How Do Power Plant Emissions Impact

How Do Power Plant Emissions Impact
the Environment?
SO2 and NOx emissions react in the atmosphere to form acidic
compounds that harm lakes and streams. When the acidic
compounds that are formed as a result of SO2 and NOx emissions
are deposited to the earth’s surface, they can acidify lakes and
streams. Acidification (low pH) and the chemical changes that
result, including higher aluminum levels, make it difficult for some
fish and other aquatic species to survive, grow, and reproduce.
In the 1980s, acid rain was found to be the dominant cause of
acidification in 75% of acidic lakes and 50% of acidic streams.
Areas especially sensitive to acidification include portions of the
Northeast (particularly the Adirondack and Catskill Mountains,
portions of New England, and streams in the mid-Appalachian
highlands) and Southeastern streams. Today in the Adirondack
Mountains, Appalachian plateau, and upper Midwest regions, there
are 25-30% fewer chronically acidic lakes and streams than in the
early 1990s, although these waterbodies remain sensitive to acid
rain. Lakes and streams in New England and the Southeast showed
little decrease in acidification throughout the 1990s.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีพลังงานผลกระทบมลพิษโรงงานสิ่งแวดล้อมตอบสนองต่อปล่อย SO2 และ NOx ในบรรยากาศแบบฟอร์มที่เป็นกรดสารที่เป็นอันตรายต่อทะเลสาบและลำธาร เมื่อความเป็นกรดสารประกอบที่เกิดขึ้นจากการปล่อยก๊าซ SO2 และ NOxฝากไปยังพื้นผิวโลก พวกเขาสามารถ acidify ทะเลสาบ และกระแสการ ยู (ค่า pH ต่ำ) และสารเคมีที่เปลี่ยนแปลงผล ระดับสูงอลูมิเนียม ทำให้ยากสำหรับบางคนปลาและพันธุ์สัตว์น้ำอื่น ๆ เพื่อความอยู่รอด เติบโต และซ้ำในทศวรรษ 1980 ฝนกรดพบว่าเป็นสาเหตุหลักของยูใน 75% ของทะเลสาบเป็นกรดและ 50% ของกระแสที่เป็นกรดพื้นที่สำคัญการยูรวมส่วนของการตะวันออกเฉียงเหนือ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดิรอนแด็กและภูเขา Catskillส่วนของอังกฤษใหม่ และลำธารในที่กลาง-Appalachianไฮแลนด์) และกระแสตะวันออกเฉียงใต้ ในอดิรอนแด็กวันนี้ภูเขา ที่ราบสูง Appalachian และบนมิดเวสต์ ภูมิภาค มี25-30% เป็นกรดเรื้อรังทะเลสาบและลำธารกว่าในน้อยกว่าช่วงปี 1990 แม้ว่า waterbodies เหล่านี้ยังคงมีความไวต่อกรดฝนตก ทะเลสาบและลำธารในนิวอิงแลนด์และตะวันออกเฉียงใต้ที่พบลดน้อยลงยูตลอดปี 1990

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการปล่อยมลพิษโรงไฟฟ้าทำผลกระทบต่อ
สิ่งแวดล้อม?
SO2 และการปล่อยก๊าซ NOx ตอบสนองในบรรยากาศในรูปแบบที่เป็นกรด
สารที่เป็นอันตรายต่อทะเลสาบและลำธาร เมื่อเป็นกรด
สารประกอบที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจาก SO2 และ NOx การปล่อยก๊าซ
จะฝากไปยังพื้นผิวของโลกที่พวกเขาสามารถทำให้เป็นกรดทะเลสาบและ
ลำธาร เป็นกรด (pH ต่ำ) และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่
ส่งผลให้รวมทั้งระดับอลูมิเนียมที่สูงขึ้นทำให้มันยากสำหรับบาง
ปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ เพื่อความอยู่รอดเติบโตและสืบพันธุ์.
ในช่วงปี 1980 ฝนกรดที่พบว่าเป็นสาเหตุที่โดดเด่นของ
กรด ใน 75% ของทะเลสาบที่เป็นกรดและ 50% ของลำธารที่เป็นกรด.
พื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความไวต่อกรดรวมถึงบางส่วนของ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โดยเฉพาะแด็และเทือกเขา Catskill,
บางส่วนของนิวอิงแลนด์และลำธารในช่วงกลางแนว
ที่ราบสูง) และลำธารตะวันออกเฉียงใต้ วันนี้ในแด็ค
ภูเขาที่ราบสูงแนวและภูมิภาคมิดเวสต์บนมี
เป็น 25-30% น้อยกว่าที่เป็นกรดเรื้อรังทะเลสาบและลำธารกว่าใน
ช่วงปี 1990 ถึงแม้ว่าแหล่งน้ำเหล่านี้ยังคงมีความไวต่อกรด
ฝน ทะเลสาบและลำธารในนิวอิงแลนด์และตะวันออกเฉียงใต้พบว่ามี
การลดลงเพียงเล็กน้อยในกรดตลอดทั้งปี 1990

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีทำโรงไฟฟ้าก๊าซผลกระทบสิ่งแวดล้อม ?และการปล่อย NOx SO2 ทำปฏิกิริยาในบรรยากาศแบบเปรี้ยวสารประกอบที่อันตราย lakes และกระแสข้อมูล เมื่อกรดสารประกอบที่มีเกิดขึ้นเป็นผลของการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนโตรเจนออกไซด์จะฝากถึงพื้นผิวโลก พวกเขาสามารถเปลี่ยนเป็นกรดและทะเลสาบลำธาร กรด ( pH ต่ำ ) และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ผล รวมทั้งสูงกว่าระดับอลูมิเนียม ทำให้มันยากสำหรับบางปลาและสัตว์น้ำชนิดอื่นที่จะอยู่รอด เติบโต และทำซ้ำในช่วงปี 1980 , ฝนกรดได้เด่นเพราะของกรดใน 75% ของทะเลสาบที่เป็นกรด และ 50 % ของกระแสที่เป็นกรดพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวเป็นกรด ได้แก่ ส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งแด็คภูเขา Catskill ,ส่วนของอังกฤษ และลำธารกลางเชียนไฮแลนด์ ) และกระแสอาคเนย์ . วันนี้ในแด็คเทือกเขาแอปพาเลเชียนที่ราบสูงและ Upper Midwest ภูมิภาคมีเป็น 25-30% น้อยลง " เปรี้ยวทะเลสาบและลำธารกว่าในช่วงต้นทศวรรษ 1990 แม้ว่า waterbodies เหล่านี้ยังคงอ่อนไหวกับกรดฝน ทะเลสาบและลำธารในนิวอิงแลนด์และตะวันออกเฉียงใต้ พบเล็ก ๆน้อย ๆลดกรดตลอดทศวรรษที่ 1990