In South Dakota (SD) in 2008, legis

I
n South Dakota (SD) in 2008, legislative efforts were moving forward
to pass a bill allowing unlicensed assistive personnel (UAP)
to administer insulin and provide other diabetes care in the school
setting without nursing oversight. This legislation was prompted by
increasing numbers of children with insulin-dependent diabetes and
concerns from parents regarding less-than-adequate care of children
in schools where nurses were not present (Damgaard & Young, 2014).
The proposed legislation was supported by SD’s Diabetes Educators
Association but opposed by SD’s School Nurses Association, which
expressed concerns regarding the safety of having UAP administer
insulin. In response to the proposed legislation and the concerns,
the SD Board of Nursing (BON) conducted a pilot study to examine
the safety and efficacy of nurses delegating insulin administration to
trained UAP in school settings.
The pilot study, “Virtual Nursing Care for Children with
Diabetes in the School Setting,” was conducted from December 1,
2010, through May 31,2013 (Damgaard & Young, 2014). The study
linked trained UAP in school settings with registered nurses (RNs)
by means of technology. The technology allowed nurses to virtually
delegate and supervise diabetes care tasks, including insulin administration,
to trained UAP. Findings from the study supported the use
of the virtual nurse model of care as a safe and effective method to
supervise and delegate diabetes nursing care tasks to UAP, including
insulin administration. This article provides an update on the progress
of this project, policy changes, and req

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฉันn เซาท์ดาโคตา (SD) ในปี 2008 ประเทศความพยายามได้ก้าวไปข้างหน้าผ่านรายการให้บุคลากรช่วยเหลือใช้ (สตริคแอ)ในการจัดการอินซูลิน และมีโรคอื่น ๆ ในโรงเรียนตั้ง โดยพยาบาลกำกับดูแล กฎหมายนี้ได้รับการพร้อมท์โดยเพิ่มจำนวนเด็กมีอินซูลิน–ขึ้นอยู่กับโรคเบาหวาน และข้อสงสัยจากผู้ปกครองเกี่ยวกับการดูแลเด็กน้อยกว่าเพียงพอในโรงเรียนที่พยาบาลไม่แสดง (Damgaard แอนด์ยัง 2014)กฎหมายที่เสนอรับการสนับสนุนจากนักการศึกษาโรคเบาหวานของ SDแต่ตรงข้ามโดย SD ของโรงเรียนพยาบาลสมาคม สมาคมที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของสตริคแอจัดการอินซูลิน ตอบกฎหมายเสนอและความกังวลSD คณะของพยาบาล (บอน) ดำเนินการศึกษานำร่องการตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของพยาบาลมอบหมายจัดการอินซูลินสตริคแอฝึกในโรงเรียนค่าการศึกษานำร่อง "เสมือนพยาบาลสำหรับเด็กโรคเบาหวานการโรงเรียน ได้ดำเนินการตั้งแต่เดือน 1 ธันวาคม2010 ผ่านอาจ 31,2013 (Damgaard แอนด์ยัง 2014) การศึกษาสตริคแอฝึกเชื่อมโยงในการตั้งค่าเรียนกับพยาบาลลงทะเบียน (RNs)โดยใช้เทคโนโลยีการ เทคโนโลยีที่อนุญาตให้พยาบาลไปจริงมอบหมาย และงานดูแลโรคเบาหวาน อินซูลินดูแล รวมทั้งการกำกับดูแลการฝึกสตริคแอ ผลการวิจัยจากการศึกษาได้รับการสนับสนุนการใช้รุ่นพยาบาลเสมือนหนึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพเพื่อกำกับดูแล และมอบหมายพยาบาลดูแลงานสตริคแอ โรคเบาหวานรวมทั้งบริหารอินซูลิน บทความนี้แสดงการปรับปรุงเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบาย และ req

