The origins of this food fight are

The origins of this food fight are a little murky, but the most popular explanation begins with an attempted rape, a vengeful decapitation, and a torched castle. In the Middle Ages—so the story goes—local vile tyrant Marquis Raineri di Biandrate visited a young woman named Violetta on the eve of her wedding, intending to cash in his droit du seigneur.

But Violetta fought back, producing a dagger and lopping off the tyrant's head. When the villagers saw her holding the head aloft toward them in triumph, they took the opportunity to unleash the anger wrought from years of oppression. They stormed the castle, burned it to the ground, and vowed to never submit to tyranny again.

A few centuries pass, yadda yadda yadda, and the throwing of oranges to simulate the defeat of the tyrant becomes a yearly tradition, complete with rules for participants and guidelines for spectators. (Don't throw an orange at a horse; wear a red floppy cap if you don't want to get hit; no strollers.)

The next Battle of the Oranges takes place on the three days preceding Mardi Gras (February 15-17) in Ivrea, just north of Turin.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาของศึกนี้อาหารจะขุ่นเล็กน้อย แต่คำอธิบายที่นิยมเริ่มต้น ด้วยการพยายามข่มขืน decapitation เป็นพยาบาท และปราสาท torched ในยุคกลาง — ดังนั้นเรื่อง — ถิ่นชั่วทรราชมาร์ควิส Raineri di Biandrate เยี่ยมชมหญิงสาวที่ชื่อ Violetta ในวันแต่งงานของเธอ ตั้งใจที่จะเงินสดใน seigneur du droit ของเขาแต่ Violetta ต่อสู้กลับ ผลิตกริช และ lopping ปิดหัวเผด็จการ เมื่อชาวบ้านเห็นเธอถือหัวอลอฟท์ต่อพวกเขาใน triumph พวกเขาเอาโอกาสที่จะปลดปล่อยความโกรธหงุดหงิดจากการกดขี่ พวกเขาบุกปราสาท เขียนลงพื้นดิน และสาบานว่า ไม่เคยส่งไปปกครองแบบเผด็จอีกครั้งผ่านกี่ศตวรรษ yadda yadda yadda และขว้างปาของส้มเพื่อจำลองความพ่ายแพ้ของเผด็จการกลายเป็น ประเพณีประจำปี มีกฎสำหรับผู้เรียนและแนวทางสำหรับผู้ชม (อย่าโยนลูกส้มที่ม้า สวมหมวกฟลอปปี้แดงถ้าคุณไม่ต้องการได้รับการตี รถเข็นไม่)การต่อสู้ต่อไปของส้มเกิดขึ้นสามวันก่อนมาร์ดิกราส์ (15 กุมภาพันธ์-17) ใน Ivrea ทางตอนเหนือของทูริน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต้นกำเนิดของการต่อสู้อาหารนี้มีหมอกเล็กน้อย แต่คำอธิบายที่นิยมมากที่สุดเริ่มต้นด้วยการพยายามข่มขืนเป็นศีรษะพยาบาทและปราสาทเผา ในยุคกลางดังนั้นเรื่องที่จะไปท้องถิ่นเผด็จการชั่วมาร์ควิส Raineri di Biandrate ไปเยี่ยมหญิงสาวคนหนึ่งชื่อไวโอเล็ตในวันแต่งงานของเธอตั้งใจที่จะเงินสดในเขา Droit ดู่นายท่าน. แต่ไวโอเล็ตต่อสู้กลับมาผลิตกริชและการตัดออก หัวของทรราช เมื่อชาวบ้านเห็นเธอถือหัว Aloft ต่อพวกเขาในชัยชนะที่พวกเขาเอาโอกาสที่จะปลดปล่อยความโกรธดัดจากปีที่ผ่านมาของการกดขี่ พวกเขาบุกปราสาทเผาลงสู่พื้นดินและสาบานว่าจะไม่ส่งไปยังการปกครองแบบเผด็จการอีกครั้ง. ไม่กี่ศตวรรษที่ผ่าน yadda yadda yadda, และการขว้างปาของส้มเพื่อจำลองความพ่ายแพ้ของเผด็จการกลายเป็นประเพณีประจำปีที่สมบูรณ์แบบด้วยกฎระเบียบสำหรับการ ผู้เข้าร่วมและแนวทางสำหรับผู้ชม (อย่าโยนสีส้มที่ม้าสวมใส่หมวกฟลอปปี้สีแดงถ้าคุณไม่ต้องการที่จะได้รับการตีไม่มีรถเข็น.) การต่อสู้ต่อไปของส้มจะเกิดขึ้นในสามวันก่อนมาร์ดิกราส์ (15-17 กุมภาพันธ์ ) ใน Ivrea ทางเหนือของเมืองตูริน