Economic policies[edit]Abdullah Bad

Economic policies[edit]
Abdullah Badawi declared an end to the economic legacy and grandiose projects of his predecessor, Mahathir Mohamad, during the 57th UMNO General Assembly. He told delegates that he would not pursue the economic strategies adopted two decades ago by Mahathir.

He said that in the past, wealth was generated not by innovation and creativity, but by foreign investment, government contracts, and privatisation.

Agriculture and biotechnology are some of the highlighted issues in 9MP that the government believes such sectors are still able to generate wealth for many Malaysians, especially those in rural areas.

In late 2005, Badawi successfully led Malaysia into a historic free trade agreement with Japan enabling the two countries to scrap tariffs on essentially all industrial goods and most agricultural, forestry and fishery products within a decade.[11]

Under the Abdullah Badawi administration, the country is moving down to a value chain economy by developing its inherent strengths in agriculture without losing its existing manufacturing base.[12] However, Abdullah has been criticised as to his handling of the sudden hikes in the price of petrol and electricity through the restructuring of government subsidies, especially as it is detrimental to Malaysia's position as a traditional exporter.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นโยบายเศรษฐกิจ [แก้]อับดุลลอฮวีย์ประกาศปลายทางเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม และสวรรค์โครงการของบรรพบุรุษของเขา ดี Mohamad ระหว่าง 57 UMNO สมัชชา เขาบอกว่า ผู้รับมอบสิทธิ์ว่า เขาจะติดตามกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจที่นำสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยดีเขากล่าวว่า ในอดีต ความมั่งคั่งสร้างขึ้นไม่ โดยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ แต่ลงทุนต่างประเทศ สัญญาภาครัฐ และแปดสิบห้าเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพมีบางปัญหาเน้นใน 9MP ว่า รัฐภาคดังกล่าวจะยังคงสามารถสร้างความมั่งคั่งสำหรับชาวมาเลเซียมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทในปลายปี 2005 วีย์สำเร็จนำมาเลเซียในข้อตกลงการค้าเสรีประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วยให้ของเสียอัตราภาษีสินค้าอุตสาหกรรมหลักทั้งหมด และการเกษตรมากที่สุดสองประเทศ ป่าไม้และประมงผลิตภัณฑ์ภายในทศวรรษ [11]ภายใต้การดูแลอับดุลลอฮวีย์ ประเทศได้เคลื่อนลงไปเป็นค่าโซ่เศรษฐกิจ โดยการพัฒนาจุดแข็งโดยธรรมชาติในการเกษตรโดยไม่สูญเสียการผลิตอยู่ที่ฐาน [12] อย่างไรก็ตาม อับดุลลอฮได้ถูกวิจารณ์ว่าเขาจัดการป่าอย่างฉับพลันในราคาของน้ำมันและไฟฟ้าผ่านการปรับโครงสร้างของเงินอุดหนุนจากรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นอันตรายต่อฐานะของมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นโยบายเศรษฐกิจ [แก้ไข]
อับดุลลาห์บาดาวีประกาศสิ้นไปมรดกทางเศรษฐกิจและโครงการที่ยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษของมหาเธร์โมฮัมหมัดระหว่าง 57th UMNO สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เขาบอกว่าได้รับมอบหมายว่าเขาจะไม่ไล่ตามกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจลูกบุญธรรมสองทศวรรษที่ผ่านมาโดยมหา

เขากล่าวว่าในอดีตที่ผ่านมามากมายไม่ถูกสร้างขึ้นโดยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ แต่โดยการลงทุนในต่างประเทศ, สัญญารัฐบาลและการแปรรูป

เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพคือบางส่วนของปัญหาที่ไฮไลต์ใน 9MP ว่ารัฐบาลเชื่อว่าภาคดังกล่าวจะยังคงสามารถที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับชาวมาเลเซียจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชนบท

ในช่วงปลายปี 2005 บาดาวีประสบความสำเร็จในมาเลเซียลงนามในสัญญาการค้าเสรีกับญี่ปุ่นประวัติศาสตร์ที่ช่วยให้ทั้งสองประเทศที่จะทิ้งภาษีหลักทั้งหมดสินค้าอุตสาหกรรมและส่วนใหญ่เกษตรป่าไม้และประมงผลิตภัณฑ์ภายในหนึ่งทศวรรษ. [11]

ภายใต้การบริหารอับดุลลาห์บาดาวีของประเทศที่มีการเคลื่อนไหวลงไปสู่เศรษฐกิจห่วงโซ่คุณค่าโดยการพัฒนาจุดแข็งโดยธรรมชาติของมันในการเกษตรโดยไม่สูญเสียฐานการผลิตที่มีอยู่. [12] แต่อับดุลลาห์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดการของเขาจากการปรับขึ้นอย่างฉับพลันในราคาของน้ำมันและไฟฟ้าที่ผ่านการปรับโครงสร้างของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นอันตรายกับตำแหน่งของมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกดั้งเดิม ประเทศที่มีการเคลื่อนไหวลงไปสู่เศรษฐกิจห่วงโซ่คุณค่าโดยการพัฒนาจุดแข็งโดยธรรมชาติของมันในการเกษตรโดยไม่สูญเสียฐานการผลิตที่มีอยู่. [12] แต่อับดุลลาห์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดการของเขาจากการปรับขึ้นอย่างฉับพลันในราคาของน้ำมันและไฟฟ้าที่ผ่านการปรับโครงสร้างของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นอันตรายกับตำแหน่งของมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกดั้งเดิม ประเทศที่มีการเคลื่อนไหวลงไปสู่เศรษฐกิจห่วงโซ่คุณค่าโดยการพัฒนาจุดแข็งโดยธรรมชาติของมันในการเกษตรโดยไม่สูญเสียฐานการผลิตที่มีอยู่. [12] แต่อับดุลลาห์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดการของเขาจากการปรับขึ้นอย่างฉับพลันในราคาของน้ำมันและไฟฟ้าที่ผ่านการปรับโครงสร้างของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นอันตรายกับตำแหน่งของมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นโยบายเศรษฐกิจ [ แก้ไข ]อับดุลลาห์บาดาวีประกาศยุติโครงการมรดกทางเศรษฐกิจและยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษของเขา , มหาเธร์ โมฮัมหมัด ระหว่าง 57 Umno ทั่วไปประกอบ เค้าบอกคนที่เขาจะไม่ไล่ตามกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจนำสองทศวรรษที่ผ่านมาโดยมหาเธร์ .เขากล่าวว่า ในอดีต ความมั่งคั่งถูกสร้างขึ้น ด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ แต่การลงทุนต่างประเทศ , สัญญา , รัฐบาลและการแปรรูป .เกษตรและชีวภาพเป็นบางส่วนของการเน้นในประเด็น 9mp ที่รัฐบาลเชื่อว่าภาคดังกล่าวจะยังคงสามารถสร้างความมั่งคั่งสำหรับชาวมาเลเซียมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในชนบทในปลายปี 2005 บาดาวีเรียบร้อยแล้วนำมาเลเซียในประวัติศาสตร์ ข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่นให้สองประเทศเศษภาษีหลักทั้งหมดสินค้าอุตสาหกรรมและการเกษตรมากที่สุด ป่าไม้ และสินค้าประมงภายในทศวรรษ [ 11 ]ภายใต้การบริหารงานของ อับดุลลาห์ บาดาวี ประเทศจะย้ายลงไปที่โซ่คุณค่าทางเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาจุดแข็งของโดยธรรมชาติในการเกษตรโดยไม่สูญเสียฐานการผลิตเดิม . [ 12 ] อย่างไรก็ตาม อับดุลลาห์ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดการของเขาเดินป่าอย่างฉับพลันในราคาของเบนซินและไฟฟ้าโดยผ่านการอุดหนุนของรัฐบาล โดยเฉพาะมัน เป็นอันตรายต่อมาเลเซียในฐานะผู้ส่งออกแบบดั้งเดิม