In 2008, the coca growers union aff

In 2008, the coca growers union affiliated with Bolivian President Evo Morales ejected the 100 employees and contractors from USAID working in the Chapare region, citing frustration with U.S.[40] efforts to persuade them to switch to growing unviable alternatives. From 1998 to 2003, Bolivian farmers could receive USAID funding for help planting other crops only if they eliminated all their coca, according to the Andean Information Network. Other rules, such as the requirement that participating communities declare themselves "terrorist-free zones" as required by U.S. law irritated people, said Kathryn Ledebur, director of the organization. "Eradicate all your coca and then you grow an orange tree that will get fruit in eight years but you don't have anything to eat in the meantime? A bad idea," she said. "The thing about kicking out USAID, I don't think it's an anti-American sentiment overall but rather a rejection of bad programs

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 2008 สหภาพปลูกโคคามีส่วนเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโบลิเวียโมราเลสกด 100 พนักงานและผู้รับเหมาจาก USAID ทำงานในภูมิภาค Chapare อ้างแห้วกับเรา [40] ความพยายามที่จะชักชวนพวกเขาเพื่อสลับไปยังทางเลือกที่เพิ่มขึ้น unviable 1998-2003 เกษตรกรโบลิเวียจะได้รับเงินทุน USAID เพื่อขอความช่วยเหลือการปลูกพืชอื่น ๆ เฉพาะในกรณีที่พวกเขาตัดออกทั้งหมดโคคาของพวกเขาตามที่เครือข่ายข้อมูลแอนเดียน กฎระเบียบอื่น ๆ เช่นความต้องการที่ชุมชนมีส่วนร่วมประกาศตัวเอง "โซนผู้ก่อการร้ายฟรี" ตามที่เรา กฎหมายหงุดหงิดคน kathryn ledebur ผู้อำนวยการขององค์กรดังกล่าว "โคคากำจัดทั้งหมดของคุณแล้วคุณเติบโตต้นไม้สีส้มที่จะได้รับผลไม้ในรอบแปดปี แต่คุณไม่ได้มีอะไรที่จะกินในขณะเดียวกันได้หรือไม่ความคิดที่ดี "เธอกล่าว." สิ่งที่เกี่ยวกับการเตะออก USAID, ฉันไม่คิดว่ามันเป็นความรู้สึกต่อต้านอเมริกันโดยรวม แต่การปฏิเสธของโปรแกรมไม่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน 2008 สหภาพเกษตรกรโค้กสังกัดประธาน Bolivian โบออก 100 พนักงานและผู้รับเหมาจาก USAID ในภูมิภาค Chapare อ้างถึงแห้ว ด้วย U.S.[40] พยายามชักชวนให้ไปเลือก unviable การเจริญเติบโต จากปี 1998 ถึง 2003 โบลิเวียเกษตรกรสามารถ USAID ยื่นขอรับความช่วยเหลือในการปลูกพืชอื่น ๆ เมื่อพวกเขาตัดออกโค้กของพวกเขาทั้งหมด ตามเครือข่ายข้อมูล Andean กฎอื่น ๆ เช่นความต้องการที่ชุมชนเข้าร่วมประกาศตนเองกล่าวว่า "ผู้ก่อการร้ายฟรีโซน" ตามสหรัฐอเมริกากฎหมายเคืองคน แคทริน Ledebur ผู้อำนวยการองค์กร "ขจัดโค้กทั้งหมดของคุณ และจากนั้น เติบโตเป็นต้นไม้สีส้มที่จะได้รับผลไม้ในแปดปี แต่คุณไม่มีอะไรจะกินในขณะเดียวกัน ความเลวคิด เธอกล่าว "สิ่งที่เกี่ยวกับการเตะออก USAID ฉันไม่คิดว่า มันเป็นความเชื่อมั่นต่อต้านอเมริกันโดยรวมแต่เป็นการปฏิเสธของโปรแกรมไม่ถูกต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 2008 สมาพันธ์เกษตรกรผู้ปลูกต้นโคคาที่อยู่ในเครือเดียวกันกับเอโวโมราเลสโบลิเวียกรรมการผู้จัดการใหญ่ดัน 100 พนักงานและผู้รับเหมาจาก usaid ทำงานในเขตพื้นที่ก่อนๆเคยระบุว่าที่ไม่พอใจกับสหรัฐอเมริกา[ 40 ]ความพยายามที่จะจูงใจให้ปิดสวิตช์เพื่อการเติบโตทางเอาตัวรอดได้ จากปี 1998 ถึง 2003 เกษตรกรโบลิเวียไม่สามารถได้รับเงินทุน usaid สำหรับวิธีใช้ปลูกพืชอื่นๆเท่านั้นหากพวกเขาแพ้โคคาได้ทั้งหมดตามเทือกเขาแอนดิสข้อมูลเครือข่าย กฎอื่นๆเช่นการที่ชุมชนเข้าร่วมประกาศตัวเองว่า"โซนการก่อการร้าย - แบบไม่เสียค่าบริการ"ตามที่ต้องการโดยกฎหมายของสหรัฐอเมริกาเกิดอาการระคายเคืองเป็นผื่นแดงหรือว่ากันว่า Kathryn Belfon ledebur ผู้อำนวยการขององค์กรได้ "กำจัดโคคาทั้งหมดของคุณแล้วคุณปลูกต้นไม้สีส้มที่จะได้รับผลใน 8 ปีแต่คุณไม่มีอะไรจะกินในระหว่างนั้นแนวความคิดไม่ดีที่"เธอกล่าว "สิ่งที่เกี่ยวกับการเตะออกจาก usaid ผมไม่คิดว่ามันเป็นความรู้สึกต่อต้านอเมริกันที่โดยรวมแต่เป็นการปฏิเสธของโปรแกรมร้าย