feelings and subsequent individual

feelings and subsequent individual actions. Selfefficacy
beliefs are defined as “people’s judgments of
their capabilities to organize and execute courses of
action required to attain designated types of performances”
(Bandura, 1986, p. 391).
There are four sources of self-efficacy according to
Bandura (1986) and these include (a) master experience;
(b) vicarious experience; (b) verbal persuasion;
and (d) emotional state. When one masters a new
technical skill, one generally feels successful, and this
creates a degree or sense of efficacy. Vicarious reinforcement
is the process of being educated while
observing others in certain situations. Witnessing
others become successful through social models or
observations also “raises observer’s beliefs that they
also possess the capabilities to master comparable
activities required to succeed” (Bandura, 1994). Positive
verbal persuasion received from others (students
and instructors) allows for boosts in individual selfefficacy
and will help lead individuals to try harder
and promote development of skills with an accompanied
sense of self-efficacy. Finally, emotional and
physical state or reactions related to how these feelings
and associated learning are perceived and interpreted
are also important.
According to Bandura (1994), individuals who
possess a high sense of self-efficacy are likely to view
their affective state as an energizing facilitator of performance,
whereas the individual who has self-doubt
will regard their affective state as a debilitator.
Bandura (2004) postulates “efficacy beliefs influence
goals and aspirations; the stronger the perceived selfefficacy,
the higher the goals people set for themselves
and the firmer the commitment to them”
(p. 145). However, in a study of fourth year medical
students, Morton, Anderson, Frame, Moyes, and
Cameron (2006) reported that the high level of confidence
among medical students may be influenced
by their limited understanding of how much practice
is required to develop competence. This is an interesting
conclusion by the authors, yet provides a basis
to reinforce the phrase, “practice makes perfect”
while adding to the existing evidence in studies of
medical students of a poor correlation between selfassessment
and objective measures of procedural
competency.
Self-esteem and certainty are antecedents to
confidence/self-confidence. De Cremer and Van Hiel
(2008) examined procedural justice effects on selfesteem
through emotions and found that if positive
emotions with certainty, as opposed to uncertainty

