The WebQuest model continues to gro

The WebQuest model continues to grow in popularity, with teachers from around the world and many teacher-educators and experts in the field of educational technology espousing its potential to extend content knowledge and promote higher level thinking. While the model is well received by teachers and students alike, most evidence of its effectiveness is anecdotal, and there is very little in the way of empirical research on the elements that make an effective WebQuest. Furthermore, rich descriptions of how students interact during a well-developed WebQuest are largely absent from the literature. In short, the WebQuest model suffers from a lack of scholarly research which may impede practitioners interested in using this approach to design and deliver effective Web-enhanced instruction.
Successful WebQuests must address three pedagogical design challenges: Enhancing students' personal agency beliefs; sustaining student engagement; and, promoting students' deep understanding and critical thinking. This dissertation was a comparative two-case case study that investigated how one cooperative learning method, Jigsaw, was adapted for use with a WebQuest about living with AIDS . The researcher compared two versions of the WebQuest, one with and one without the addition of the Jigsaw method, and showed how they addressed each design challenge.
Feedback from 89 students participating in two undergraduate history classes revealed significant differences by class in the following important areas: Students in the No Jigsaw class were more likely to use a negative statement to describe the quality of interaction with their teammates post-Jigsaw. Students in the Jigsawclass perceived more strengths and fewer weaknesses with the WebQuest than the No Jigsaw class, and shared more positive and fewer negative remarks regarding overall satisfaction with the WebQuest experience. Perhaps most importantly, students in the Jigsaw class spent significantly less time on task post-Jigsaw when controlling for Midterm Score and prior experience with the content domain. Finally, while students from both classes did equally well on the measures of content learned, the results suggested that the students from the Jigsaw classes were more efficient with the time they spent working on the WebQuest task outside of class.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบ WebQuest ยังคงเติบโตในความนิยม กับครูจากทั่วโลก และการหลายครูนักการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา espousing ศักยภาพเพื่อขยายเนื้อหาความรู้ และส่งเสริมความคิดระดับสูง ในขณะที่แบบได้รับดี โดยครูและนักเรียนที่เหมือนกัน หลักฐานส่วนใหญ่ของมันจะเล็ก ๆ และมีน้อยมากทางวิจัยประจักษ์ในองค์ประกอบที่ทำ WebQuest มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ อุดมไปด้วยคำอธิบายของวิธีเรียนโต้ตอบระหว่าง WebQuest พัฒนาห้องพักเป็นส่วนใหญ่ขาดจากวรรณคดี ในระยะสั้น แบบ WebQuest suffers จากการขาดวิจัย scholarly ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางผู้ที่สนใจในการใช้วิธีการนี้การออกแบบ และมีประสิทธิภาพสนับสนุนเว็บสั่งได้
