w findings by a Queen's University

w findings by a Queen's University research team dispel the popular notion that eating so-called "natural" foods will protect against cancer.
Related Articles
Eating disorder
Food groups
Soccer
Colorectal cancer
Encephalopathy
Chinese food therapy
In fact, certain types of common foods and alcoholic beverages such as wine, cheese, yogurt and bread contain trace amounts of carcinogens. Maintaining a balanced diet from a variety of sources -- including garlic -- is a better choice, the researchers suggest.
Led by Dr. Poh-Gek Forkert of Queen's Department of Anatomy and Cell Biology, the team has discovered that a naturally-occurring carcinogen found in alcoholic beverages and fermented foods causes DNA modification and mutations, ultimately leading to abnormal cell growth and lung cancer. Her research also shows that a component of garlic significantly reduces these changes.
The most recent Queen's findings are published on-line today in the journal, Carcinogenesis. This is the third in a series of four related papers: two of the companion papers are published on-line in the International Journal of Cancer and Drug Metabolism and Disposition.
Dr. Forkert's team includes PhD student Lya Hernandez and postdoctoral fellows, Drs. Heidi Chen and Ashish Sharma (all from Anatomy and Cell Biology). Also collaborating on the team are PhD student Martin Kaufmann (Biochemistry), Dr. Glenville Jones (Biochemistry), and Dr. Raymond Bowers (Chemistry).
The researchers are studying the effects of treatment with vinyl carbamate in mice. This substance is derived from ethyl carbamate (urethane), a by-product of fermentation found in alcoholic beverages, and fermented foods like cheese, yogurt and bread. It is also present naturally in tobacco.
Now labeled as a potential human carcinogen by both the World Health Organization and the International Agency for Research on Cancer, urethane was given inadvertently to millions of patients in Japan, between 1950 and 1975, in analgesic and sedative drugs. It was estimated that the total dose of urethane administered to a 60-kilogram patient was about 0.6 to 3.0 grams. This is believed to be the largest dose on record of a pure carcinogen administered directly to people.
In 1985, Health and Welfare Canada placed limits on urethane contained in Canadian (but not imported) alcoholic beverages. "The problem is how to regulate the levels in imported goods," says Dr. Forkert.
In these studies, the mice were administered a single high dose of the carcinogenic chemical. Human exposure differs from that in mice in that it is much lower, and occurs over a prolonged period of time. A question has been raised regarding the effect on people who ingest low levels of the chemical daily over many years, and perhaps over a lifetime.
"We believe that people should not be apprehensive about consuming these foods and beverages: if consumed at low levels, they probably don't pose a risk. It might be prudent, however, to have a varied diet and to limit drinking certain alcoholic beverages," says Dr. Forkert. "And include garlic!" she adds.