Colmar historyIn Roman times Colmar

Colmar history

In Roman times Colmar,, belonged to the territory of Sequani and was militarily subordinated to the Castrum of Argentuaria (Horbourg).

With Charlemagne (742-814), the territory was part of the Columbaria Marquisate, and it was a place frequented by emperors such as Charles the Fat in 883 AD. In 981 Otto I donated Colmar to his faithful Duke Rudolf, the son of Queen Bertha.

Towards the end of the 12th century Colmar became a possession of the Abbey of Payerne and Pairis. In the eleventh century the village of Colmar is still of no importance, but from 1198 the city was conquered with a fierce war by the Archbishop of Strasbourg.

From the early thirteenth century the city was a Municipality and it was under Frederick II with the rank of 'imperial city'. In 1262 Colmar was again under the dominion of the bishop of Strasbourg, but the city, with Walter Roesselmann and the help of Emperor Rudolf of Habsburg (1218-1291) managed to dismiss the troops of the Bishop of Strasbourg.

Between the fourteenth and fifteenth century, Colmar had a life quite independent and peaceful under the imperial protection and it developed new civic and religious buildings. The city still remained under imperial rule throughout the fifteenth century.

In the second half of the seventeenth century, after several years of Swedish rule, Colmar entered the Kingdom of France, but after 1871 (with the defeat of Napoleon III), the city returned to Germany until World War I. It was then reoccupied by the Germans during the World War II, but returned to France at the end of the war.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติกอลมาร์ในยุคโรมันกอลมาร์ เป็นสมาชิกดินแดน Sequani และมีการทรองไป Castrum ของ Argentuaria (Horbourg)ชาร์เลอมาญ (742-814), ดินแดนเป็นส่วนหนึ่งของ Columbaria Marquisate และก็ที่ผับ โดยจักรพรรดิหเช่นชาร์ลส์ไขมันใน 883 โฆษณา ในออตโต 981 ฉันบริจาค Colmar ให้เขาซื่อสัตย์ดยุครูดอล์ฟ บุตรของ Bertha นางเจ้าในตอนท้ายของศตวรรษ 12 กอลมาร์เป็น ครอบครองแอบ Payerne และ Pairis ในศตวรรษสิบเอ็ด วิลเลจกอลมาร์เป็นยังคงไม่สำคัญ แต่จาก 1198 เมืองถูกเอาชนะ ด้วยสงครามรุนแรง โดยอาร์ชบิชอปแห่งสตราสบูร์กจากศตวรรษที่สิบสามต้น เมืองได้ที่เทศบาล และมันอยู่ใต้ II เฟรเดอริกกับลำดับที่ของห้องอิมพีเรียล ใน 1262 กอลมาร์ได้อีกภายใต้ไอศวรรย์ของบิชอปแห่งสตราสบูร์ก ได้จัดการไล่กองกำลังของบิชอปแห่งสตราสบูร์กเมือง กับ Walter Roesselmann และความช่วยเหลือของจักรพรรดิรูดอล์ฟ (1218-1291) ราชวงศ์ฮับส์บูร์กระหว่าง fourteenth และศตวรรษที่สิบห้า กอลมาร์มีชีวิตค่อนข้างอิสระ และสงบภายใต้การป้องกันที่อิมพีเรียล และมันพัฒนาอาคารพลเมือง และศาสนาใหม่ เมืองยังคงอยู่ภายใต้กฎอิมพีเรียลตลอดศตวรรษสิบห้าในครึ่งหลังของศตวรรษที่ seventeenth หลังจากหลายปีของกฎสวีเดน กอลมาร์ป้อนราชอาณาจักรฝรั่งเศส แต่หลังจาก 1871 (กับความพ่ายแพ้ของนโปเลียน III), เมืองกลับไปเยอรมนีจนถึงสงครามโลก มันถูกแล้ว reoccupied โดยเยอรมันในระหว่างสงครามโลก ได้กลับไปประเทศฝรั่งเศสในปลายสงคราม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติศาสตร์กอลมาร์ในสมัยโรมันกอลมาร์ ,, เป็นดินแดนของ Sequani และด้อยสิทธิทางทหารกับ Castrum ของ Argentuaria (Horbourg.) กับชาร์ลมา (742-814) ดินแดนที่เป็นส่วนหนึ่งของ columbaria Marquisate และมันก็เป็นสถานที่แวะเวียน โดยจักรพรรดิเช่นชาร์ลส์ไขมันใน 883 AD อ็อตโตใน 981 ผมบริจาคกอลมาร์ดยุคซื่อสัตย์ของเขารูดอล์ฟบุตรชายของสมเด็จพระราชินี Bertha. ในช่วงปลายของศตวรรษที่ 12 โกลมาร์กลายเป็นสมบัติของวัดและ Payerne Pairis ในศตวรรษที่สิบเอ็ดหมู่บ้านโกลมาร์ก็ยังคงมีความสำคัญไม่ แต่จาก 1,198 เมืองถูกพิชิตด้วยสงครามที่รุนแรงโดยอาร์คบิชอปของ Strasbourg. จากต้นศตวรรษที่สิบสามเมืองเป็นเขตเทศบาลเมืองและอยู่ภายใต้การ Frederick II กับตำแหน่ง ของเมืองที่ยิ่งใหญ่ ' 1262 ในกอลมาร์เป็นอีกครั้งภายใต้การปกครองของบิชอปแห่งสบูร์ก แต่เมืองที่มีวอลเตอร์ Roesselmann และความช่วยเหลือของจักรพรรดิรูดอล์ฟของเบิร์กส์ (1218-1291) มีการจัดการที่จะยกเลิกกองกำลังของบิชอปแห่งสบูร์กได้. ระหว่างที่สิบสี่และสิบห้า ศตวรรษที่กอลมาร์มีชีวิตที่ค่อนข้างอิสระและความสงบสุขภายใต้การคุ้มครองของจักรพรรดิและพัฒนาอาคารประชาสังคมและศาสนาใหม่ เมืองที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิตลอดศตวรรษที่สิบห้า. ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่สิบเจ็ดหลังจากหลายปีของการปกครองสวีเดน, โกลมาร์เข้ามาในราชอาณาจักรของฝรั่งเศส แต่หลังจากที่ 1871 (ด้วยความพ่ายแพ้ของนโปเลียนที่สาม) เมืองกลับ ไปยังประเทศเยอรมนีจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมันถูก reoccupied แล้วโดยชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่กลับไปยังประเทศฝรั่งเศสในตอนท้ายของสงคราม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กอลมาร์ประวัติศาสตร์