WebQuests ประสบความสำเร็จต้องอยู่ความท้าทายการออกแบบการสอนสาม: เพิ่มนักเรียนหน่วยงานส่วนบุคคลความเชื่อ ความผูกพันของนักเรียนอยู่ได้ ก ส่งเสริมความเข้าใจลึกและวิจารณญาณของนักเรียน วิทยานิพนธ์นี้เป็นการเปรียบเทียบสองกรณีกรณีศึกษาที่ตรวจสอบสหกรณ์การเรียนวิธี จิ๊กซอว์ ถูกปรับใช้ WebQuest เกี่ยวกับชีวิตด้วยโรคเอดส์ นักวิจัยเปรียบเทียบสองรุ่น WebQuest กับไม่เพิ่มวิธีจิ๊กซอว์ และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในความท้าทายการออกแบบแต่ละกัน
ความคิดเห็นจากนักเรียน 89 มีส่วนร่วมในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ระดับปริญญาตรีที่สองเปิดเผยความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ โดยในพื้นที่สำคัญต่อไปนี้: นักเรียนในคลาสจิ๊กซอว์ไม่มีแนวโน้มที่จะใช้คำสั่งลบจะอธิบายถึงคุณภาพของการโต้ตอบกับจิ๊กซอว์หลังเพื่อนร่วมทีมของพวกเขา นักเรียน Jigsawclass การรับรู้เพิ่มเติมจุดแข็งและจุดอ่อนน้อยลง ด้วย WebQuest ที่กว่าคลาจิ๊กซอว์ไม่ และร่วมบวกเพิ่มเติม และข้อสังเกตลบน้อยลงความพึงพอใจโดยรวมกับ WebQuest พบ ทีสำคัญที่สุด นักเรียนในชั้นเรียนจิ๊กซอว์ใช้เวลาน้อยมากในงานจิ๊กซอว์หลังเมื่อการควบคุมโดเมนเนื้อหาประสบการณ์ก่อนหน้าและคะแนนสอบกลาง สุด ขณะที่นักเรียนจากทั้งชั้นเรียนได้ดีเท่า ๆ กันบนวัดเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ ผลแนะนำว่า นักเรียนจากชั้นเรียนของจิ๊กซอว์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเวลาที่พวกเขาใช้เวลาทำงานนอกห้องเรียน WebQuest

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รุ่น WebQuest ยังคงเติบโตในความนิยมกับครูจากทั่วโลกและครูการศึกษาจำนวนมากและผู้เชี่ยวชาญในสาขาเทคโนโลยีการศึกษา espousing มีศักยภาพในการขยายความรู้ในเนื้อหาและส่งเสริมการคิดระดับที่สูงขึ้น ในขณะที่รูปแบบที่ได้รับอย่างดีจากครูและนักเรียนเหมือนกันมากที่สุดหลักฐานของความมีประสิทธิผลที่เป็นประวัติและมีน้อยมากในทางของการวิจัยเชิงประจักษ์ในองค์ประกอบที่ทำให้ WebQuest ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยรายละเอียดของวิธีการที่นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่าง WebQuest มีการพัฒนาส่วนใหญ่จะมาจากวรรณกรรม ในระยะสั้นแบบ WebQuest ทนทุกข์ทรมานจากการขาดการวิจัยเชิงวิชาการซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานที่สนใจในการใช้วิธีการนี้ในการออกแบบและส่งมอบการเรียนการสอนบนเว็บที่มีประสิทธิภาพเพิ่ม
WebQuests ที่ประสบความสำเร็จจะต้องอยู่สามท้าทายในการออกแบบการสอน: การเสริมสร้างให้นักเรียนมีความเชื่อหน่วยงานส่วนบุคคล ยั่งยืนมีส่วนร่วมของนักศึกษา และการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจของนักเรียนและความคิดอย่างมีวิจารณญาณ ฉบับนี้เป็นกรณีศึกษาทั้งสองกรณีเปรียบเทียบวิธีการตรวจสอบว่าวิธีการเรียนรู้หนึ่งสหกรณ์จิ๊กซอว์ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานกับ WebQuest เกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่กับโรคเอดส์ นักวิจัยเปรียบเทียบสองรุ่น WebQuest หนึ่งมีและเป็นหนึ่งโดยไม่ต้องนอกเหนือจากวิธีการจิ๊กซอว์และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาที่แต่ละความท้าทายในการออกแบบ