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความรู้สึกและการกระทำแต่ละที่ตามมา Selfefficacyความเชื่อถูกกำหนดเป็น "พิพากษาประชาชนของความสามารถของตนเพื่อจัดระเบียบ และดำเนินการหลักสูตรของการดำเนินการจำเป็นในการบรรลุการกำหนดชนิดของการแสดง"(Bandura, 1986, p. 391)มีประสิทธิภาพด้วยตนเองตามแหล่งที่สี่Bandura (1986) และเหล่านี้รวมถึงประสบการณ์หลัก (a)(ข) ประสบการณ์กิยามะฮ์ (ข) วาจาจูงใจและสภาวะทางอารมณ์ (d) เมื่อหนึ่งในมาสเตอร์ใหม่ทักษะทางเทคนิค โดยทั่วไปรู้สึกประสบความสำเร็จ และสร้างระดับหรือความรู้สึกของประสิทธิภาพ เสริมแรงกิยามะฮ์เป็นกระบวนการของการศึกษาในขณะที่สังเกตผู้อื่นในบางสถานการณ์ เป็นพยานคนอื่นประสบความสำเร็จผ่านแบบจำลองทางสังคม หรือสังเกตยัง "ระดมความเชื่อของนักการว่าพวกเขานอกจากนี้ยัง มีความสามารถหลักเทียบเท่ากิจกรรมที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จ" (Bandura, 1994) ค่าบวกจูงใจด้วยวาจาที่ได้รับจากผู้อื่น (นักเรียนและผู้สอน) อนุญาตให้ผลิตผลในแต่ละ selfefficacyและจะช่วยนำบุคคลพยายามหนักและส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้วยการมาพร้อมกับความรู้สึกของตนเองประสิทธิภาพ สุดท้าย อารมณ์ และสถานะทางกายภาพหรือปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกเหล่านี้อย่างไรและเชื่อมโยงการรับรู้ และแปลความหมายในการเรียนรู้จะยังสำคัญตาม Bandura (1994), บุคคลที่มีความสูงความรู้สึกของตนเองประสิทธิภาพมักจะดูผลสถานะเป็นสัมภาษณ์ energizing ของประสิทธิภาพในขณะที่บุคคลที่สงสัยในตนเองจะถือสถานะผลการ debilitator"ความเชื่อที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพ postulates Bandura (2004)เป้าหมายและความปรารถนา selfefficacy ที่แข็งแกร่งรับรู้คนสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งด้วยตนเองและความมุ่งมั่นที่แน่นมากขึ้นเท่านั้น"(p. 145) อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาทางการแพทย์ปีสี่นักเรียน มอร์ตัน แอนเดอร์สัน เฟรม มอยส์ และCameron (2006) รายงานว่า ระดับความเชื่อมั่นสูงระหว่างนักศึกษาแพทย์อาจจะมีผลต่อโดยความเข้าใจที่จำกัดของจำนวนแบบฝึกหัดจะต้องพัฒนาความสามารถ เป็นน่าสนใจสรุป โดยผู้เขียน ยังให้พื้นฐานสร้างเสริมวลี "ฝึกทำให้สมบูรณ์แบบ"ในขณะที่การเพิ่มหลักฐานที่มีอยู่ในการศึกษาของนักศึกษาแพทย์ของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง selfassessmentและประเมินวัตถุประสงค์ของขั้นตอนความสามารถด้านการนับถือตนเองและแน่นอนมี antecedents เพื่อความเชื่อมั่น/ตัวตนมั่นใจ เดอดัลเครเมอร์และแวน Hiel(2008) กล่าวถึงขั้นตอนยุติธรรมผล selfesteemทางอารมณ์พบว่าถ้าเป็นค่าบวกอารมณ์ มีความเชื่อมั่น ตรงข้ามกับความไม่แน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความรู้สึกและการกระทำของบุคคลที่ตามมา รู้ความเชื่อจะถูกกำหนดเป็น"คำตัดสินของผู้คนของความสามารถของตนในการจัดระเบียบและดำเนินการหลักสูตรของการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุชนิดที่กำหนดของการแสดง" (Bandura, 1986, น. 391). มีสี่แหล่งที่มาของการรับรู้ความสามารถตนเองตามที่อยู่Bandura (1986) และเหล่านี้รวมถึง (ก) ประสบการณ์ต้นแบบ; (ข) ประสบการณ์ชะลอ; (ข) การโน้มน้าวใจทางวาจา; และ (ง) สภาพอารมณ์ เมื่อหนึ่งในโทใหม่ทักษะทางด้านเทคนิคโดยทั่วไปรู้สึกหนึ่งที่ประสบความสำเร็จและสร้างองศาหรือความรู้สึกของการรับรู้ความสามารถ ชะลอการเสริมแรงเป็นกระบวนการของการได้รับการศึกษาในขณะที่การสังเกตคนอื่นๆ ในบางสถานการณ์ พยานคนอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จผ่านรูปแบบทางสังคมหรือการสังเกตยัง"ยกความเชื่อของผู้สังเกตการณ์ที่พวกเขายังมีความสามารถในการเทียบเคียงต้นแบบกิจกรรมที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จ" (Bandura, 1994) บวกชักชวนด้วยวาจาที่ได้รับจากคนอื่น ๆ (นักเรียนและอาจารย์ผู้สอน) ช่วยให้การช่วยเพิ่มในแต่ละรู้ความสามารถและจะช่วยนำไปสู่บุคคลที่จะพยายามให้หนักขึ้นและส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่มีมาพร้อมกับความรู้สึกของตนเองประสิทธิภาพ ในที่สุดทางอารมณ์และสภาพร่างกายหรือปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับวิธีการที่ความรู้สึกเหล่านี้และการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องมีการรับรู้และตีความยังมีความสำคัญ. ตามที่ Bandura (1994) บุคคลที่มีความสูงของการรับรู้ความสามารถของตัวเองมีแนวโน้มที่จะดูรัฐอารมณ์ของพวกเขาเป็นอำนวยความสะดวกพลังของผลการดำเนินงานในขณะที่บุคคลที่มีตัวเองสงสัย. จะถือว่ารัฐอารมณ์ของพวกเขาเป็น debilitator Bandura (2004) สมมุติฐาน "ความเชื่อที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ความสามารถของเป้าหมายและแรงบันดาลใจ; แข็งแกร่งที่รู้ความสามารถรับรู้ที่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คนสำหรับตัวเองและกระชับความมุ่งมั่นให้กับพวกเขา"(พี. 145) อย่างไรก็ตามในการศึกษาปีที่สี่ทางการแพทย์นักศึกษามอร์ตัน, แอนเดอ, กรอบรูป, Moyes และคาเมรอน(2006) รายงานว่าระดับสูงของความเชื่อมั่นในหมู่นักศึกษาแพทย์อาจจะได้รับอิทธิพลจากความเข้าใจที่จำกัด ของพวกเขาวิธีการปฏิบัติมากจำเป็นต้องมีการพัฒนาความสามารถ. นี้เป็นที่น่าสนใจข้อสรุปโดยนักเขียนที่ยังมีพื้นฐานที่จะเสริมสร้างวลี"การทำให้สมบูรณ์" ขณะที่การเพิ่มหลักฐานที่มีอยู่ในการศึกษาของนักศึกษาแพทย์ของความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่าง selfassessment และมาตรการวัตถุประสงค์ของการดำเนินการความสามารถ. ภาคภูมิใจในตนเอง และความเชื่อมั่นที่มีบุคคลที่จะเชื่อมั่น/ ความมั่นใจในตนเอง De Cremer แวน Hiel (2008) ตรวจสอบผลการดำเนินการเกี่ยวกับความยุติธรรม selfesteem ผ่านอารมณ์และพบว่าหากบวกอารมณ์ด้วยความมั่นใจเมื่อเทียบกับความไม่แน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความรู้สึกและการกระทำของบุคคล ที่ตามมา selfefficacy
ความเชื่อนิยามว่า " คำตัดสินของประชาชน
ความสามารถของจัดระเบียบและดำเนินการหลักสูตร
ปฏิบัติการต้องบรรลุเขตประเภทของการแสดง "
( Bandura , 2529 , หน้า 391 ) .
มี 4 แหล่งที่มาของตนเองตาม
Bandura ( 1986 ) และเหล่านี้รวมถึงประสบการณ์ที่อาจารย์ ;
( A ) ( ข ) ประสบการณ์ของ ;( ข ) การชักชวนด้วยวาจา ;
( D ) สภาพทางอารมณ์ เมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคทักษะใหม่
, หนึ่งโดยทั่วไปรู้สึกประสบความสำเร็จและ
สร้าง หรือความรู้สึกของความมีประสิทธิภาพ
การเสริมแรงของเป็นกระบวนการของการศึกษาในขณะที่
สังเกตคนอื่น ๆในบางสถานการณ์ เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จผ่านรุ่น

