The objective of the study was the

The objective of the study was the estimation of the ultrasound-assisted preliminary maceration effect on the efficiency of essential oil distillation and on its qualitative and quantitative composition. The experiment included analyses on three herbal materials, i.e. peppermint leaves (Mentha piperita L.), marjoram herb (Origanum majorana L.), and chamomile flowers (Chamomilla recutita (L.) Rauschert). The study showed that the application of preliminary water maceration of raw material, augmented with ultrasounds, had a statistically significant increasing effect on the amount of oil distilled, in the case of mint leaf from 1.32% to 1.46% v/w, and in the case of marjoram herb from 1.13% to 1.27% v/w. In the case of chamomile flowers no significant effect of ultrasound on the amount of oil obtained was observed. Generally, comparing the composition of essential oils obtained in the experiments with the requirements of the relevant standards no unfavourable effect of the distillation augmenting techniques applied was noted. Therefore, it should be expected that the studied distillates of volatile fractions will have the desired biological activity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาเป็นการประเมินผลอัลตร้าซาวด์ช่วย maceration เบื้องต้น กับประสิทธิภาพของการกลั่นน้ำมัน และองค์ประกอบเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณของ ทดลองรวมวิเคราะห์สามวัสดุสมุนไพร เช่นใบเปปเปอร์มินท์ (Mentha piperita L.), marjoram สมุนไพร (Origanum majorana L.), และดอกไม้ดอก (Chamomilla recutita (L.) Rauschert) การศึกษาพบว่าแอพลิเคชันของ maceration เบื้องต้นน้ำดิบ ออกเมนต์กับ ultrasounds มีผลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติยอดการกลั่นน้ำมัน ในกรณี ของใบมินท์จาก 1.32% 1.46% v/w และในกรณี ของสมุนไพร marjoram จาก 1.13% 1.27% v/w ในกรณีของดอกไม้ดอก ไม่สำคัญผลของลอัลตร้าซาวด์จำนวนน้ำมันที่ได้รับถูกดำเนินการ ทั่วไป เปรียบเทียบส่วนประกอบของน้ำมันหอมที่ได้รับในการทดลองกับข้อกำหนดของมาตรฐานที่เกี่ยวข้องไม่ผล unfavourable ของกลั่นอีกเทคนิคที่ใช้ได้ตั้งข้อสังเกต ดังนั้น มันควรคาดหวังว่า distillates studied ของเศษส่วนที่ระเหยจะมีกิจกรรมชีวภาพต้องการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือการประมาณค่าของผลกระทบยุ่ยเบื้องต้นอัลตราซาวนด์ช่วยประสิทธิภาพของการกลั่นน้ำมันหอมระเหยและองค์ประกอบเชิงปริมาณและคุณภาพของ การทดลองรวมถึงการวิเคราะห์เกี่ยวกับสามวัสดุสมุนไพรเช่นใบสะระแหน่ (Mentha piperita L. ), สมุนไพรมินท์ (Origanum Majorana L. ) และดอกไม้ดอกคาโมไมล์ (Chamomilla recutita (L. ) Rauschert) การศึกษาพบว่าการประยุกต์ใช้ยุ่ยน้ำเบื้องต้นของวัตถุดิบที่เสริมเข้ากับ ultrasounds, มีผลกระทบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับปริมาณของน้ำมันกลั่นในกรณีของใบมิ้นท์จาก 1.32% เป็น 1.46% โวลต์ / w และใน กรณีของสมุนไพรมินท์จาก 1.13% เป็น 1.27% v / w ในกรณีของดอกไม้ดอกคาโมไมล์ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของอัลตราซาวด์กับปริมาณของน้ำมันที่ได้พบว่า โดยทั่วไปการเปรียบเทียบองค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับในการทดลองกับความต้องการของมาตรฐานที่เกี่ยวข้องที่ไม่มีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ของการกลั่นเพิ่มเทคนิคการใช้เป็นข้อสังเกต ดังนั้นจึงควรจะคาดหวังว่าการศึกษาการกลั่นของเศษส่วนระเหยจะมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่ต้องการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือ การประมาณผลอัลตราซาวด์ช่วยระยะเวลาเบื้องต้นในประสิทธิภาพของการกลั่นน้ำมันหอมระเหยและในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณขององค์ประกอบ การทดลองรวมวิเคราะห์สามวัตถุดิบสมุนไพร เช่น สะระแหน่ ใบ ( mentha piperita L . ) , ต้นมาเจอแรม สมุนไพร ( Origanum majorana L . ) และดอกคาโมมายด์ ( คาโมมิลลา recutita ( L) rauschert ) การศึกษาพบว่า การทำให้เปื่อยน้ำเบื้องต้นของวัตถุดิบ จนถึงกับ ultrasounds มีนัยสำคัญทางสถิติเพิ่มผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันกลั่น ในกรณีของใบสะระแหน่จาก 1.32 ร้อยละ 1.46 % v / W และในกรณีของต้นมาเจอแรมสมุนไพรจาก 1.13 % 1.27 % v / Wในกรณีของดอกคาโมมายด์ ไม่พบผลอัลตราซาวด์ในน้ำมันได้ถูกสังเกต โดยทั่วไปการเปรียบเทียบองค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหยที่ได้ในการทดลองกับความต้องการของมาตรฐานที่เกี่ยวข้องไม่มีผลดำเนินงานของการกลั่น augmenting เทคนิคที่ใช้เป็นข้อสังเกต . ดังนั้นมันควรจะคาดหวังว่าจากการวิเคราะห์ของเศษส่วนที่ต้องการระเหยจะมีกิจกรรมทางชีวภาพ .