ในยุคโรมัน Colmar , ของอาณาเขตของ sequani และทหารด้อยสิทธิ castrum ของ argentuaria ( horbourg )

กับชาร์เลอมาญ ( 742-814 ) ดินแดนที่เป็นส่วนหนึ่งของ columbaria marquisate , และมันเป็นสถานที่ frequented โดยจักรพรรดิเช่นชาร์ลส์ไขมันใน 883 AD ใน 981 อ๊อดโต้ฉันบริจาค Colmar ที่จะซื่อสัตย์ของเขาดยุครูดอล์ฟ บุตรชายของราชินี

เบอร์ธาในตอนท้ายของศตวรรษที่ Colmar เป็นกรรมสิทธิ์ของแอบบีพาร์เยิร์นเน่ และ pairis . ในศตวรรษที่สิบเอ็ดหมู่บ้านของ Colmar ยังไม่มีความสำคัญ แต่จาก 1198 เมืองเสียทีสงครามที่รุนแรงโดยอาร์ชบิชอปแห่งสตราสบูร์ก .

จากต้นศตวรรษที่สิบสามเมืองเทศบาลและมันอยู่ภายใต้ Frederick II กับอันดับของ ' Imperial City 'ในปี 1262 Colmar อีกครั้งภายใต้การปกครองของบิชอปแห่งลอนดอน แต่เมือง กับ วอลเตอร์ roesselmann และความช่วยเหลือจากจักรพรรดิรูดอล์ฟของฮับส์บูร์ก ( 1218-1291 ) ได้ยกเลิกกองกำลังของบิชอปแห่งสตราสบูร์ก .

ระหว่างศตวรรษที่สิบสี่และสิบห้า ,กอลมาร์มีชีวิตค่อนข้างอิสระและสงบสุขภายใต้การคุ้มครองของจักรพรรดิ และจะพัฒนาอาคารเทศบาลและศาสนาใหม่ เมืองยังคงภายใต้การปกครองของจักรพรรดิตลอดศตวรรษที่สิบห้า

ในครึ่งหลังของศตวรรษที่สิบเจ็ด , หลังจากหลายปีของการปกครองของสวีเดน , Colmar เข้าราชอาณาจักรฝรั่งเศส แต่หลังจาก 2414 ( กับความพ่ายแพ้ของนโปเลียน III )เมืองกลับไปเยอรมนี จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ reoccupied โดยชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่กลับไปฝรั่งเศสในตอนท้ายของสงคราม