A Wind Machine You Can Call HomeThi

A Wind Machine You Can Call Home


This futuristic building will provide power and panoramic views


Windmills have dotted the Dutch countryside for centuries. But in densely populated cities, whooshing turbines are a tough sell. A new concept called the Dutch Windwheel could offer a silent, low-maintenance alternative.


Whereas most turbines use spinning blades to turn the kinetic energy of wind into mechanical energy that generates power, the Windwheel cuts out the middle step. Its electrostatic wind-energy converter uses wind, water, and an electric field to directly produce a current.

So far, the tabletop prototype produces just 12.5 milliwatts—not enough to power a light bulb. And it’s only 3 percent efficient, compared with a typical wind turbine’s 45 percent efficiency. But if the technology advances on schedule, its creators say a 570-foot version could grace the Rotterdam skyline by the early 2020s.

People will be able to live, work, and dine inside the self-powered skyscraper as it cranks out 1 megawatt of electricity. “We wanted a 100-percent-sustainable building that serves as a platform for all kinds of innovations,” says developer Lennart Graaff.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลมเครื่องสามารถโทรบ้านอาคารนี้อนาคตจะให้พลังงานและทิวทัศน์Windmills มีจุดชนบทดัตช์สำหรับศตวรรษ แต่ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นไป กังหัน whooshing จะขายยาก แนวคิดใหม่ที่เรียกว่า Windwheel ดัตช์สามารถเสนอทางเลือกเงียบ การบำรุง รักษาต่ำในขณะที่กังหันส่วนใหญ่ใช้ใบมีดปั่นเพื่อเปลี่ยนพลังงานจลน์ของลมเป็นพลังงานกลที่สร้างพลังงาน Windwheel ตัดออกมาขั้นกลาง แปลงของงานพลังงานลมใช้ลม น้ำ และสนามไฟฟ้าที่ผลิตกระแสตรงเพื่อห่างไกล ต้นแบบ tabletop สร้างเพียง 12.5 milliwatts — ไม่เพียงพอที่ให้พลังงานกับหลอดไฟ และจะมีประสิทธิภาพ เพียง 3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของกังหันลมทั่วไปร้อยละ 45 แต่ถ้าเทคโนโลยีความก้าวหน้าตามกำหนดเวลา ของผู้สร้างว่า รุ่น 570 ฟุตสามารถโปรดปรานฟ้ารอตเตอร์ดัม โดย 2020s ต้นคนจะได้อยู่ ทำงาน และบริการภายในตึกระฟ้าตัวขับเคลื่อนมัน cranks ออก 1 เมกะวัตต์ของการไฟฟ้า "เราต้องการอาคารที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่สำหรับทุกชนิดของนวัตกรรม 100-ร้อยละยั่งยืน" กล่าวว่า นักพัฒนา Graaff ท่าอากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เครื่องลมที่คุณสามารถโทรหาที่บ้านอาคารอนาคตจะให้พลังงานและทัศนียภาพอันงดงามกังหันลมได้จุดชนบทดัตช์มานานหลายศตวรรษ แต่ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นกังหัน whooshing เป็นขายยาก แนวคิดใหม่ที่เรียกว่าชาวดัตช์ Windwheel สามารถเสนอเงียบการบำรุงรักษาต่ำทางเลือก. ในขณะที่ส่วนใหญ่ใช้กังหันหมุนใบมีดที่จะเปิดพลังงานจลน์ของลมเป็นพลังงานกลที่สร้างอำนาจ Windwheel ตัดออกขั้นตอนกลาง แปลงลมพลังงานไฟฟ้าสถิตใช้ลมน้ำและสนามไฟฟ้าโดยตรงผลิตในปัจจุบัน. เพื่อให้ห่างไกลต้นแบบโต๊ะผลิตเพียง 12.5 มิลลิวัตต์ไม่พอที่จะใช้พลังงานหลอดไฟ และมันก็เป็นเพียงร้อยละ 3 ที่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับกังหันลมที่มีประสิทธิภาพทั่วไปร้อยละ 45 แต่ถ้าเทคโนโลยีก้าวหน้าในตารางผู้สร้างบอกว่าเป็นรุ่นที่ 570 ฟุตสามารถพระคุณเส้นขอบฟ้าตเตอร์ดัมโดย 2020s ต้น. คนจะสามารถที่จะมีชีวิตอยู่การทำงานและการรับประทานอาหารภายในตึกระฟ้าขับเคลื่อนตัวเองในขณะที่มัน cranks ออก 1 ล้านวัตต์ ไฟฟ้า "เราต้องการที่อาคาร 100 เปอร์เซ็นต์อย่างยั่งยืนที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับทุกชนิดของนวัตกรรม" พัฒนา Lennart Graaff กล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลมเครื่องคุณสามารถโทรหาที่บ้าน


ที่เบื้องหน้านี้ อาคารจะให้พลังงานและวิว


กังหันลมมีจุดดัตช์ชนบทมานานหลายศตวรรษ แต่ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่น whooshing กังหันจะขายยาก . แนวคิดใหม่ที่เรียกว่า windwheel ดัตช์สามารถให้เงียบ การบำรุงรักษาต่ำทางเลือก

.ส่วนกังหันส่วนใหญ่ใช้ ใบมีดปั่นเปลี่ยนพลังงานจลน์จากลมเป็นพลังงานกลที่สร้างอำนาจ windwheel ตัดออกขั้นกลาง ของไฟฟ้าสถิตพลังงานลมแปลงใช้ลม , น้ำ , และสนามไฟฟ้าโดยตรงเพื่อผลิตกระแส

ดังนั้นไกล , โต๊ะต้นแบบผลิตแค่ 12.5 เครื่องมือไม่เพียงพอที่จะใช้พลังงานหลอดไฟและมันเป็นเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ที่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับทั่วไปกังหันลม 45 เปอร์เซ็นต์ ประสิทธิภาพ แต่ถ้าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในตารางเวลา ของผู้สร้างบอกว่ารุ่น 570 เท้าอาจพระคุณ Rotterdam เส้นขอบฟ้าโดยช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 2010

คนอื่นจะได้ใช้ชีวิต ทำงาน และทานอาหารภายในตนเองขับเคลื่อนตึกระฟ้าที่ cranks ออก 1 เมกะวัตต์ของพลังงานไฟฟ้า" เราต้องการ 100 เปอร์เซ็นต์อย่างยั่งยืนอาคารที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับทุกชนิดของนวัตกรรม , " กล่าวว่านักพัฒนาของคณะ
แกรฟฟ์ .