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฉัน
n South Dakota (SD) ในปี 2008
ความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าจะผ่านการเรียกเก็บเงินที่ช่วยให้บุคลากรที่อำนวยความสะดวกที่ไม่มีใบอนุญาต(UAP)
ที่จะจัดการกับอินซูลินและให้การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานในโรงเรียนการตั้งค่าโดยไม่ต้องกำกับดูแลการพยาบาล
กฎหมายนี้ได้รับแจ้งจากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของเด็กที่มีโรคเบาหวานขึ้นอยู่กับอินซูลินและความกังวลจากผู้ปกครองเกี่ยวกับการดูแลน้อยกว่าที่เพียงพอของเด็กในโรงเรียนที่พยาบาลไม่ได้อยู่(Damgaard & Young, 2014). เสนอกฎหมายได้รับการสนับสนุนจากผู้ป่วยโรคเบาหวาน SD ของ การศึกษาสมาคมแต่ไม่เห็นด้วยโดยโรงเรียน SD ของสมาคมพยาบาลซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการมี UAP จัดการอินซูลิน ในการตอบสนองต่อการเสนอกฎหมายและความกังวลที่คณะกรรมการ SD พยาบาล (BON) ดำเนินการศึกษานำร่องในการตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของพยาบาลมอบหมายการบริหารอินซูลินUAP ผ่านการฝึกอบรมในการตั้งค่าโรงเรียน. การศึกษานำร่อง "พยาบาลเสมือนสำหรับเด็ก มีผู้ป่วยโรคเบาหวานในการตั้งโรงเรียน"ได้ดำเนินการตั้งแต่ 1 ธันวาคม, 2010 ตลอดเดือนพฤษภาคม 31,2013 (Damgaard & Young, 2014) การศึกษาที่เชื่อมโยงผ่านการฝึกอบรมในการตั้งค่า UAP โรงเรียนที่มีพยาบาลวิชาชีพ (RNs) โดยวิธีการของเทคโนโลยี เทคโนโลยีที่ได้รับอนุญาตให้พยาบาลแทบผู้แทนและกำกับดูแลงานด้านการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานรวมทั้งการบริหารอินซูลินเพื่อUAP ผ่านการฝึกอบรม ผลการวิจัยจากการศึกษาได้รับการสนับสนุนการใช้งานของรูปแบบการพยาบาลในการดูแลเสมือนเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการดูแลและมอบหมายงานการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานพยาบาลUAP รวมทั้งการบริหารอินซูลิน บทความนี้จะให้การปรับปรุงเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการนี้การเปลี่ยนแปลงนโยบายและการ REQ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผม
N มลรัฐเซาท์ดาโคตา ( SD ) ในปี 2008 ความพยายามออกกฎหมายย้ายไปข้างหน้า
ผ่านร่างกฎหมายอนุญาตให้บุคลากรการละเมิดลิขสิทธิ์ ( uap )
ให้อินซูลิน และให้ผู้ป่วยอื่น ๆ ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแล
การพยาบาล กฎหมายนี้ถูกแจ้งโดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของเด็กป่วยด้วยโรคเบาหวาน

ขึ้นอยู่กับอินซูลินและความกังวลจากผู้ปกครองเกี่ยวกับน้อยกว่าเพียงพอดูแลเด็ก
ในโรงเรียนที่พยาบาลไม่ได้ปัจจุบัน ( damgaard &หนุ่ม 2014 ) .
ที่เสนอกฎหมายได้รับการสนับสนุนจากสมาคมครู
เบาหวาน SD แต่คัดค้านโดยสมาคมพยาบาลโรงเรียน SD , ซึ่ง
แสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการฉีดอินซูลิน uap
.ในการตอบสนองการเสนอกฎหมาย และความกังวล
SD คณะพยาบาล ( บอน ) ได้ทำการศึกษานำร่องเพื่อศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิผลของหอผู้ป่วย
1

uap อินสุลินได้รับการฝึกฝนในการตั้งค่าโรงเรียน
การศึกษานำร่อง " การพยาบาลเสมือนเด็ก
โรคเบาหวานในสถานศึกษา " คือ ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2553 ถึงพฤษภาคม 312013 (
, damgaard &หนุ่ม2014 ) การศึกษาในโรงเรียน การฝึก uap
เชื่อมโยงกับพยาบาล ( RNs )
โดยใช้เทคโนโลยี เทคโนโลยีได้รับอนุญาตพยาบาลและดูแลงานที่มอบหมายจวน
ดูแลโรคเบาหวานรวมทั้งอินซูลินการบริหาร
เพื่อฝึก uap . ผลการวิจัยจากการศึกษาที่สนับสนุนการใช้ของเสมือนพยาบาล
รูปแบบการดูแลที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพวิธี

ดูแลและมอบหมายงานดูแลผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อ uap รวมทั้ง
อินซูลิน ) บทความนี้แสดงการปรับปรุงในความคืบหน้า
ของโครงการนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายและ Req