The total phenolics, flavonoids and

The total phenolics, flavonoids and antioxidant activity of 21 selected kinds of Thai side dish vegetables were determined. The result showed that all kinds of Thai side dish vegetables contained phenolic and flavonoid compounds. The Thai side dish vegetables that contained the highest phenolic compound was Pak bung tai muang, 1.66±0.006 mgGAE/g. As Ma khua puang and Kra jeab kheaw contained the highest flavonoid compound (0.14±0.001 mgRE/g). In the part of antioxidant activity, Kha-on displayed the highest antioxidant activity with 91.99±1.36%inhibit by DPPH assay and 1.65±0.03 mM FeSO4 by FRAP assay method. Although this result revealed that Thai side dish vegetables may not high source of phenoloic and flavonoid compounds, they showed high efficiency of antioxidation power. It was suggested that Thai side dish vegetables would become new good source and natural of phenolic and flavonoid compounds because Thai people generally ate most of all vegetables as side dish in fresh cut and scald so phenolics and flavonoids were not destroyed from cooking process. In addition, they usually consumed Thai side dish fresh cut vegetables at least 100 gram/time/person which were benefit for the human health.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Phenolics รวม flavonoids และกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของผักเครื่องเคียงไทย 21 ชนิดที่เลือกถูกกำหนด ผลพบว่า ผักเครื่องเคียงไทยทุกชนิดประกอบด้วยสารฟีนอและ flavonoid ผักเครื่องเคียงไทยที่อยู่สูงสุดฟีนอผสมถูกปากบึงเหมือง 1.66±0.006 mgGAE/g เป็น Ma มะเขือ บ้านพวงเพชรและกระเจี๊ยบเขียวประกอบด้วยสารประกอบ flavonoid สูงสุด (mgRE 0.14±0.001 g) ในส่วนของกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระ คาบนแสดงกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ด้วย 91.99±1.36%inhibit โดย DPPH assay และ 1.65±0.03 มม. FeSO4 โดยวิธี FRAP assay แม้ว่าผลลัพธ์นี้เปิดเผยว่า ไทยเคียงผักอาจไม่สูง สารประกอบ flavonoid และ phenoloic พวกเขาแสดงให้เห็นประสิทธิภาพพลังงาน antioxidation สูง เขาแนะนำว่า ผักเครื่องเคียงไทยจะกลายเป็น แหล่งที่ดีใหม่ และธรรมชาติของสารฟีนอและ flavonoid เนื่องจากคนไทยกินส่วนใหญ่ของผักทั้งหมดโดยทั่วไปเป็นเครื่องเคียงตัดสดและ scald เพื่อ phenolics และ flavonoids ถูกไม่ถูกทำลายจากกระบวนการปรุงอาหาร พวกเขามักจะใช้เครื่องเคียงไทยผักตัดน้อย 100 กรัม/ครั้ง/ท่านซึ่งมีประโยชน์สำหรับสุขภาพของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟีนอลรวม flavonoids และสารต้านอนุมูลอิสระ 21 ชนิดของผักที่เลือกกับข้าวไทยได้รับการพิจารณา ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าทุกชนิดของผักกับข้าวไทยมีฟีนอลและสาร flavonoid ผักกับข้าวไทยที่มีสารประกอบฟีนอลมากที่สุดคือเมืองปากบึงไท, 1.66 ± 0.006 mgGAE / กรัม ในฐานะที่เป็นแม่ puang ขัวและกระ jeab เขียวมีสารประกอบ flavonoid ที่สูงที่สุด (0.14 ± 0.001 mgRE / G) ในส่วนของสารต้านอนุมูลอิสระ, ขาที่แสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุดกับ 91.99 ± 1.36% โดยยับยั้ง DPPH ทดสอบและ 1.65 ± 0.03 มิลลิ FeSO4 โดยวิธีทดสอบ FRAP แม้ว่าผลนี้พบว่าผักกับข้าวไทยมาอาจไม่สูงของ phenoloic และสารประกอบ flavonoid พวกเขาแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพสูงของอำนาจฤทธิ์ มันก็บอกว่าผักกับข้าวไทยจะกลายเป็นแหล่งที่ดีใหม่ ๆ และธรรมชาติของฟีนอลและสาร flavonoid เพราะคนไทยโดยทั่วไปกินส่วนใหญ่ของผักทั้งหมดเป็นกับข้าวตัดสดและน้ำร้อนลวกให้ฟีนอลและ flavonoids ไม่ถูกทำลายจากกระบวนการปรุงอาหาร นอกจากนี้พวกเขามักจะกินกับข้าวผักตัดสดไทยอย่างน้อย 100 กรัม / ครั้ง / คนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พวกฟีนอลิกทั้งหมด , flavonoids และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของ 21 เลือกชนิดของผักเครื่องเคียงไทยตัวอย่าง ผลการศึกษาพบว่า ผักทุกชนิดกับข้าวไทย และมีสารฟลาโวนอยด์สารประกอบ ไทยจานผักที่มีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกมากที่สุด คือ ปากบึง ไทเมือง , 1.66 ± 0.006 mggae / gเป็นแม่ขัวพวงกระเจี๊ยบเขียวและมีสารประกอบฟลาโวนอยด์สูงที่สุด ( 0.14 ± mgre / 0.001 กรัม ) ในส่วนกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระ ขา แสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุด ด้วย 91.99 ± 1.36 % ยับยั้งโดยการทดสอบและ dpph 1.65 ± 0.03 mm feso4 โดยวิธีคัดเลือก VDO . แม้ว่าผลนี้ พบว่า ผักเครื่องเคียงไทยอาจไม่ใช่แหล่งสูงและสารฟลาโวนอย phenoloic ,พวกเขาแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของวัตถุกันหืน พลัง พบว่า ผักเครื่องเคียง ไทยจะกลายเป็นแหล่งใหม่และธรรมชาติและสารฟลาโวนอยด์อย่างมาก เพราะคนไทยมักจะกินมากที่สุดของทั้งหมดเป็นผักเครื่องเคียงในการตัดสดและลวกแล้วฟีนอลิกและ flavonoids ไม่ได้ถูกทำลายจากกระบวนการปรุงอาหาร นอกจากนี้พวกเขามักจะใช้เป็นเครื่องเคียงผักสดไทยตัดอย่างน้อย 100 กรัม / ครั้ง / คน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ .