From Fig. 2, it can be seen that PU

From Fig. 2, it can be seen that PURF mainly had three weight loss range at 100–200 °C, 200–400 °C and 600–800 °C. The weight loss peak in 100–200 °C was caused by the loss of absorbed water in the sample. In range of 200–400 °C, the PURF curve showed a double peak because the decomposition of PURF involved several processes [14], which led to the generation of either cross-linked structures or gas. Specifically, the first peak at 280 °C could be ascribed to the loss of PAPI segments from the decomposition of urethane, while the second peak at 320 °C could be assigned to the gasification of PAPI segments from the decomposition of urea bonding. The slow weight loss of PURF at 400–600 °C was related to the degradation of soft segments. At 600 °C or above, the slow weight loss of PURF was supposed to the loss of fragment from unstable char layer.
In comparison with PURF, PEPA modified PURFs showed slight weight loss at 100–200 °C, and the weight loss increased with the PEPA content at 250–380 °C. It can be proposed that the weight loss here was caused by two reasons, one was the similar weight loss as pure PURF, and the other was caused by the decomposition of PURFs catalyzed by phosphorus acid that was generated by the degradation of PEPA. At 380–450 °C, the weight loss could be attributed to the dehydrogenation and dehydration of secondary polymers generated from soft segments. Finally, the weight loss became very slight at above 600 °C.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากรูป 2 จะเห็นได้ว่า PURF ส่วนใหญ่มีสามช่วงสูญเสียน้ำหนักที่ 100-200 C, 200 – 400 ° C และ 600-800 องศาเซลเซียส สูงสุดสูญเสียน้ำหนักใน 100-200 C เกิดจากสูญเสียดูดซึมน้ำในตัวอย่างนี้ ในช่วง 200 – 400 ° c โค้ง PURF พบสูงสุดคู่เนื่องจากการสลายตัวของ PURF เกี่ยวข้องกับกระบวนการต่าง ๆ [14], ซึ่งนำไปสู่การสร้างโครงสร้างครอสลิงค์หรือก๊าซ เฉพาะ ช่วงแรก 280 ° c อาจได้รับการกำหนดการสูญเสียของ PAPI เซ็กเมนต์จากการเน่าของยูรีเทน ในขณะสองได้สูงสุดที่ 320 ° C สามารถถูกกำหนดที่แปรสภาพเป็นแก๊สส่วน PAPI จากการเน่าของพันธะยูเรีย การสูญเสียน้ำหนักช้า PURF 400-600 ° c เกี่ยวข้องการสลายกลุ่มอ่อน ที่ 600 ° C หรือสูงก ว่า น้ำหนักช้าสูญเสีย PURF ควรจะสูญเสียส่วนจาก char ไม่เสถียรชั้นเมื่อเปรียบเทียบกับ PURF, PEPA แก้ไข PURFs เล็กน้อยน้ำหนัก 100-200 ° c และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น มีเนื้อหา PEPA ที่ 250-380 องศาเซลเซียส มันสามารถจะเสนอว่า น้ำหนักที่นี่เกิดจากสาเหตุสอง หนึ่งน้ำหนักคล้ายเป็นบริสุทธิ์ PURF และอื่น ๆ ที่เกิดจากการเน่าของกระบวน โดยฟอสฟอรัสกรดที่สร้างขึ้น โดยการสลายของ PEPA PURFs 380-450 ° c การลดน้ำหนักสามารถนำมาประกอบกับ dehydrogenation และการคายน้ำของโพลิเมอร์รองจากส่วนที่อ่อนนุ่ม ในที่สุด การลดน้ำหนักกลายเป็นเล็กน้อยมากที่สูงกว่า 600 องศาเซลเซียส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากรูป 2 ก็จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ PURF มีสามช่วงการสูญเสียน้ำหนักที่ 100-200 องศาเซลเซียส 200-400 องศาเซลเซียสและ 600-800 องศาเซลเซียส จุดสูงสุดในการสูญเสียน้ำหนัก 100-200 ° C ที่เกิดจากการสูญเสียน้ำดูดซึมในตัวอย่าง ในช่วง 200-400 ° C โค้ง PURF แสดงให้เห็นว่ายอดคู่เพราะการสลายตัวของ PURF ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการหลาย [14] ซึ่งนำไปสู่การสร้างทั้งโครงสร้าง cross-linked หรือก๊าซ โดยเฉพาะยอดเขาเป็นครั้งแรกที่ 280 ° C อาจจะกำหนดให้การสูญเสียของกลุ่ม PAPI จากการสลายตัวของยูรีเทนในขณะที่ยอดเขาที่สองที่ 320 ° C อาจจะกำหนดให้เป็นก๊าซของกลุ่ม PAPI จากการสลายตัวของยูเรียพันธะ การสูญเสียน้ำหนักช้าของ PURF ที่ 400-600 ° C ที่เกี่ยวข้องกับการสลายตัวของกลุ่มที่อ่อนนุ่ม ที่ 600 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่าการสูญเสียน้ำหนักช้าของ PURF ก็ควรที่จะสูญเสียของชิ้นส่วนจากชั้นถ่านไม่มั่นคง.
ในการเปรียบเทียบกับ PURF, Pepa การแก้ไข PURFs แสดงให้เห็นว่าการสูญเสียน้ำหนักเล็กน้อยที่ 100-200 องศาเซลเซียสและการสูญเสียน้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วย เนื้อหา Pepa ที่ 250-380 องศาเซลเซียส ก็สามารถที่จะเสนอว่าการสูญเสียน้ำหนักที่นี่มีสาเหตุมาจากสองเหตุผลหนึ่งคือการสูญเสียน้ำหนักที่คล้ายกันเป็น PURF บริสุทธิ์และอื่น ๆ ที่เกิดจากการสลายตัวของ PURFs เร่งปฏิกิริยาด้วยกรดฟอสฟอรัสที่ถูกสร้างขึ้นโดยการย่อยสลายของ Pepa ที่ 380-450 ° C, การสูญเสียน้ำหนักสามารถนำมาประกอบกับไฮโดรจีเนและการคายน้ำของโพลิเมอร์รองที่สร้างขึ้นจากส่วนที่อ่อนนุ่ม ในที่สุดการสูญเสียน้ำหนักกลายเป็นที่เล็กน้อยมากที่เหนือ 600 ° C