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการวิจัย โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยของพระราชินี w dispel ความนิยมรับประทานอาหารเรียกว่า "ธรรมชาติ" จะป้องกันโรคมะเร็งบทความที่เกี่ยวข้องโรค eatingกลุ่มอาหารฟุตบอลมะเร็งลำไส้Encephalopathyการรักษาด้วยอาหารจีนในความเป็นจริง บางชนิดทั่วไปอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เช่นไวน์ เนยแข็ง โยเกิร์ต และขนมปังประกอบด้วยติดตามจำนวนสารก่อมะเร็ง นักวิจัยแนะนำรักษาสมดุลจากหลากหลายแหล่ง -รวมถึงกระเทียม - เป็นทางเลือกที่ดีกว่านำ โดยดร. Forkert โพธิ์ลกตงควีนส์แผนกกายวิภาคศาสตร์และชีววิทยาของเซลล์ ทีมได้ค้นพบว่า สารก่อมะเร็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่พบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารหมักทำให้ปรับเปลี่ยนดีเอ็นเอและการกลายพันธุ์ ในที่สุด นำไปสู่โรคมะเร็งปอดและเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ งานวิจัยของเธอแสดงว่า ส่วนประกอบของกระเทียมสามารถลดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ผลการวิจัยล่าสุดของราชินีเผยแพร่ออนไลน์วันนี้ในสมุดรายวัน Carcinogenesis โดยที่สามในชุดของเอกสารที่เกี่ยวข้อง 4: สองสหายเอกสารเผยแพร่ออนไลน์ในสมุด มะเร็งนานาชาติ และการเผา ผลาญยา และครอบครองมีทีมงานของดร. Forkert นักศึกษาปริญญาเอก Lya นานเดซและเฟลโล่ส์นัก ดร.ไฮ Chen และ Sharma โคลฟ (ทั้งจากกายวิภาคศาสตร์และชีววิทยาของเซลล์) ทำงานร่วมกันในทีมมีนักศึกษาปริญญาเอก Kaufmann มาร์ติน (ชีวเคมี), ดร. Glenville Jones (ชีวเคมี), และดร.เรย์มอนด์ Bowers (เคมี)นักวิจัยได้ศึกษาผลของการรักษาด้วยไวนิล carbamate ในหนู สารนี้มาจากเอทิล carbamate (ยูรีเทน), ผลพลอยได้ของการหมักที่พบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมักอาหาร เช่นเนยแข็ง โยเกิร์ตขนมปัง ยังมีอยู่ตามธรรมชาติในยาสูบตอนนี้ติดป้ายว่าเป็นสารก่อมะเร็งมนุษย์มีศักยภาพ โดยองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานนานาชาติเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง ยูรีเทนให้ตั้งใจนับล้านของผู้ป่วยในญี่ปุ่น ระหว่าง 1950 และ 1975 ในยา sedative และระงับปวด มีประเมินว่า ปริมาณรวมของยูรีเทนบริหารเพื่อผู้ป่วย 60 กิโลกรัมอยู่ประมาณ 0.6-3.0 กรัม นี้เชื่อว่าเป็นยาที่ใหญ่ที่สุดบนระเบียนของสารก่อมะเร็งที่บริสุทธิ์ที่จัดการกับคนโดยตรงในปี 1985 สุขภาพและสวัสดิการแคนาดาวางข้อจำกัดบนยูรีเทนที่มีอยู่ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แคนาดา (แต่ไม่ได้นำเข้า) "ปัญหาคือ วิธีการควบคุมระดับในสินค้านำเข้า กล่าวว่า ดร. Forkertในการศึกษานี้ หนูถูกดูแลปริมาณสูงเดียวเคมี carcinogenic แสงที่มนุษย์แตกต่างจากในหนูที่มันต่ำมาก และเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน มีการยกคำถามเกี่ยวกับผลกระทบกับคนที่ ingest ระดับต่ำสุดของสารเคมีทุกวันหลายปี และอาจจะ มากกว่าอายุการใช้งาน"เราเชื่อว่า ไม่ควร apprehensive เกี่ยวกับการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้: ถ้าใช้ในระดับต่ำ พวกเขาอาจไม่มีความเสี่ยง อาจระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม มีอาหารที่หลากหลาย และ การจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บาง กล่าวว่า ดร. Forkert "และรวมถึงกระเทียม" เธอเพิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การค้นพบกโดยทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยควีนปัดเป่าความคิดที่เป็นที่นิยมว่าการรับประทานอาหารที่เรียกว่า "ธรรมชาติ" อาหารที่จะป้องกันโรคมะเร็ง.
บทความที่เกี่ยวข้อง
การรับประทานอาหารที่ผิดปกติของ
กลุ่มอาหาร
ฟุตบอล
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
Encephalopathy
การรักษาด้วยอาหารจีน
ในความเป็นจริงบางประเภทของอาหารที่พบบ่อยและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่นไวน์, ชีสโยเกิร์ตและขนมปังมีร่องรอยของสารก่อมะเร็ง การดูแลรักษาอาหารที่สมดุลจากความหลากหลายของแหล่งที่มา - รวมทั้งกระเทียม -. เป็นทางเลือกที่ดีกว่านักวิจัยแนะนำให้
นำโดยดร. Poh-Gek Forkert กรมสมเด็จพระราชินีของกายวิภาคศาสตร์และชีววิทยาของเซลล์ทีมงานได้ค้นพบว่าธรรมชาติที่เกิดขึ้น สารก่อมะเร็งที่พบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารหมักดองที่ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยน DNA และการกลายพันธุ์ในที่สุดนำไปสู่การเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติและโรคมะเร็งปอด งานวิจัยของเธอยังแสดงให้เห็นว่าส่วนประกอบของกระเทียมช่วยลดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้.
