มีเด็กจำนวนหนึ่งที่มีระดับสติปัญญาปกติ พ่อแม่และครูจะมีความเห็นตรงกันว่าเป็นคนฉลาด แต่เด็กเรียนหนังสือไม่ได้ สอบตกหลายวิชา ต้องสอบซ่อมเทอมละ 4-5 วิชา ผู้ใหญ่จะเข้าใจว่าเด็กนั้นไม่สนใจเรียน ไม่ตั้งใจเรียน เวลาอยู่ในห้อง ชอบพูดชอบคุย นั่งไม่นิ่ง บางคนจะเหม่อลอยไม่ฟังครู งานในห้องมักทำไม่เสร็จ การบ้านไม่ทำและไม่ส่งหรือทำไม่เสร็จ เด็กมักลืมทำในสิ่งต่างๆ ที่ถูกมอบหมายให้ทำ พ่อแม่จะรู้สึกเครียดมากถ้าต้องคุมให้ลูกทำการบ้าน เพราะจะใช้เวลานานมากในการทำการบ้าน เช่น ควรใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงลูกกลับใช้เวลาถึง 3-4 ชั่วโมง เป็นต้น เด็กเหล่านี้มีความผิดปกติที่ทางการแพทย์ เรียกว่า โรคสมาธิสั้น บางครั้งจะมีคนเรียกเด็กกลุ่มนี้ว่าเป็นเด็กไฮเปอแอคทีฟ
โรคสมาธิสั้น จะมีลักษณะอาการดังนี้
1. อาการสมาธิสั้น มักสามารถเห็นได้ในเกือบทุกสถานที่ เช่น ที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่สังคม ในห้องตรวจของแพทย์ แต่ความรุนแรงของอาการอาจแสดงออกไม่เท่ากันในแต่ละสถานที่ และบางคนอาจจะมีอาการแสดงให้เห็นเฉพาะบางสถานที่เท่านั้น เช่น ที่โรงเรียน เพราะที่โรงเรียนอาจเป็นภาวะที่เด็กต้องมีสมาธิ ฉะนั้นเด็กอาจไม่สามารถทำงานที่ครูสั่งติดต่อกันได้นานเท่าเด็กอื่นๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกัน เด็กอาจทำงานไม่เสร็จตามเวลากำหนดหรือทำเสร็จอย่างรีบๆ ผิดพลาดมาก สกปรก ไม่ประณีต อยู่บ้านเด็กอาจแสดงออกโดยไม่สามารถทำตามที่สั่งได้ เช่น เล่นของเล่นแล้วไม่เก็บ เปิดลิ้นชักแล้วไม่ปิด เพราะทำยังไม่ทันจบ กิจกรรมหนึ่งก็เสียสมาธิเปลี่ยนไปอย่างอื่น ก็เลยไปทำกิจกรรมอื่นเสียเวลา
2. อาการหุนหันพลันแล่น ที่โรงเรียนอาการจะแสดงออก โดยการรีบตอบคำถามทั้งๆ ที่ครูถามยังไม่ทันจบ เด็กจะคอยตามคิวไม่ได้ในการทำกิจกรรม บางครั้งก็รีบตอบแทรกเมื่อเพื่อนยังตอบครูไม่จบ เป็นต้น เวลาอยู่บ้านเด็กอาจแสดงความหุนหันพลันแล่นโดยจะรบกวนผู้อื่นในรูปแบบต่างๆ เช่น แหย่รบกวนพี่หรือน้องบ่อยๆ เวลาต้องการใช้ของผู้อื่นก็หยิบมาเลย โดยไม่ดูว่าเขาใช้เสร็จหรือยังโดยที่เด็กไม่มีเจตนาจะละเมิดสิทธิ หรือเสียมารยาท แต่เป็นเพราะเด็กนึกจะทำอะไรก็ทำเลย โดยไม่ได้ยั้งคิดเสียก่อน
3. อาการอยู่ไม่นิ่งหรือซนผิดปกติ เด็กอาจมีอาการนั่งไม่ติดที่ ลุกจากที่นั่งบ่อยๆ เด็กเล็กบางคนอาจวิ่งในห้องเรียน บางคนอาจนั่งไม่นิ่งในที่ของตนโดยจะทำอะไรอยู่เกือบตลอดเวลา เช่น เอาของมาหมุนเล่น จับเล่น เคาะโน่น จับนี่ไม่ได้หยุด นั่งโยกเก้าอี้ กัดดินสอ เขียนการ์ตูนในหนังสือหรือสมุด เวลาอยู่บ้านก็อาจมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น นั่งไม่นิ่ง เวลารับประทานอาหาร เวลาดูทีวี เวลาทำการบ้าน ถ้าเวลาจำเป็นที่ต้องอยู่กับที่ก็ขยับตัวตลอดเวลา
พฤติกรรมแต่ละอย่างที่กล่าวมา อาจพบได้ในเด็กปกติ จะเป็นความผิดปกติเมื่อมีพฤติกรรมที่รุนแรง ไม่เหมาะสมกับวัยของเด็ก ไม่เหมาะสมกับสถานที่ เช่น ในห้องเรียนไม่ใช่ในสนามเด็กเล่น และมีอาการสม่ำเสมอ และพฤติกรรมนั้นรบกวนผู้อื่นด้วย หรือมีพฤติกรรมผิดปกติมากจนรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กเอง เช่น ไม่สามารถเรียนหนังสือได้ บางครั้งเด็กสมาธิสั้นอาจมีสมาธิได้ยาวนาน เฉพาะในเรื่องที่เด็กสนใจมาก เช่น วีดีโอเกมส์ การต่อของเล่นบางอย่าง เป็นต้น
เด็กที่อยู่ไม่สุข อยู่ไม่นิ่ง ไม่ใช่จะเป็นโรคสมาธิสั้นทุกคน เพราะต้องแยกอีกว่าเกิดจากภาวะอื่นๆ หรือไม่ มีสภาวะที่ปกติและผิดปกติหลายอย่างที่อาจมีอาการคล้ายโรคสมาธิสั้น และอาการที่เห็นบางครั้งก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโรคอื่น เช่น
อย่างไรก็ตามพ่อแม่ควรได้รับความเห็นใจและพ่อแม่ควรรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง เพราะการเลี้ยงเด็กปกติก็เป็นเรื่องเหนื่อยอยู่แล้ว การเลี้ยงดูลูกสมาธิสั้นนั้น เหนื่อยยิ่งกว่าหลายเท่าตัว ดังนั้นถ้าพ่อแม่สามารถหาคนมาช่วยแบ่งเบาภาระไปได้ในบางช่วง และมีเวลาทำอะไรที่พ่อแม่อยากทำบ้าง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่สมควรจะได้รับบ้าง.