ผลตอบรับจากนักเรียนที่เข้าร่วม 89 ในสองชั้นเรียนประวัติศาสตร์ในระดับปริญญาตรีพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญโดยการเรียนในพื้นที่ที่สำคัญดังต่อไปนี้ : นักศึกษาในชั้นเรียนไม่มีจิ๊กซอว์มีแนวโน้มที่จะใช้คำสั่งลบอธิบายคุณภาพของการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีมของพวกเขาโพสต์จิ๊กซอว์ นักเรียนใน Jigsawclass รับรู้จุดแข็งและจุดอ่อนมากขึ้นน้อยลงด้วย WebQuest กว่าชั้นไม่มีจิ๊กซอว์และที่ใช้ร่วมกันคำพูดเชิงลบบวกมากขึ้นและน้อยลงเกี่ยวกับความพึงพอใจโดยรวมที่มีประสบการณ์ WebQuest บางทีสิ่งสำคัญที่สุดนักเรียนในชั้นเรียนของจิ๊กซอว์ใช้เวลาอย่างมีนัยสำคัญน้อยลงในงานโพสต์เมื่อจิ๊กซอว์การควบคุมกลางภาคคะแนนและประสบการณ์ก่อนกับโดเมนเนื้อหา ในที่สุดขณะที่นักเรียนจากชั้นเรียนทั้งสองได้อย่างเท่าเทียมกันทั้งเกี่ยวกับมาตรการของเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ผลการชี้ให้เห็นว่านักเรียนจากชั้นเรียนจิ๊กซอว์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเวลาที่พวกเขาใช้เวลาทำงานในงาน WebQuest นอกชั้นเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบบเว็บเควสท์ยังคงเติบโตในความนิยม กับครูจากทั่วโลกและนักการศึกษาครูมากมาย และผู้เชี่ยวชาญในสาขาเทคโนโลยีการศึกษา espousing ศักยภาพที่จะขยายเนื้อหาความรู้ และส่งเสริมการคิดในระดับที่สูงขึ้น ในขณะที่รูปแบบเป็นอย่างดีจากครูและนักเรียนเหมือนกัน หลักฐานส่วนใหญ่ของประสิทธิผล จดและมีมากน้อยในทางของการวิจัยเชิงประจักษ์เกี่ยวกับองค์ประกอบที่ทำให้เว็บเควสท์ที่มีประสิทธิภาพ . นอกจากนี้ คำอธิบายมากมายว่านักเรียนโต้ตอบระหว่างการพัฒนาบทเรียนแสวงขาดไปจากวรรณคดี ในสั้นแบบเว็บเควสท์ทนทุกข์ทรมานจากการขาดการวิจัยทางวิชาการซึ่งอาจขัดขวางผู้ที่สนใจในการใช้วิธีการนี้เพื่อออกแบบและส่งมอบที่มีประสิทธิภาพเว็บปรับปรุงการเรียนการสอน .
webquests ประสบความสำเร็จต้องอยู่สามความท้าทายการออกแบบการสอน : การส่งเสริมความเชื่อส่วนบุคคลของนักเรียนตัวแทนนักเรียนหมั้น ; ยั่งยืน ; และส่งเสริมผู้เรียนให้เข้าใจลึกและวิจารณญาณวิทยานิพนธ์ฉบับนี้เป็นการเปรียบเทียบ 2 กรณี กรณีหนึ่งที่ศึกษาวิธีการเรียนแบบร่วมมือแบบจิ๊กซอว์ ที่ถูกดัดแปลงเพื่อใช้กับเว็บเควสท์เกี่ยวกับเอดส์ . เมื่อเปรียบเทียบสองรุ่นของเว็บเควสท์ หนึ่ง และหนึ่ง โดยไม่มีการเพิ่มของจิ๊กซอว์วิธีและพบว่าพวกเขาให้ความสนใจกัน
ออกแบบท้าทายความคิดเห็นจากนักเรียนที่เข้าร่วมในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ 89 2 ระดับปริญญาตรี พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ โดยในระดับต่อไปนี้สำคัญพื้นที่ : นักเรียนในชั้นเรียนไม่มีจิ๊กซอว์มีแนวโน้มที่จะใช้สั่งลบเพื่ออธิบายคุณภาพของการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีมหลังจิ๊กซอว์นักเรียนใน jigsawclass รับรู้จุดแข็งและจุดอ่อนน้อยลงกับเว็บเควสท์กว่าไม่มีจิ๊กซอว์คลาส และเป็นบวกมากขึ้นและน้อยลงความเห็นด้านลบเกี่ยวกับความพึงพอใจโดยรวมกับประสบการณ์เว็บเควสท์แบ่งปัน บางทีที่สำคัญที่สุดนักเรียนในชั้นเรียนจิ๊กซอว์ใช้เวลาน้อยกว่าในการโพสต์งานจิ๊กซอว์เมื่อการควบคุมสำหรับคะแนนสอบกลางภาคและประสบการณ์กับเนื้อหาโดเมน ในที่สุด ขณะที่นักเรียนทั้งชั้นเรียนก็เท่าเทียมกันดีในมาตรการของ เนื้อหาที่เรียนผลการศึกษาพบว่า นักศึกษาจากจิ๊กซอว์การเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเวลาที่พวกเขาใช้เวลาทำงานบนเว็บเควสท์

งานนอกชั้นเรียน