Thermal oxidative stability of red

Thermal oxidative stability of red pepper
(Capsicum annuum) seed oil added with different levels of
capsaicin or tocopherol as antioxidant during heating up to
48 h at 140±5°C was studied. Lipid oxidation of soy and
pepper oil with different levels of capsaicin (0.12, 0.24%)
and tocopherol (0.3, 0.6%) were evaluated during storage at
140°C for 0, 12, 24 and 48 h by monitoring peroxide value
(PV), thiobarbituric acid reactive substances (TBARS) and
chemiluminiscence (CL). Capsaicin content of crude pepper
oil (0.16 mg/ml) was much higher than that of commercial
brands (0.004–0.02 mg/ml). Oleate content was
signifi cantly (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เสถียรภาพออกซิเดชันทางความร้อนของพริกแดงน้ำมันเมล็ด (annuum พริก) เพิ่มระดับความแตกต่างแคปไซซินหรือ tocopherol เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในช่วงร้อนถึงเป็นศึกษา 48 ชั่วโมงที่ 140±5 ° C ออกซิเดชันของไขมันถั่วเหลือง และพริกไทยน้ำมันมีระดับแตกต่างกันของแคปไซซิน (0.12, 0.24%)และ tocopherol (0.3, 0.6%) มีประเมินระหว่างการเก็บรักษาที่140° C เป็นเวลา 0, 12, 24 และ 48 ชั่วโมง โดยการตรวจสอบค่าเปอร์ออกไซด์(PV), thiobarbituric กรดปฏิกิริยาสาร (TBARS) และchemiluminiscence (CL) เนื้อหาของแคปไซซินพริกดิบน้ำมัน (0.16 mg/ml) ได้มากขึ้นกว่าที่พาณิชย์แบรนด์ (0.004-0.02 mg/ml) เนื้อหา oleateความป (p < 0.05) มากกว่าในน้ำมันถั่วเหลือง (53.7%) พริกไทยน้ำมัน (9.5%), อย่างไรก็ตาม linoleate และเนื้อหา linolenateความป (p < 0.05) สูงกว่าในน้ำมันพริก (70.6, 5.8%) มากกว่าในน้ำมันถั่วเหลือง (จีน 25.9, 5.8%) TBARS, PV และ CL น้ำมันพริกไทยมีความป (p < 0.05) ต่ำกว่าน้ำมันถั่วเหลืองหลังทอดค่า TBARS และ CL ของน้ำมันพริกกับระดับต่าง ๆแคปไซซินหรือ tocopherol พบความป (p < 0.05)ค่าที่ต่ำกว่าไม่ถูกรักษาพริกไทยน้ำมันขณะทอด และเก็บของ รักษาค่า TBARS และ CL ของ tocopherol 0.6%พริกไทยน้ำมันที่แสดงให้เห็นว่าความป (p < 0.05) ต่ำกว่าค่าบรรดาน้ำมันถั่วเหลือง การศึกษาแสดงให้เห็นว่า แคปไซซิน และtocopherol อาจมีบทบาทสำคัญในการป้องกันความร้อนออกซิเดชันของน้ำมันพริกระหว่างทอด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เสถียรภาพออกซิเดชันความร้อนของพริกแดง
น้ำมัน (พริกหยวกพริก) เมล็ดเพิ่มที่มีระดับแตกต่างกันของ
capsaicin หรือโทโคฟีรอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในระหว่างการให้ความร้อนได้ถึง
48 ชั่วโมงที่ 140 ± 5 ° C การศึกษา ออกซิเดชันของไขมันของถั่วเหลืองและ
น้ำมันพริกที่มีระดับแตกต่างกันของ capsaicin (0.12, 0.24%)
และโทโคฟีรอ (0.3, 0.6%) ได้รับการประเมินระหว่างการเก็บรักษาที่
140 ° C เป็นเวลา 0, 12, 24 และ 48 ชั่วโมงโดยการตรวจสอบค่าเปอร์ออกไซด์
(PV) กรด thiobarbituric สารปฏิกิริยา (TBARS) และ
chemiluminiscence (CL) เนื้อหาของพริกแคปไซซิน้ำมันดิบ
น้ำมัน (0.16 mg / ml) สูงกว่าที่เชิงพาณิชย์
แบรนด์ (0.004-0.02 mg / ml) เนื้อหา oleate เป็น
นัยอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05) สูงกว่าในน้ำมันถั่วเหลือง (53.7%) มากกว่าพริกไทย
น้ำมัน (9.5%) แต่ linoleate และ linolenate เนื้อหาเป็น
นัยอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05) สูงกว่าในน้ำมันพริกไทย (70.6, 5.8%) กว่า
ในน้ำมันถั่วเหลือง (25.9, 5.8%) TBARS, PV และ CL ของน้ำมันพริกไทย
เป็นนัยอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05) ต่ำกว่าน้ำมันถั่วเหลืองหลังการทอด.
