ข้อดี
โลกาภิวัตน์ทำให้วัฒนธรรมที่มีความหลายหลายมากขึ้น การปะทะทางวัฒนธรรม (clash of cultures) ระหว่างวัฒนธรรมเก่าของท้องถิ่นกับวัฒนธรรมใหม่ ทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมา การกระจายของวัฒนธรรม และวัฒนธรรมลูกผสม (cultural hybridization) จะเกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น ชาวอินเดียนแดงในเขตแม่น้ำอเมซอนสวมรองเท้ากีฬาไนกี้ วัยรุ่นชาวปาเลสไตน์โอ้อวดเสื้อกีฬาของทีมชิคาโกบูลส์) โดยถูกมองว่าโลกาภิวัตน์ ทางวัฒนธรรมไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของการขยายอิทธิพลตะวันตก หรือกะบวนการสร้างวัฒนธรรมโลกที่คล้ายคลึงกันขึ้นมา แต่เป็นเรื่องของการเชื่อมโยงโลกที่หลากหลายไขว้เกี่ยวและขัดแย้งกันอยู่อย่างซับซ้อนมากกว่า คือไม่ใช่แค่วัฒนธรรมตะวันตกเท่านั้นที่ถูกแพร่กระจาย แต่วัฒนธรรมอื่นๆก็ถูกแพร่กระจายและมีความเข้มข้นไปไม่น้อยกว่าวัฒนธรรมตะวันตกเลย อาทิ วัฒนธรรมเกาหลี วัฒนธรรมจีน วัฒนธรรมอินเดีย รวมถึงวัฒนธรรมไทยของเรา
ข้อเสีย
โลกาภิวัตน์ที่เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมนั้น กระบวนการโลกาภิวัตน์นั้นทำให้เกิดความคล้ายคลึงและความกลมกลืนทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมจากโลกตะวันตกแพร่ไปสู่ประเทศโลกที่สามหรือประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย การครอบงำทางวัฒนธรรมของวัฒนธรรมโลก อิทธิพลของการแพร่กระจายสินค้า พฤติกรรม รสนิยม การปฏิบัติ และความคิดความเชื่อเรื่องต่างๆ จากสังคมตะวันตกสู่สังคมอื่นๆจึงทำให้เกิดความคล้ายคลึงกันทางวัฒนธรรมมากขึ้นทุกขณะ เช่น ยี่ห้อของสินค้าบางชนิดที่ทั่วโลกรู้จัก เช่น KFC Mc donalds CNN MTV และภาพยนตร์ฮอลลีวูด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า(“Americanization”) การทำให้เป็นอเมริกัน ซึ่งทำให้เกิดลัทธิบริโภคนิยม ที่มุ่งแสวงหากำไรอย่างไรสามัญสำนึกและไร้จริยธรรมมากขึ้น ทำให้เกิด อุตสาหกรรมวัฒนธรรม ที่นำวัฒนธรรมมาเป็นสินค้าเพื่อแสวงหาผลกำไร การประทะกันทางวัฒนธรรมยังส่งผลเกิดกระบวนการชาตินิยม ที่ก่อให้เกิดความรุนแรงการประจันหน้าและอาจนำไปสู่สงคราม เพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ผลสุดท้ายคือการสูญเสียทั้งสองฝ่าย อาทิ วัฒนธรรมตะวันตกกับวัฒนธรรมมุสลิม เป็นต้น นอกจากนี้โลกาภิวัตน์ยังส่งผลกระทบต่อภาษาให้มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง