shows the typical geometry of the s

shows the typical geometry of the slitting method with a back surface strain gauge. The strain gauges bonded on the back surface of the stressed part directly opposite the slit are sensitive to all residual stress within the specimen thickness and thus generally used for through-thickness measurements. However, the strain gauges bonded on the top surface near the slit are only sensitive to near surface residual stress (usually up to 20–25% of the thickness) and therefore are appropriate for near surface measurements. In this research, back surface strain gauges were used.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แสดงเรขาคณิตทั่วไปของวิธีการตัดกับวัดต้องใช้กลับผิว มาตรวัดต้องใช้ที่ถูกผูกมัดบนผิวหลังของเครียดตรงข้ามร่องมีความไวต่อความเครียดที่เหลือทั้งหมดภายในความหนาของสิ่งส่งตรวจ และดังนั้น โดยทั่วไปใช้สำหรับการประเมินถึงความหนา อย่างไรก็ตาม เกจต้องใช้ถูกผูกมัดบนพื้นผิวด้านใกล้ร่องมีเฉพาะสำคัญใกล้ความเครียดตกค้างผิว (ปกติถึง 20-25% ของความหนา) และจึง เหมาะสมสำหรับใกล้วัดพื้นผิว ในงานวิจัยนี้ กลับพื้นผิวที่ใช้ต้องใช้มาตรวัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แสดงให้เห็นรูปทรงเรขาคณิตตามแบบฉบับของวิธีการตัดกับพื้นผิวด้านหลังวัดความเครียด มาตรวัดความเครียดผูกมัดบนพื้นผิวด้านหลังของส่วนที่เน้นตรงข้ามช่องมีความไวต่อความเครียดทั้งหมดที่เหลืออยู่ภายในความหนาของชิ้นงานและทำให้การใช้โดยทั่วไปสำหรับการตรวจวัดความหนาผ่าน แต่มาตรวัดความเครียดผูกมัดบนพื้นผิวด้านบนที่อยู่ใกล้ช่องเป็นเพียงความไวต่อพื้นผิวใกล้ความเค้นตกค้าง (ปกติถึง 20-25% ของความหนา) และดังนั้นจึงมีความเหมาะสมสำหรับการตรวจวัดที่อยู่ใกล้พื้นผิว ในงานวิจัยนี้สเตรนเกจพื้นผิวกลับถูกนำมาใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แสดงโดยทั่วไปเรขาคณิตของการตัดด้วยวิธีพื้นผิวเมื่อยหลังวัด ความเครียดมาตรวัดที่อยู่บนด้านหลังของพื้นผิวเน้นส่วนที่ตรงข้ามกับช่องต่อทั้งหมดความเค้นที่ตกค้างภายในชิ้นงานความหนาและดังนั้นโดยทั่วไปจะใช้สำหรับผ่านการวัดความหนา อย่างไรก็ตามความเครียดมาตรวัดผูกบนพื้นผิวด้านบนใกล้กรีดแค่อ่อนไหวไปใกล้ความเค้นตกค้างผิว ( ปกติถึง 20 - 25 % ของความหนา ) และดังนั้นจึงเป็นวัดใกล้พื้นผิวที่เหมาะสมสำหรับ ในการวิจัยนี้ กลับมาผิวความเครียดมาตรวัดแบบ