in the Trail Smelter case, United S

in the Trail Smelter case, United States is suing Canada. That is Canadian smelting iron which contain zinc and lead. As a result, emissions of sulfur dioxide spread across the region (British Columbia), at that time don’t have as an international standard to solve it. Thereby creating international environmental law, one important principle is the principle of "user pays pollution

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในกรณี Trail Smelter สหรัฐเป็น suing แคนาดา นั่นคือแคนาดา smelting เหล็กซึ่งประกอบด้วยสังกะสี และตะกั่ว เป็นผล ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์แพร่กระจายไปทั่วภูมิภาค (บริติชโคลัมเบีย), ในเวลานั้นไม่ได้เป็นมาตรฐานสากลจะแก้ปัญหาได้ จึงสร้างกฎหมายสิ่งแวดล้อมนานาชาติ หลักสำคัญหนึ่งคือ หลักการของ "ผู้ใช้จ่ายมลพิษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในกรณีที่เส้นทางหลอม, สหรัฐอเมริกาจะฟ้องแคนาดา นั่นคือถลุงเหล็กแคนาดาซึ่งมีสังกะสีและตะกั่ว เป็นผลให้การปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์แพร่กระจายไปทั่วทั้งภูมิภาค (บริติชโคลัมเบีย) ในเวลาที่ไม่ได้เป็นมาตรฐานสากลจะแก้ปัญหาได้ ดังนั้นการสร้างกฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการที่สำคัญคือหลักการของ "ผู้ใช้จ่ายมลพิษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเส้นทางหลอมกรณีสหรัฐอเมริกาฟ้องแคนาดา ที่เป็นชาวแคนาดาถลุงเหล็กซึ่งประกอบด้วยสังกะสีและตะกั่ว ผล การปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์แพร่กระจายทั่วทั้งภูมิภาค ( บริติชโคลัมเบีย ) ตอนนั้นไม่ได้เป็นมาตรฐานนานาชาติเพื่อแก้ปัญหา จึงสร้างกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ หลักการหนึ่งที่สำคัญคือ หลักการของ " ผู้ใช้จ่ายมลพิษ