Wat Arun is mostly known as a landm

Wat Arun is mostly known as a landmark of Bangkok. It is classified as a principal class Royal temple. It is an old temple, built in the days of Thailand's ancient capital of Ayutthaya and originally known as "WatMakok".Later on when Thonburi was the capital, King Thaksin changed the name to "Wat Chaeng". In a later reign, King Rama II restored the temple and bestowed the new name as "Wat Arunratchatharam". King RamaIV later made additional restorations and once more changed the temple's name to the present one as“WatArunratchawararam". Most people call it "WatArun".

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนใหญ่จะรู้จักวัดอรุณเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพมหานคร มันถูกจัดประเภทเป็นหลักชั้นราชวิหาร เป็นวัดเก่า สร้างขึ้นในสมัยของเมืองหลวงโบราณของประเทศไทยของอยุธยา และเดิม เรียกว่า "WatMakok"ในภายหลังเมื่อธนบุรีเป็นเมืองหลวง พระทักษิณเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแจ้ง" ในรัชกาลภายหลัง รามบูรณะวัด และประทานชื่อใหม่เป็น "วัด Arunratchatharam" RamaIV คิงทำการคืนค่าเพิ่มเติมในภายหลัง และเปลี่ยนชื่อวัดหนึ่งปัจจุบันเป็น "WatArunratchawararam" อีกครั้ง คนส่วนใหญ่เรียกว่า "WatArun"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดอรุณฯ เป็นที่รู้จักกันส่วนใหญ่เป็นสถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ มันจัดเป็นชั้นหลักรอยัลวัด เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัย​​ของเมืองหลวงเก่าของประเทศไทยของอยุธยาและเป็นที่รู้จักเดิมเป็น "WatMakok". ต่อมาเมื่อธนบุรีเป็นเมืองหลวงกษัตริย์ทักษิณเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแจ้ง" ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระครั้งที่สองการบูรณะวัดและพระราชทานชื่อใหม่เป็น "วัด Arunratchatharam" กษัตริย์ RamaIV ภายหลังทำให้การบูรณะเพิ่มเติมและอีกครั้งเปลี่ยนชื่อวัดที่จะเป็นหนึ่งในปัจจุบันเป็น "WatArunratchawararam". คนส่วนใหญ่เรียกว่า "WatArun"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดอรุณเป็นส่วนใหญ่จักเป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ มันเป็นความลับ เป็นครูใหญ่ ชั้นราชวิหาร มันเป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยของเมืองหลวงเก่าของประเทศไทยและอยุธยา แต่เดิมเรียกว่า " watmakok " ต่อมาเมื่อกรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง กษัตริย์ ทักษิณ เปลี่ยนชื่อเป็น " วัดแจ้ง " ในรัชกาลต่อมารัชกาลที่ 2 บูรณะวัดและพระราชทานนามใหม่ว่า " วัด arunratchatharam " กษัตริย์ ramaiv ต่อมาได้บูรณะเพิ่มเติมอีกครั้ง เปลี่ยนชื่อเป็นวัดจนถึงปัจจุบัน หนึ่งเป็น " watarunratchawararam " คนส่วนใหญ่เรียกมันว่า " watarun "