Open addressing, or closed hashing,

Open addressing, or closed hashing, is a method of collision resolution in hash tables. With this method a hash collision is resolved by probing, or searching through alternate locations in the array (the probe sequence) until either the target record is found, or an unused array slot is found, which indicates that there is no such key in the table.[1]Well known probe sequences include:

The main tradeoffs between these methods are that linear probing has the best cache performance but is most sensitive to clustering, while double hashing has poor cache performance but exhibits virtually no clustering; quadratic probing falls in-between in both areas. Double hashing can also require more computation than other forms of probing. Some open addressing methods, such as last-come-first-served hashing and cuckoo hashing move existing keys around in the array to make room for the new key. This gives better maximum search times than the methods based on probing.
A critical influence on performance of an open addressing hash table is the load factor; that is, the proportion of the slots in the array that are used. As the load factor increases towards 100%, the number of probes that may be required to find or insert a given key rises dramatically. Once the table becomes full, probing algorithms may even fail to terminate. Even with good hash functions, load factors are normally limited to 80%. A poor hash function can exhibit poor performance even at very low load factors by generating significant clustering. What causes hash functions to cluster is not well understood[citation needed], and it is easy to unintentionally write a hash function which causes severe clustering.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แก้ปัญหาเปิด หรือ hashing ปิด เป็นวิธีการแก้ปัญหาการชนกันในตารางแฮ ด้วยวิธีนี้ชนแฮได้รับการแก้ไข โดยอาศัย หรือค้นหาตำแหน่งที่ตั้งอื่นในอาร์เรย์ (ลำดับโพรบ) จนถึงเป้าหมายใด พบ หรือช่องเรย์ไม่ได้ใช้งาน อยู่ ซึ่งบ่งชี้ว่า ไม่มีเช่นคีย์ในตาราง[1]โพรบรู้จักลำดับได้แก่:ยืนยันหลักระหว่างวิธีการเหล่านี้เป็นที่อาศัยเส้นมีแคสุด แต่สำคัญสุดการคลัสเตอร์ ในขณะที่คู่ hashing มีประสิทธิภาพแคดี แต่แทบไม่มีคลัสเตอร์ จัดแสดง โดยอาศัยกำลังสองตกระหว่างพื้นที่ทั้งสอง Hashing คู่สามารถยังต้องคำนวณมากขึ้นกว่ารูปแบบอื่น ๆ โดยอาศัย บางคนเปิดวิธีการแก้ปัญหา เช่นล่าสุดมาครั้งแรก-hashing และ cuckoo hashing ย้ายคีย์ที่มีอยู่ในอาร์เรย์ยังคีย์ใหม่ ซึ่งทำให้เวลาค้นหาสูงสุดดีกว่าวิธีการใช้โดยอาศัยอิทธิพลที่สำคัญในประสิทธิภาพของตารางแฮชรับมือการเปิดเป็นตัวโหลด นั่นคือ สัดส่วนของช่องในอาร์เรย์ที่ใช้ เป็นอัตราการเพิ่มต่อ 100% คลิปปากตะเข้ที่อาจจำเป็นต้องค้นหา หรือใส่คีย์ให้ จำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อตารางจะเต็ม อาศัยอัลกอริทึมอาจยังไม่สามารถยุติ แม้ ด้วยฟังก์ชันแฮดี ปัจจัยการผลิตได้จำกัดโดยปกติ 80% ฟังก์ชันแฮชที่ดีสามารถแสดงประสิทธิภาพต่ำแม้ในปัจจัยการผลิตต่ำมาก โดยสร้างคลัสเตอร์อย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่ทำให้ฟังก์ชันแฮชของการคลัสเตอร์ไม่ดีเข้าใจ [อ้างจำเป็น], และง่ายต่อการเขียนฟังก์ชันแฮชซึ่งทำให้คลัสเตอร์อย่างรุนแรงโดยไม่ได้ตั้งใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปิดอยู่หรือ hashing ปิดเป็นวิธีการของการแก้ปัญหาการปะทะกันในตารางแฮช ด้วยวิธีนี้การปะทะกันกัญชาได้รับการแก้ไขโดยละเอียดหรือค้นหาผ่านสถานที่สำรองในอาร์เรย์ (ลำดับสอบสวน) จนกว่าจะมีการบันทึกเป้าหมายที่พบหรือสล็อตอาร์เรย์ที่ไม่ได้ใช้จะพบซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีที่สำคัญเช่นใน . ตาราง [1] ที่รู้จักกันดีลำดับสอบสวนรวมถึงความสมดุลระหว่างวิธีการเหล่านี้เป็นเชิงเส้นที่ละเอียดมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดแคช แต่มีความสำคัญมากที่สุดในการจัดกลุ่มในขณะที่คร่ำเครียดคู่มีประสิทธิภาพแคชยากจน แต่แทบจะไม่มีการจัดแสดงนิทรรศการการจัดกลุ่ม; น้ำตกละเอียดกำลังสองในระหว่างในพื้นที่ทั้งสอง คร่ำเครียดคู่ยังจะต้องคำนวณมากขึ้นกว่ารูปแบบอื่น ๆ ของการแหย่ บางวิธีการที่อยู่เปิดเช่นที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกหลังคร่ำเครียดและคร่ำเครียดนกกาเหว่าย้ายคีย์ที่มีอยู่รอบ ๆ ในอาเรย์ที่จะทำให้ห้องพักสำหรับคีย์ใหม่ นี้จะช่วยให้ดีขึ้นครั้งการค้นหาสูงสุดกว่าวิธีการขึ้นอยู่กับการแหย่. อิทธิพลสำคัญในการทำงานของตารางแฮชที่อยู่เปิดเป็นปัจจัยโหลด; นั่นคือสัดส่วนของช่องในอาร์เรย์ที่ใช้ ในฐานะที่เป็นปัจจัยกดดันต่อการเพิ่มขึ้น 100% จำนวนของยานสำรวจที่อาจจะต้องไปหาหรือแทรกขึ้นคีย์ที่กำหนดอย่างมาก เมื่อตารางเต็มละเอียดขั้นตอนวิธีการอาจล้มเหลวที่จะยุติ แม้จะมีฟังก์ชั่นที่ดีตัวประกอบการใช้ไฟฟ้าจะถูก จำกัด ตามปกติถึง 80% ฟังก์ชันแฮชที่ไม่ดีสามารถแสดงประสิทธิภาพที่ดีแม้ในปัจจัยที่โหลดต่ำมากโดยการสร้างการจัดกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่ทำให้ฟังก์ชันแฮชคลัสเตอร์ไม่เข้าใจ [อ้างจำเป็น] และมันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะไม่ได้ตั้งใจเขียนฟังก์ชันแฮชซึ่งเป็นสาเหตุของการจัดกลุ่มอย่างรุนแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปิด หรือปิดบริการเป็นวิธีของการแก้ปัญหาการชนในตารางแฮช . ด้วยวิธีนี้เป็นกัญชาชน แก้ไขด้วยการแหย่ หรือค้นหาผ่านสำรองที่ตั้งอยู่ในอาร์เรย์ ( โพรบตามลำดับจนกระทั่งทั้งบันทึกเป้าหมาย พบ หรือ สล็อตอาร์เรย์ไม่พบ ซึ่งบ่งชี้ว่าไม่มีกุญแจโต๊ะ [ 1 ] ที่รู้จักกันดีได้แก่ :

