Several researchers have reported t

Several researchers have reported that diet is strongly associated with a broad range of human diseases, including cancers (Sugimura, 2002). The public considers cancer a potentially life-threatening disease that affects people of all ages (Lynch, Murray, Gooderham, & Boobies, 1995), and cancers are the second leading cause of death worldwide, after cardiovascular diseases (Oliveira et al., 2007). Heterocyclic amines (HCAs) are mutagenic and carcinogenic compounds that are present at parts per billion levels in cooked muscle foods. The three main precursors of HCA formation are the creatine/creatinine, sugars, and amino acids originally found in muscle foods. The most common HCAs found in foods are the thermic HCAs, which include 2-amino-3-methyl-imidazo [4,5-f]quinoline (IQ), 2-amino-3-methylimidazo [4,5-f]quinoxaline (IQx), 2-amino-3,4-dimethylimidazo [4,5-f]quinoline (MeIQ), 2-amino-3,8-dimethylimidazo [4,5-f]quinoxaline (MeIQx), and 2-amino-1-methyl-6-phenylimidazo [4,5-b]pyridine (PhIP) ( Knize, Dolbeare, Carroll, Moore, & Felton, 1994). Four of these HCAs (IQ, MeIQ, MeIQx and PhIP) are listed in the U.S. Department of Health and Human Services' 11th Report of Carcinogens (2005) as compounds reasonably anticipated to be a human carcinogen. The International Agency for Research on Cancer (1993) categorized MeIQ, MeIQx, and PhIP as reasonably anticipated to be a human carcinogen and IQ as a probable human carcinogen. Epidemiological studies have shown that dietary intake of HCAs through consumption of cooked meat products increased the risk of stomach, colon, and breast cancers in humans ( Kampman, Slattery, Bigler, Leppert, & Samowitz, 1999).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิจัยหลายมีรายงานว่า อาหารที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับหลากหลายของโรคในมนุษย์ รวมถึงโรคมะเร็ง (Sugimura, 2002) ประชาชนพิจารณามะเร็งโรคอาจชีวิตอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกเพศทุกวัย (Lynch เมอร์เรย์ Gooderham และ Boobies, 1995), และโรคมะเร็งเป็นสาเหตุที่สองของการเสียชีวิตทั่วโลก หลังจากโรคหัวใจและหลอดเลือด (Oliveira et al., 2007) ๔๒๓ amines (HCAs) คือ สารประกอบ mutagenic และ carcinogenic ที่อยู่ปัจจุบันในส่วนต่อพันล้านระดับอาหารกล้ามเนื้อสุก Precursors หลักสามของ HCA ก่อ นื้คือ/creatinine น้ำตาล และกรดอะมิโนที่พบในกล้ามเนื้ออาหารเดิม HCAs ทั่วไปที่พบในอาหารมี HCAs thermic ซึ่งรวม ถึง 2-อะมิโน-3-methyl-imidazo [4,5-f] quinoline (IQ), quinoxaline [4,5-f] 2-อะมิโน-3-methylimidazo (IQx), 2-อะมิโน 3, 4-dimethylimidazo [4,5-f] quinoline (MeIQ), 2-อะมิโน-3,8-dimethylimidazo [4,5-f] quinoxaline (MeIQx), 2-amino-1-methyl-6-phenylimidazo [4,5-b] pyridine (PhIP) (Knize, Dolbeare คาร์ มัวร์ และเฟล ตัน 1994) สี่ HCAs นี้ (IQ, MeIQ, MeIQx และ PhIP) แสดงไว้ในสหรัฐฯ ฝ่ายของสุขภาพและมนุษยชนบริการ' 11 รายงานของสารก่อมะเร็ง (2005) เป็นสารประกอบที่สมเหตุสมผลที่คาดว่าจะเป็นสารก่อมะเร็งที่มนุษย์ หน่วยงานนานาชาติเพื่อการวิจัยมะเร็ง (1993) แบ่ง MeIQ, MeIQx และ PhIP เป็นสมเหตุสมผลที่คาดว่าจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์และ IQ เป็นสารก่อมะเร็งมนุษย์ดำรง ความได้แสดงว่าบริโภคอาหารของ HCAs ผ่านการใช้เนื้อสัตว์ปรุงสุก ผลิตภัณฑ์เพิ่มความเสี่ยง ของกระเพาะ ลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านมในมนุษย์ (Kampman, Slattery, Bigler, Leppert, & Samowitz, 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิจัยหลายคนได้รายงานว่าการรับประทานอาหารที่มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับความหลากหลายของโรคของมนุษย์รวมทั้งการเกิดโรคมะเร็ง (Sugimura, 2002) ประชาชนคิดว่าโรคมะเร็งเป็นโรคที่อาจคุกคามชีวิตที่มีผลต่อคนทุกเพศทุกวัย (ลินช์เมอร์เร Gooderham และเต้า, 1995) และโรคมะเร็งเป็นสาเหตุที่สองของการเสียชีวิตทั่วโลกหลังจากที่โรคหัวใจและหลอดเลือด (Oliveira et al., 2007 ) เอมีน heterocyclic (HCAs) เป็นสารประกอบก่อกลายพันธุ์และสารก่อมะเร็งที่มีอยู่ในส่วนต่อพันล้านระดับในอาหารที่ปรุงสุกของกล้ามเนื้อ สามสารตั้งต้นหลักของการก่อ HCA มีรี / การ creatinine น้ำตาลและกรดอะมิโนที่พบในอาหารของกล้ามเนื้อ HCAs ที่พบมากที่สุดที่พบในอาหารเป็น HCAs ร้อนซึ่งรวมถึง 2 อะมิโน-3-methyl-imidazo [4,5-F] quinoline (IQ) 2 อะมิโน 3 methylimidazo [4,5-F] quinoxaline (IQx) 2 อะมิโน 3,4-dimethylimidazo [4,5-F] quinoline (MeIQ) 2 อะมิโน 3,8-dimethylimidazo [4,5-F] quinoxaline (MeIQx) และ 2 อะมิโน -1-methyl-6-phenylimidazo [4,5-b] ไพริดีน (PhIP) (Knize, Dolbeare แครอลมัวร์และเฟลตัน, 1994) สี่เหล่านี้ HCAs (ไอคิว MeIQ, MeIQx และ PhIP) มีการระบุไว้ในสหรัฐอเมริกากรมอนามัยและบริการมนุษย์รายงาน 11 ของสารก่อมะเร็ง (2005) เป็นสารประกอบที่คาดว่าจะมีเหตุผลที่จะเป็นสารก่อมะเร็งของมนุษย์ หน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (1993) แบ่ง MeIQ, MeIQx และ PhIP ตามที่คาดไว้พอสมควรที่จะเป็นสารก่อมะเร็งของมนุษย์และไอคิวเป็นสารก่อมะเร็งของมนุษย์น่าจะเป็น การศึกษาระบาดวิทยาได้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคอาหารของ HCAs ผ่านการบริโภคผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกเพิ่มความเสี่ยงของกระเพาะอาหารลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมในมนุษย์ (Kampman, Slattery, Bigler, Leppert และ Samowitz, 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิจัยหลายคนได้รายงานว่าอาหารจะเกี่ยวข้องอย่างมากกับช่วงกว้างของโรคของมนุษย์ รวมทั้งมะเร็ง ( ซูกิมูระ , 2002 ) ประชาชนคิดว่าโรคมะเร็งอาจถึงชีวิตได้ โรคที่มีผลต่อคนทุกเพศทุกวัย ( ลินช์ , เมอร์เรย์ , Gooderham & , นม , 1995 ) และมะเร็งสองสาเหตุของการตายทั่วโลก หลังจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ( Oliveira et al . ,2007 ) heterocyclic amines ( hcas ) เป็นสารก่อกลายพันธุ์ และสารก่อมะเร็ง สารที่มีอยู่ในส่วนต่อพันล้านระดับอาหารปรุงกล้ามเนื้อ หลักสามรูปแบบของ HCA สารตั้งต้นเป็น Creatine / ครี น้ำตาล และกรดอะมิโนพบว่าเดิมในอาหารของกล้ามเนื้อ การ hcas ที่พบมากที่สุดที่พบในอาหารเป็น hcas thermic ซึ่งรวมถึง 2-amino-3-methyl-imidazo [ 4,5-f ] ควิโนลีน ( IQ )2-amino-3-methylimidazo [ 4,5-f ] ควินอกซาลีน ( iqx ) 2-amino-3,4-dimethylimidazo [ 4,5-f ] ควิโนลีน ( meiq ) 2-amino-3,8-dimethylimidazo [ 4,5-f ] ควินอกซาลีน ( meiqx ) และ 2-amino-1-methyl-6-phenylimidazo [ 4,5-b ] ไพริดีน ( phip ) ( knize dolbeare ) , , มัวร์ , &เฟลตัน , 1994 ) 4 hcas เหล่านี้ ( IQ , meiq meiqx , และ phip ) อยู่ในสหรัฐอเมริกากรมสุขภาพและบริการมนุษย์ ' 11 รายงานสารก่อมะเร็ง ( 2005 ) เป็นสารประกอบที่เหมาะสมคาดว่าจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ หน่วยงานวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ ( 1993 ) แบ่ง meiq meiqx , และ phip พอสมควร คาดว่าเป็นมนุษย์เป็นสารก่อมะเร็งและไอคิวเป็นน่าจะเป็นมนุษย์ สารก่อมะเร็งการศึกษาระบาดวิทยาได้แสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารของ hcas ผ่านการบริโภคเนื้อสัตว์ปรุงสุกผลิตภัณฑ์เพิ่มความเสี่ยงของกระเพาะอาหาร ลำไส้ และเต้านมโรคมะเร็งในมนุษย์ ( kampman สลาเทอรี่ ไบเกอเลอร์เลปเพิร์ต , , , , samowitz & , 1999 )