TBARS และค่า CL ของน้ำมันพริกที่มีระดับที่แตกต่างกัน
ของ capsaicin หรือโทโคฟีรอแสดงให้เห็นนัยอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05)
มีค่าต่ำกว่าได้รับการรักษา น้ำมันพริกไทยในระหว่างการทอดและ
การจัดเก็บ TBARS และค่า CL ของโทโคฟีรอรับการรักษา 0.6%
น้ำมันพริกแสดงให้เห็นนัยอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05) มีค่าต่ำกว่า
ผู้ที่น้ำมันถั่วเหลือง การศึกษาแสดงให้เห็นว่า capsaicin และ
โทโคฟีรออาจมีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้ความร้อน
การเกิดออกซิเดชันของน้ำมันพริกไทยในระหว่างการทอด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เสถียรภาพออกซิเดชันเชิงความร้อนของพริก( พริก annuum ) น้ำมันเมล็ดเพิ่มกับระดับต่าง ๆแคปไซซิน หรือ โทโคเฟอรอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระระหว่างความร้อนขึ้น48 ชั่วโมงใน 140 ± 5 °องศาเซลเซียสผลการทดลองพบว่า การออกซิเดชันของไขมันจากถั่วเหลืองและพริกไทย น้ำมันที่มีระดับที่แตกต่างกันของ capsaicin ( 0.12 , 0.24 % )และ โทโคเฟอรอล ( 0.3 , 0.6 % ) มีการประเมินผลในระหว่างการเก็บรักษา ณ140 ° C เป็นเวลา 0 , 12 , 24 และ 48 ชั่วโมง โดยตรวจสอบ ค่าเปอร์ออกไซด์( PV ) เท่ากับกรดปฏิกิริยาสาร ( ปกติ ) และchemiluminiscence ( CL ) แคปไซซิน เนื้อหาหยาบ พริกไทยน้ำมัน ( 0.16 mg / ml ) คือ มาก ขึ้น กว่า ที่ เชิงพาณิชย์ยี่ห้อ ( 0.004 - 0.02 มิลลิกรัม / มิลลิลิตร ) เนื้อหาโอลิเลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อ signifi อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) สูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง ( 53.7 % ) กว่าพริกไทยน้ำมัน ( 9.5% ) , อย่างไรก็ตาม , และเนื้อหาลิโนลีเนตลิโนลิเลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อ signifi ( P < 0.05 ) กลุ่มน้ำมันพริก ( 70.6 , 5.8% ) มากกว่าน้ำมันถั่วเหลือง ( 25.9 , 5.8% ) ปกติ , PV และ CL ของน้ำมันพริกไทยได้ลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อ signifi อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) น้อยกว่าน้ำมันถั่วเหลืองหลังทอดโดยวัดค่าของน้ำมันพริกและ CL ระดับต่างกันของแคปไซซินหรือโทโคเฟอรอลลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อพบ signifi ( P < 0.05 )ลดคุณค่ามากกว่าน้ำมันขณะทอด พริกดิบ และกระเป๋า . โดยวัดค่า CL และ 0.6% โทโคเฟอรอล ปฏิบัติน้ำมันพริกไทยลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อพบ signifi อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) ค่ากว่ากว่าของน้ำมันถั่วเหลือง ผลการวิจัยพบว่า สารแคปไซซิน และโทโคเฟอรอล อาจมีบทบาทสำคัญ เพื่อป้องกันความร้อนออกซิเดชันในน้ำมันพริกทอด