ผลการวิจัยล่าสุดของสมเด็จพระราชินีฯ มีการเผยแพร่บนสายวันนี้ในวารสาร, Carcinogenesis นี้เป็นครั้งที่สามในชุดของสี่เอกสารที่เกี่ยวข้อง:. สองสหายของเอกสารมีการเผยแพร่ในบรรทัดในวารสารนานาชาติของโรคมะเร็งและการเผาผลาญยาเสพติดและจำหน่ายไป
ดร. ทีม Forkert รวมถึงนักศึกษาปริญญาเอก Lya Hernandez และทุนหลังปริญญาเอก, Drs ไฮดี้เฉินและ Ashish Sharma (ทั้งหมดจากกายวิภาคศาสตร์และชีววิทยา) นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกันในทีมเป็นนักศึกษาปริญญาเอกมาร์ติน Kaufmann (ชีวเคมี), ดร. Glenville โจนส์ (ชีวเคมี) และดร. เรย์มอนด์ Bowers (เคมี).
นักวิจัยกำลังศึกษาผลกระทบของการรักษาด้วยคาร์บาเมไวนิลในหนู สารนี้ได้มาจากคาร์บาเมธิล (ยูรีเทน) ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตของการหมักที่พบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารหมักดองเช่นชีสโยเกิร์ตและขนมปัง นอกจากนี้ยังมีอยู่ตามธรรมชาติในยาสูบ.
ที่มีข้อความตอนนี้เป็นสารก่อมะเร็งของมนุษย์ที่อาจเกิดขึ้นจากทั้งองค์การอนามัยโลกและองค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง, ยูรีเทนได้รับโดยไม่ได้ตั้งใจไปนับล้านของผู้ป่วยในประเทศญี่ปุ่นระหว่างปี 1950 และปี 1975 ในยาแก้ปวดและยากล่อมประสาท ยาเสพติด มันเป็นที่คาดว่าปริมาณรวมของยูรีเทนยาของผู้ป่วย 60 กิโลกรัมคือประมาณ 0.6-3.0 กรัม ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นยาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสารก่อมะเร็งบริสุทธิ์บริหารโดยตรงคน.
ในปี 1985, สุขภาพและสวัสดิการแคนาดาวางข้อ จำกัด เกี่ยวกับยูรีเทนที่มีอยู่ในแคนาดา (แต่ไม่ได้นำเข้า) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ "ปัญหาคือวิธีการควบคุมระดับในสินค้านำเข้า" ดร Forkert. กล่าวว่า
ในการศึกษานี้หนูเป็นยาปริมาณสูงเดียวของสารเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็ง การสัมผัสของมนุษย์แตกต่างจากที่ในหนูในการที่จะต่ำกว่ามากและเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานาน . คำถามที่ได้รับการยกเกี่ยวกับผลกระทบต่อผู้คนที่เข้าไปในร่างกายในระดับต่ำของสารเคมีในชีวิตประจำวันเป็นเวลาหลายปีและอาจจะตลอดชีวิต
"เราเชื่อว่าคนที่ไม่ควรจะวิตกเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเหล่านี้และเครื่องดื่ม: หากบริโภคในระดับที่ต่ำ พวกเขาอาจจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยง. มันอาจจะระมัดระวังอย่างไรจะมีอาหารที่แตกต่างกันและการ จำกัด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางอย่าง "ดร Forkert กล่าวว่า "และรวมถึงกระเทียม!" เธอจะเพิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค้นพบโดยทีมวิจัยของมหาวิทยาลัย W ของราชินี ขจัดความคิดว่ากินนิยมเรียกว่า " ธรรมชาติ " อาหารจะช่วยป้องกันมะเร็ง ความผิดปกติในการกิน


บทความกลุ่มอาหาร



ฟุตบอลมะเร็งลำไส้ใหญ่จากจีนอาหารบําบัด
ในความเป็นจริง บางชนิดของอาหารที่พบบ่อยและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ , ชีส , โยเกิร์ต และขนมปังมีร่องรอยของสารก่อมะเร็งรักษาสมดุลอาหาร จากความหลากหลายของแหล่งที่มา -- รวมทั้งกระเทียม -- เป็นทางเลือกที่ดีกว่า นักวิจัยแนะนำ นำโดย ดร. forkert ป๋อ
เก๊กของราชินีของภาควิชากายวิภาคศาสตร์และชีววิทยาของเซลล์ที่ทีมงานได้ค้นพบว่าเป็นสารก่อมะเร็งเกิดขึ้นตามธรรมชาติพบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารหมักให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอและการกลายพันธุ์ในที่สุดนำไปสู่การเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ และมะเร็งปอด การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบของกระเทียมช่วยลดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ .
ผลการวิจัยล่าสุดของราชินีจะเผยแพร่ออนไลน์ในวันนี้ในวารสารมะเร็ง นี้เป็นที่สามในชุดของเอกสารที่เกี่ยวข้อง : สี่สองสหายเอกสารตีพิมพ์ออนไลน์ในวารสารมะเร็ง และเมแทบอลิซึมของยาและการจัดการระหว่างประเทศ .
ทีมของดร. forkert รวมถึงนักศึกษาปริญญาเอกและปริญญาเอก lya Hernandez เพื่อน ดร. Heidi Chen และชิช ชาร์มา ( ทั้งหมดจากกายวิภาคศาสตร์และชีววิทยาเซลล์ ) ยังร่วมมือกับทีมเป็นนักศึกษาป. มาร์ติน คอฟแมน ( ชีวเคมี ) , ดร. Glenville โจนส์ ( ชีวเคมี )และ ดร. เรย์มอนด์ โบเวอร์ ( เคมี ) .
นักวิจัยศึกษาผลของการรักษาด้วยไวนิลเมตในหนู สารนี้ได้มาจากเอทิลคาร์บาเมต ( ยูรีเทน ) , ผลพลอยได้จากการหมักที่พบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารเช่นชีสหมักโยเกิร์ต และขนมปัง มันมีอยู่ตามธรรมชาติในยาสูบ
ตอนนี้ติดป้ายว่าเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ที่มีศักยภาพทั้งองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง ยูรีเทน ให้ตั้งใจไปนับล้านของผู้ป่วย ในญี่ปุ่น ระหว่าง 1950 และปี 1975 ในยาแก้ปวดและยากล่อมประสาท ยา มันคือประมาณว่าปริมาณรวมของยูรีเทนและผู้ป่วย 60 กิโลกรัมประมาณ 0.6 ถึง 3.0 กรัมนี้ถือเป็นปริมาณที่ใหญ่ที่สุดบนระเบียนของสารก่อมะเร็งที่บริสุทธิ์และโดยตรงกับประชาชน .
ในปี 1985 , สุขภาพและสวัสดิการอยู่ในแคนาดาจำกัดสารพิษที่มีอยู่ในแคนาดา ( แต่ไม่เข้า ) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ . " ปัญหาคือวิธีการควบคุมระดับในการนำเข้าสินค้า " ดร. forkert .
ในการศึกษาเหล่านี้หนูถูกทดสอบ high dose เดียวของสารเคมีสารก่อมะเร็ง . การสัมผัสของมนุษย์แตกต่างจากที่หนูว่ามันลดมากและเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานานของเวลา คำถามที่ได้รับการยกเกี่ยวกับผลกระทบในระดับต่ำของคนที่กินสารเคมีทุกวันมาหลายปี และอาจจะมากกว่าตลอดชีวิต .
" เราเชื่อว่า ประชาชนไม่ควรวิตกเกี่ยวกับการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม : ถ้าใช้ในระดับต่ำพวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยง มันอาจจะระมัดระวัง แต่จะมีอาหารที่หลากหลาย และเพื่อ จำกัด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน " ดร. forkert ” และรวมถึงกระเทียม !

เธอจะเพิ่ม .