From a practice perspective, the st

From a practice perspective, the study’s findings lend support for nurses and other healthcare professionals to be more vigilant in assessing and managing children’s symptom experiences. Successful care of children with cancer requires a comprehensive assessment; all symptoms warrant attention by nurses regardless of patients’ degree of distress. Therefore, all those caring for children with cancer must be cognizant of and consider all of the children’s symptom experiences. Even if children and families do not complain of any symptoms, nurses should inquire about the absence or presence of potential symptoms. Anticipatory guidance is key to symptom management. Nurses need to be careful and thorough in their assessments of children’s symptom experiences, especially considering the children in this study found that rating their symptoms on any type of self-assessment scale was not always helpful. Relying solely on self-assessment scales limits understanding of what children may be feeling and may not be able to truly capture the children’s suffering. During the assessment process, healthcare providers must ascertain the beliefs and expectations of children and families in relation to symptom experiences and symptom containment. Obtaining a comprehensive assessment is the first step for nurses to promote the attitude of “it really helps” and not “it sort of helps” with respect to symptom management in children with cancer. Nurses must reinforce to families that suffering in relation to symptom distress should not be perceived as a requisite to overcoming cancer. Nurses should work with families and children in easing their suffering. This includes nurses becoming aware of strategies used by children and families to relieve symptoms. Integrating nurse-initiated symptom relief strategies with child- and family-initiated strategies will result in a more comprehensive approach to symptom containment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากมุมมองแบบฝึกหัด การศึกษาค้นพบยืมสนับสนุนสำหรับพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่น ๆ ให้ระวังมากขึ้นในการประเมิน และการจัดการประสบการณ์อาการเด็ก ดูแลเด็กโรคมะเร็งประสบความสำเร็จต้องการประเมินครอบคลุม อาการทั้งหมดรับประกันความสนใจจากพยาบาลว่าองศาผู้ป่วยทุกข์ ดังนั้น ทุกคนสำหรับเด็กโรคมะเร็งต้องซึ่งรู้ถึง และพิจารณาประสบการณ์อาการของเด็กทั้งหมด แม้ว่าเด็กและครอบครัวไม่ได้บ่นงานอาการใด ๆ พยาบาลควรสอบถามเกี่ยวกับการขาดงานหรือแสดงอาการที่อาจเกิดขึ้น คำแนะนำ anticipatory เป็นคีย์การจัดการอาการ พยาบาลจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง และรอบคอบในการประเมินเด็กอาการประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาเด็กในการศึกษานี้พบว่า อันดับอาการใด ๆ ชนิดมาตราส่วนประเมินตนเองไม่ค่อยดี เข้าใจว่าเด็กอาจมีความรู้สึก และอาจไม่สามารถจับภาพของเด็ก ๆ อย่างแท้จริงความทุกข์อาศัยประเมินระดับขีดจำกัดแต่เพียงผู้เดียว ในระหว่างกระบวนการประเมิน ผู้ให้บริการสุขภาพต้องตรวจความเชื่อและความคาดหวังของเด็กและครอบครัวเกี่ยวกับประสบการณ์อาการและอาการบรรจุ ได้รับการประเมินที่ครอบคลุมเป็นก้าวแรกสำหรับพยาบาลเพื่อส่งเสริมทัศนคติของ "จริง ๆ ช่วย" และไม่ "จัดเรียงของช่วย" เกี่ยวกับการจัดการอาการในเด็กโรคมะเร็ง พยาบาลต้องการเสริมสร้างครอบครัวให้การทุกข์เกี่ยวกับอาการทุกข์ไม่ควรถือว่าเป็น requisite เพื่อขจัดหมดสิ้นโรคมะเร็ง พยาบาลควรทำงานกับครอบครัวและเด็ก ๆ ผ่อนคลายทุกข์ของพวกเขา ซึ่งรวมถึงพยาบาลเป็นตระหนักถึงกลยุทธ์ที่ใช้เด็กและครอบครัวเพื่อบรรเทาอาการ รวมกลยุทธ์บรรเทาอาการพยาบาลเริ่มต้น ด้วยกลยุทธ์เริ่มเด็ก และครอบครัวจะส่งผลให้เป็นแนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อบรรจุอาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากมุมมองของการปฏิบัติผลการศึกษาที่ให้การสนับสนุนสำหรับพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ ที่จะต้องระมัดระวังมากขึ้นในการประเมินและการจัดการของเด็กประสบการณ์อาการ การดูแลที่ประสบความสำเร็จของเด็กที่มีโรคมะเร็งต้องใช้การประเมินที่ครอบคลุม; อาการทั้งหมดรับประกันความสนใจของพยาบาลโดยไม่คำนึงถึงระดับของผู้ป่วยของความทุกข์ ดังนั้นทุกคนที่ดูแลเด็กที่เป็นโรคมะเร็งจะต้องรู้ทันและพิจารณาทั้งหมดของเด็กประสบการณ์อาการ แม้ว่าเด็กและครอบครัวไม่บ่นของอาการใด ๆ , พยาบาลควรสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่ไม่มีหรือมีอาการที่อาจเกิดขึ้น คำแนะนำที่มุ่งหวังเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการกับอาการ พยาบาลจะต้องระมัดระวังและรอบคอบในการประเมินผลของพวกเขาเด็กประสบการณ์อาการโดยเฉพาะการพิจารณาเด็กในการศึกษาครั้งนี้พบว่าคะแนนอาการของพวกเขาอยู่กับชนิดของระดับการประเมินตนเองใด ๆ ที่ไม่เป็นประโยชน์เสมอ อาศัย แต่เพียงผู้เดียวในการประเมินตนเองตาชั่งขอบเขตความเข้าใจในสิ่งที่เด็กอาจจะเป็นความรู้สึกและอาจจะไม่สามารถที่จะจับภาพอย่างแท้จริงความทุกข์ทรมานของเด็ก ในระหว่างขั้นตอนการประเมินผลผู้ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจความเชื่อและความคาดหวังของเด็กและครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับอาการประสบการณ์และอาการบรรจุ ได้รับการประเมินที่ครอบคลุมเป็นขั้นตอนแรกสำหรับพยาบาลเพื่อส่งเสริมทัศนคติของ "จริงๆมันจะช่วยให้" และไม่ "การจัดเรียงของมันจะช่วยให้" ด้วยความเคารพต่อการจัดการกับอาการในเด็กที่มีโรคมะเร็ง พยาบาลจะต้องเสริมสร้างครอบครัวที่ทุกข์ทรมานในความสัมพันธ์กับอาการความทุกข์ไม่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเอาชนะโรคมะเร็ง พยาบาลควรทำงานร่วมกับครอบครัวและเด็ก ๆ ในการบรรเทาความทุกข์ทรมานของพวกเขา ซึ่งรวมถึงการพยาบาลตระหนักในกลยุทธ์ที่ใช้โดยเด็กและครอบครัวเพื่อบรรเทาอาการ การบูรณาการพยาบาลที่ริเริ่มกลยุทธ์การบรรเทาอาการด้วยกลยุทธ์ child- และครอบครัวเริ่มต้นจะส่งผลให้วิธีการที่ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อควบคุมอาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการฝึกมุมมอง ผลการศึกษาของยืมสนับสนุนสำหรับพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่น ๆที่จะระมัดระวังมากขึ้นในการประเมินและการจัดการกับอาการของเด็ก การดูแลผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งต้องประสบความสําเร็จของการประเมินที่ครอบคลุม ทุกอาการ รับประกันความสนใจโดยพยาบาลไม่ว่าผู้ป่วยระดับของความทุกข์ ดังนั้นทุกคนดูแลเด็กโรคมะเร็งต้องรู้ทันและพิจารณาทั้งหมดของประสบการณ์การมีอาการของเด็ก ถ้าเด็กและครอบครัวไม่บ่นของอาการ พยาบาลควรสอบถามเกี่ยวกับการขาด หรือการแสดงตนของอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ แนะแนวโดยคาดการณ์คือกุญแจสำคัญในการจัดการกับอาการพยาบาลจะต้องระมัดระวังและรอบคอบในการประเมินอาการประสบการณ์ของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในการศึกษานี้พบว่า การประเมินอาการของพวกเขาในประเภทของการประเมินตนเองใด ๆที่ไม่ได้เสมอที่เป็นประโยชน์ ใช้แต่เพียงผู้เดียวในการประเมินตนเองระดับขอบเขตความเข้าใจในสิ่งที่เด็กอาจจะรู้สึกและอาจไม่สามารถอย่างแท้จริงจับเด็กทุกข์ทรมานในระหว่างกระบวนการประเมินผู้ให้บริการสุขภาพจะต้องยืนยันความเชื่อและความคาดหวังของเด็กและครอบครัวที่สัมพันธ์กับประสบการณ์เกี่ยวกับอาการและการแก้ไขอาการ ได้รับการประเมินอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนแรกสำหรับพยาบาลเพื่อส่งเสริมทัศนคติของ " มันช่วยได้จริงๆ " ไม่ใช่ " มันก็ช่วย " เกี่ยวกับการจัดการอาการในผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งพยาบาลจะต้องเสริมสร้างให้ครอบครัวที่ทุกข์กับทุกข์ อาการไม่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเอาชนะโรคมะเร็ง พยาบาลควรทำงานกับเด็กและครอบครัวในการบรรเทาความทุกข์ทรมานของพวกเขา ซึ่งรวมถึง พยาบาลตระหนักถึงกลยุทธ์ที่ใช้โดยเด็กและครอบครัวเพื่อบรรเทาอาการรวมพยาบาลเริ่มบรรเทาอาการกลยุทธ์กับลูกและครอบครัวได้ริเริ่มกลยุทธ์จะมีผลในวิธีการที่ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อควบคุมอาการ