ตรวจสอบลำดับและ tradeoffs ระหว่างหลักวิธีการเหล่านี้เป็นเส้นละเอียดที่มีประสิทธิภาพแคชที่ดีที่สุด แต่อ่อนไหวที่สุดในกลุ่ม ขณะที่คู่ hashing มีแคชประสิทธิภาพไม่ดี แต่มาแทบไม่มีการล้มในการจัดกลุ่ม ; กำลังสองระหว่างในพื้นที่ทั้งสอง คู่ hashing สามารถต้องการการคำนวณมากกว่ารูปแบบอื่น ๆของการ . เปิดใช้วิธีการเช่น เมื่อมาเสิร์ฟแรก และนกกาเหว่าย้ายคีย์แฮช hashing ที่มีอยู่รอบในอาร์เรย์เพื่อให้ห้องพักสำหรับคีย์ใหม่ นี้จะช่วยให้ขึ้นสูงสุดค้นหาครั้งมากกว่าโดยวิธีละเอียด .
มีอิทธิพลสำคัญในประสิทธิภาพของการเปิดใช้ตารางแฮชเป็นปัจจัยโหลด นั่นคือ มีช่องในอาร์เรย์ที่ใช้ เป็นปัจจัยโหลดเพิ่มต่อ 100%จำนวนวัดที่อาจต้องพบหรือใส่ให้คีย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อโต๊ะจะเต็มแหย่ขั้นตอนวิธีอาจล้มเหลวที่จะยุติ แม้จะมีฟังก์ชัน hash ดี ปัจจัย โหลด ปกติ จำกัด ร้อยละ 80 ฟังก์ชันกัญชา จนสามารถแสดงประสิทธิภาพที่ไม่ดีแม้ปัจจัยโหลดต่ำมากโดยการสร้างกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .อะไรเป็นสาเหตุของฟังก์ชันกัญชาให้กลุ่มไม่เข้าใจ [ อ้างอิงที่จำเป็น ] , และมันเป็นเรื่องง่ายที่จะตั้งใจเขียน แฮชฟังก์ชันซึ่งสาเหตุรุนแรง
การจัดกลุ่ม .