สังเกตสังคมหรือยัง " หัสสังเกตการณ์ของความเชื่อที่พวกเขา
มีความสามารถที่จะโทกิจกรรมเปรียบ
ต้องประสบความสำเร็จ " ( Bandura , 1994 ) บวกด้วยการชักชวนที่ได้รับจากคนอื่น ๆ (

นักศึกษาและอาจารย์ ) ช่วยเพิ่มใน
selfefficacy บุคคลและจะช่วยทำให้บุคคลพยายามหนัก
และส่งเสริมการพัฒนาทักษะ กับความรู้สึกของตนเองพร้อมด้วย
. ในที่สุด อารมณ์และ
ปฏิกิริยาสถานะทางกายภาพหรือเกี่ยวข้องกับวิธีการเหล่านี้ความรู้สึก
ที่การเรียนรู้รับรู้และตีความ

ก็สำคัญ ตามแบนดูรา ( 1994 ) , บุคคลที่
มีความรู้สึกสูงความสามารถของตนเองมักจะมองสภาพอารมณ์ของพวกเขาเป็นพลัง

ผู้ประสานงานการแสดง ในขณะที่บุคคลที่มี
สงสัยตัวเองจะ เรื่องสภาพจิตของตนเป็น debilitator .
แบนดูรา ( 2004 ) สมมุติฐาน " ประสิทธิภาพความเชื่ออิทธิพล
เป้าหมายและแรงบันดาลใจ ; แข็งแกร่งของ selfefficacy
สูงกว่าเป้าหมาย , คนตั้งเอง
และกระชับความผูกพันกับพวกเขา "
( หน้า 145 ) อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 แพทย์
มอร์ตัน , แอนเดอร์สัน , กรอบ , มอยส์ , และ
คาเมรอน ( 2549 ) รายงานว่า ระดับของความเชื่อมั่น
ของนักศึกษาแพทย์ที่อาจจะได้รับอิทธิพลจากความเข้าใจของพวกเขาที่ จำกัด ของ

ฝึกเท่าใดจะต้องพัฒนาความสามารถ นี้เป็นข้อสรุปที่น่าสนใจ
โดยผู้เขียนยังให้พื้นฐาน
เพื่อเสริมสร้างวลีที่ว่า " การทำให้สมบูรณ์ "
ในขณะที่การเพิ่มหลักฐานที่มีอยู่ในการศึกษาของนักศึกษาแพทย์ของความสัมพันธ์ที่ไม่ดี

selfassessment ระหว่างและมาตรการวัตถุประสงค์ของสมรรถนะกระบวนการ
.
ความนับถือตนเองและความเชื่อมั่นเป็นบรรพบุรุษ

/ ความเชื่อมั่น ความมั่นใจในตนเอง เดอ เครเมอร์ และรถตู้ hiel
( 2008 ) ตรวจสอบกระบวนการความยุติธรรมต่อตนเอง
ผ่านอารมณ์และพบว่าถ้าอารมณ์บวก
อย่างแน่นอน ตรงข้ามกับความไม่แน่นอน