Guard cells are specialized cells i

Guard cells are specialized cells in the epidermis of leaves, stems and other organs that are used to control gas exchange.


The guard cells are produced in pairs with a gap between them that forms a stomatal pore (Figure 1). The stomatal pores are largest when water is freely available and the guard cells turgid, and closed when water availability is critically low and the guard cells become flaccid (Figure 1). Photosynthesis depends on the diffusion of Carbon dioxide (CO2) from the air through the stomata into the mesophyll tissues. Oxygen (O2), produced as a byproduct of photosynthesis, exits the plant via the stomata. When the stomata are open, water is lost by evaporation and must be replaced via the transpiration stream, with water taken up by the roots. Plants must balance the amount of CO2 absorbed from the air with the water loss through the stomatal pores, and this is achieved by both active and passive control of guard cell turgor and stomatal pore size.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รักษาเซลล์เป็นเซลล์เฉพาะในผิวหนังชั้นนอกของใบ ลำต้น และอวัยวะอื่น ๆ ที่ใช้ในการควบคุมการแลกเปลี่ยนก๊าซมีผลิตเซลล์ยามคู่กับช่องว่างระหว่างพวกเขาที่รูขุมขนช่อง (รูปที่ 1) ช่องรูขุมขนจะใหญ่ที่สุดเมื่อน้ำมีอิสระ และเซลล์ยาม turgid และปิดเมื่อน้ำที่มีวิกฤตต่ำ และเซลล์ยามกลายเป็น อ่อนแอ (1 รูป) สังเคราะห์แสงขึ้นอยู่กับการแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากอากาศผ่านปากใบลงใน mesophyll เนื้อเยื่อ ออกซิเจน (O2), ผลิตเป็นผลพลอยได้ของการสังเคราะห์แสง ออกจากพืชทางปากใบการ เมื่อปากใบเปิด น้ำหายไป โดยการระเหย และต้องถูกแทนที่ ด้วยกระแสการคายน้ำ น้ำที่นำขึ้น โดยราก พืชต้องสมดุลปริมาณของ CO2 จากอากาศที่มีการสูญเสียน้ำผ่านทางรูขุมขนช่องดูดซึม และโดยการควบคุมทั้ง active และ passive ยามเซลล์ turgor และขนาดช่องรูขุมขน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เซลล์ยามมีเซลล์พิเศษในผิวหนังชั้นนอกของใบลำต้นและอวัยวะอื่น ๆ ที่ใช้ในการควบคุมการแลกเปลี่ยนก๊าซ.


เซลล์ยามที่มีการผลิตในคู่ที่มีช่องว่างระหว่างพวกเขาที่เป็นรูขุมขนปากใบ (รูปที่ 1) รูขุมขนมีปากใบใหญ่ที่สุดเมื่อน้ำสามารถใช้ได้อย่างอิสระและเซลล์ยามขี้โอ่และปิดเมื่อมีน้ำอยู่ในระดับต่ำอย่างยิ่งและเซลล์ยามกลายเป็นอ่อนแอ (รูปที่ 1) การสังเคราะห์ขึ้นอยู่กับการแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากอากาศผ่านปากใบเข้าไปในเนื้อเยื่อ mesophyll ออกซิเจน (O2) ผลิตเป็นผลพลอยได้จากการสังเคราะห์แสงที่ออกจากโรงงานผ่านทางปากใบ เมื่อปากใบจะเปิดน้ำจะหายไปจากการระเหยและต้องเปลี่ยนผ่านกระแสการคายกับน้ำนำขึ้นมาจากราก พืชจะต้องสมดุลปริมาณของ CO2 ดูดซึมจากอากาศที่มีการสูญเสียน้ำผ่านรูขุมขนปากใบและนี่คือความสำเร็จทั้งการควบคุมการใช้งานและ passive ของ turgor เซลล์คุมและขนาดรูขุมขนปากใบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เซลล์คุมมีเฉพาะเซลล์ในผิวหนังของใบ ลำต้น และอวัยวะอื่น ๆที่ใช้ในการควบคุมการแลกเปลี่ยนแก๊สเซลล์ยามที่คู่กับช่องว่างระหว่างพวกเขาที่รูปแบบของปากใบ ( รูปที่ 1 ) รู ปากจะใหญ่ที่สุดเมื่อน้ำที่มีอิสระและปกป้องเซลล์บวมและปิดเมื่อน้ำมีเหลือน้อยมาก และเซลล์คุมจะหย่อนยาน ( รูปที่ 1 ) การสังเคราะห์แสงขึ้นอยู่กับการแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 ) จากอากาศผ่านปากใบในมีโซฟีลล์เนื้อเยื่อ ออกซิเจน ( O2 ) ผลิตเป็นผลพลอยได้ของกระบวนการสังเคราะห์แสง ทางออกพืชทางปากใบ . เมื่อปากใบเปิด น้ำจะหายไปโดยการระเหยและการคายน้ำต้องถูกแทนที่ ผ่านลำธารน้ำนำขึ้นโดยราก พืชต้องสมดุลปริมาณของ CO2 ที่ดูดซึมจากอากาศกับการสูญเสียน้ำผ่านทางรูปากใบ และนี่คือความโดยทั้ง active และ passive แล้วรู้สึกยามควบคุมเซลล์ขนาดรูพรุนและพื้นที่ .