This article reconstructs the narra

This article reconstructs the narratives of Pattani Central Mosque. The intent of this article is describing the real quality of Pattani Central Mosque to depict another picture in looking at the phenomenon of mosques in southern Thailand, especially in Pattani that has been alleged as an arena popular for the spreading of Islamic radical ideas and the recruiting of young people into ‘martyrs’ against the Thai Government. It is not doubted, the 2004 Kru-ze Mosque incident reflects the failure of places of worship as a ‘sanctuary of violence’, rather than space for social capital and driver of change. Consequently, there are questions about the kind of practices taking place in Islamic teaching, mosque management, and the views held by mosque stakeholders (Imam, the preachers, and congregation) toward good governance, human rights and the anticipation of radicalism given the current situation in Pattani. This article concludes that that phenomenon of Islamism, specifically neo-fundamentalism, is neither found nor represented in Pattani Central Mosque. In actual fact, the allegations of the spreading of radical Islamic ideas and the recruiting of young Muslims by Islamic militant groups are not substantiated. But this is unique, certain and particular phenomenon. In sum, Pattani Central Mosque instead seems to be composed of a fairly equal mixture of moderate and more conservative believers rather than those with radical and extreme tendencies

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความนี้ reconstructs narratives ของมัสยิดกลางปัตตานี จุดประสงค์ของบทความนี้จะอธิบายคุณภาพจริงของมัสยิดกลางปัตตานีเพื่อแสดงรูปภาพอื่นในการมองปรากฏการณ์ของโบสถ์ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดปัตตานีที่ได้ถูกกล่าวหาเป็นสำนักนิยมแพร่กระจายความคิดรุนแรงอิสลามและการสรรหาของคนหนุ่มสาวใน "อนุสรณ์ผู้เสียสละ' กับรัฐบาลไทย มันไม่มี doubted, 2004 มัสยิดหรุนเซกรุเหตุการณ์สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของศาสนสถานเป็น 'เขตอภัยทานความรุนแรง' แทนพื้นที่สำหรับทุนทางสังคมและโปรแกรมควบคุมของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น มีคำถามเกี่ยวกับชนิดของการปฏิบัติการในการสอนอิสลาม บริหารมัสยิด และมุมมองจัดขึ้น โดยเสียมัสยิด (อิมาม บาทหลวง และคณะ) ต่อธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน และความคาดหมายของ radicalism กำหนดสถานการณ์ปัจจุบันในจังหวัดปัตตานี บทความนี้สรุปว่า ปรากฏการณ์ที่วิจารณ์ โดยเฉพาะนีโอ-fundamentalism จะไม่พบและ ไม่แสดงในมัสยิดกลางปัตตานี จริง ข้อการแพร่กระจายความคิดอิสลามรุนแรงและสรรหาของหนุ่มมุสลิมกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงไม่ substantiated แต่โดยเฉพาะ บาง และปรากฏการณ์หนึ่ง ๆ ในผล มัสยิดกลางปัตตานีแทนน่าจะประกอบด้วยส่วนผสมที่ค่อนข้างเท่าของผู้เชื่อหัวเก่ามาก และปานกลางมากกว่าผู้ที่ มีแนวโน้มรุนแรง และมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความนี้ reconstructs เรื่องเล่าของมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เจตนาของบทความนี้จะอธิบายถึงคุณภาพที่แท้จริงของมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีเพื่อให้เห็นภาพภาพอื่นในการมองหาที่ปรากฏการณ์ของมัสยิดในภาคใต้ของประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดปัตตานีที่ได้รับการกล่าวหาว่าเป็นเวทีที่เป็นที่นิยมสำหรับการแพร่กระจายของความคิดหัวรุนแรงอิสลามและการสรรหา ของคนหนุ่มสาวเป็น 'เสียสละ' กับรัฐบาลไทย มันไม่เป็นที่สงสัย 2004 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครู ZE มัสยิดสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของสถ​​านที่สักการะเป็น "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของความรุนแรง 'มากกว่าพื้นที่สำหรับทุนทางสังคมและคนขับรถของการเปลี่ยนแปลง จึงมีคำถามเกี่ยวกับชนิดของการปฏิบัติที่เกิดขึ้นในการเรียนการสอนอิสลามจัดการมัสยิดและมุมมองที่ถือโดยผู้มีส่วนได้เสียมัสยิด (อิหม่ามเทศน์และการชุมนุม) ที่มีต่อการบริหารจัดการที่ดี, สิทธิมนุษยชนและความคาดหมายของความรุนแรงให้สถานการณ์ปัจจุบัน ในจังหวัดปัตตานี บทความนี้สรุปว่าปรากฏการณ์ของศาสนาอิสลามที่เฉพาะนีโอลิทัวเนียจะไม่พบหรือตัวแทนในมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ในความเป็นจริงข้อกล่าวหาของการแพร่กระจายของความคิดอิสลามหัวรุนแรงและการสรรหาของชาวมุสลิมหนุ่มโดยกลุ่มอิสลามสงครามยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ตอนนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ปรากฏการณ์บางอย่างและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยสรุปมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีแทนดูเหมือนว่าจะประกอบด้วยส่วนผสมที่เท่าเทียมกันอย่างเป็นธรรมของผู้ศรัทธาในระดับปานกลางและค่อนข้างอนุรักษ์นิยมมากขึ้นกว่าผู้ที่มีแนวโน้มรุนแรงและรุนแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความนี้ reconstructs เรื่องเล่าของมัสยิดกลางปัตตานี จุดประสงค์ของบทความนี้จะอธิบายถึงคุณภาพที่แท้จริงของมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เพื่อแสดงภาพอื่น มองปรากฏการณ์ของมัสยิดในภาคใต้โดยเฉพาะใน จ. ปัตตานี ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเวทีที่เป็นที่นิยมสำหรับการแพร่กระจายของความคิดหัวรุนแรงอิสลามและการสรรหาของคนหนุ่มสาวใน ' ' พอกันกับรัฐบาลไทย มันไม่สงสัย ปี 2547 ครู ze มัสยิดเหตุการณ์สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของศาสนสถานเป็น ' บริสุทธิ์ ' ของความรุนแรงมากกว่าพื้นที่สำหรับทุนทางสังคมและไดรเวอร์ของการเปลี่ยนแปลง จากนั้นมีคำถามเกี่ยวกับชนิดของการปฏิบัติการในการสอน การบริหารจัดการมัสยิดอิสลาม และวิวที่จัดขึ้นโดยผู้มีส่วนได้เสีย ( มัสยิดอิหม่าม เป็นนักเทศน์ และชุมนุมต่อธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชนและความรุนแรงของสถานการณ์ตอนนี้ในปัตตานี บทความนี้สรุปได้ว่าปรากฏการณ์ของศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะการนับถือหลักเดิม นีโอ ,ไม่พบหรือเป็นตัวแทนในมัสยิดกลางปัตตานี ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริง , ข้อกล่าวหาของการแพร่กระจายของความคิดอิสลามหัวรุนแรงและการรับสมัครหนุ่มสาวมุสลิมอิสลามหัวรุนแรง โดยกลุ่มจะไม่มีแก่นสาร แต่นี้เป็นเฉพาะบางและโดยเฉพาะอย่างยิ่งปรากฏการณ์ ในผลรวมมัสยิดกลางปัตตานีแทนดูเหมือนจะประกอบด้วยส่วนผสมค่อนข้างเท่าเทียมกันของผู้เชื่อในระดับปานกลางและอนุรักษ์นิยมมากกว่าผู้ที่มีแนวโน้มรุนแรงและรุนแรง