดือน .
ขั้นที่ 1 ถือว่าเป็นหลังจากเวลาขาลงระยะที่ 2 เป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นเวที 3
เป็นยอดหรือข้าง แนวโน้ม และขั้นที่ 4 คือจุดเริ่มต้นของ downtrend สวิงค้าต้องการ
ซื้อหุ้นในขั้นที่ 2 และขายหุ้นในขั้นตอนที่ 4 สิ่งที่สองที่จะมองหาคือความแข็งแรงของ
ปัจจุบันแนวโน้มของหุ้น แนวโน้มที่อ่อนแอ คือ เมื่อหุ้นกระโดดขึ้นและลงตลอดเวลา a
แกว่งเจ้ากำลังมองหาที่แข็งแกร่งแนวโน้มสูงขึ้น สิ่งสามชิงช้าผู้ประกอบการค้าจะมองเป็น
ความแข็งแรงสัมพัทธ์ของอุตสาหกรรม วิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกความแรงสัมพัทธ์ของอุตสาหกรรมคือ
เปรียบเทียบกับตลาด อุตสาหกรรมที่ทำกันในวัน ที่ตลาดจะมีความแข็งแรงสัมพัทธ์ดี
. นั่นเป็นผู้ประกอบการแกว่งเจ้าต้องการจะเข้าไป สิ่งสุดท้ายชิงช้า
ผู้ประกอบการค้าจะดูมีมูลค่าตลาด ชิงช้าผู้ประกอบการค้าต้องการที่จะลงทุนใน
ตลาดขนาดใหญ่มูลค่ามากกว่า 10 B , เพราะพวกเขามีการซื้อขายอย่าง และมักจะ มีชิงช้าขนาดใหญ่
ก่อให้เกิดกำไรมากกว่าซื้อ และขายได้อย่างถูกต้อง