For as long as there has been compu

For as long as there has been computer hardware, there has also been computer software. But what is software? Software is just instructions written by a programmer which tells the computer what to do. Programmers are also known as 'software developers', or just plain 'developers'.

Nothing much is simple about software. Software programs can have millions of lines of code. If one line doesn't work, the whole program could break! Even the process of starting software goes by many different names in English. Perhaps the most correct technical term is 'execute', as in "the man executed the computer program." Be careful, because the term 'execute' also means (in another context) to put someone to death! Some other common verbs used to start a software program you will hear are 'run', 'launch, and even 'boot' (when the software in question is an operating system).

Software normally has both features and bugs. Hopefully more of the former than the latter! When software has a bug there are a few things that can happen. The program can crash and terminate with a confusing message. This is not good. End users do not like confusing error messages such as:

Site error: the file /home7/businfc6/public_html/blog/wordpress/wp-content/plugins/seo-blog/core.php requires the ionCube PHP Loader ioncube_loader_lin_5.2.so to be installed by the site administrator.

Sometimes when software stops responding you are forced to manually abort the program yourself by pressing some strange combination of keys such as ctrl-alt-delete.

Because of poor usability, documentation, and strange error messages, programming still seems very mysterious to most people. That's too bad, because it can be quite fun and rewarding to write software. To succeed, you just have to take everything in small steps, think very hard, and never give up.

I think everyone studying Information Technology should learn at least one programming language and write at least one program. Why? Programming forces you to think like a computer. This can be very rewarding when dealing with a wide range of IT-related issues from tech support to setting up PPC (pay-per-click) advertising campaigns for a client's web site. Also, as an IT professional, you will be dealing with programmers on a daily basis. Having some understanding of the work they do will help you get along with them better.

Software programs are normally written and compiled for certain hardware platforms. It is very important that the software is compatible with all the components of the computer. For instance, you cannot run software written for a Windows computer on a Macintosh computer or a Linux computer. Actually, you can, but you need to have special emulation software or a virtual machine installed. Even with this special software installed, it is still normally best to run a program on the kind of computer for which it was intended.

There are two basic kinds of software you need to learn about as an IT professional. The first is closed source or proprietary software, which you are not free to modify and improve. An example of this kind of software is Microsoft Windows or Adobe Photoshop. This software model is so popular that some people believe it's the only model there is. But there's a whole other world of software out there.

The other kind of software is called open source software, which is normally free to use and modify (with some restrictions of course). Examples of this type of software include most popular programming languages, operating systems such as Linux, and thousands of applications such as Mozilla Firefox and Open Office.

But what is the real difference between open source and closed source software? Is open source source software just about saving money? Let's investigate. Let's say for instance you find a bug in the latest version of Mozilla Firefox. The bug is causing a major project to fail and you need to fix it right away. This is not very likely to happen, I realize, but it's just an example. You might take the following steps:

Step 1. Download and unzip (or uncompress) the source code from Mozilla.

Step 2. Use an Integrated Development Environment (IDE) and a debugger to find and fix the bug in the source code. Please note that you will need to know a little C++ to debug applications such as this.

Step 3. Test the fix and then use a compiler to turn the source code into a binary file. This can take a long time for big programs. Once the source code is compiled then the program should work!

Step 4. You are almost done. Now send the bug fix back to the Mozilla Firefox team. They may even use your bug fix in the next release!

Now imagine you find a bug in a proprietary code base such as Microsoft Word. What can you do? Not much, just file a bug report and hope someone fixes it at some point.

This is a rather radical example, but I think it illustrates to a large degree why programmers generally prefer open source software to closed source alternatives. Good programmers love code and they want access to it. Hiding the code from a programmer is like hiding the car engine from an auto mechanic. We don't like it!

Now you have learned a little about software. You will learn more about software applications and programming in later units.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับตราบใดที่มีคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ แต่ซอฟต์แวร์คืออะไร ซอฟต์แวร์เป็นเพียงคำแนะนำที่เขียน โดยโปรแกรมเมอร์ที่บอกคอมพิวเตอร์ว่าจะทำอะไร โปรแกรมเมอร์เรียกว่า 'ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์" หรือเพียงธรรมดา 'พัฒนา'อะไรมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ โปรแกรมซอฟต์แวร์ได้นับล้านบรรทัดของรหัส ถ้าบรรทัดหนึ่งไม่ทำงาน โปรแกรมทั้งหมดสามารถทำลาย แม้กระบวนการเริ่มต้นซอฟต์แวร์ไป ด้วยหลายชื่อแตกต่างกันในภาษาอังกฤษ บางทีคำทางเทคนิคที่ถูกต้องที่สุดคือ 'ปฏิบัติ' ใน "คนที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์" ต้องระวัง เพราะคำว่า 'ปฏิบัติการ' ยังหมายถึง (ในบริบทอื่น) ใส่คนตาย บางอื่น ๆ ทั่วไปคำกริยาใช้ในการเริ่มโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่คุณจะได้ยิน 'รัน', ' เปิดตัว และแม้กระทั่ง 'เริ่ม' (เมื่อซอฟต์แวร์เป็นระบบปฏิบัติการ)ซอฟต์แวร์ปกติมีลักษณะการทำงานและข้อบกพร่อง หวังมากกว่าเดิมกว่าหลัง เมื่อมีซอฟต์แวร์ บกพร่องมีอยู่ไม่กี่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ โปรแกรมสามารถความผิดพลาด และยกเลิกข้อความสับสน นี้ไม่ดี ผู้ไม่ชอบข้อความข้อผิดพลาดสับสนเช่น:เว็บไซต์ข้อผิดพลาด: /home7/businfc6/public_html/blog/wordpress/wp-content/plugins/seo-blog/core.php แฟ้มต้อง ioncube_loader_lin_5.2.so โหลด PHP ionCube ให้ติดตั้งด้วยบางครั้งเมื่อซอฟต์แวร์หยุดตอบสนองคุณจะบังคับให้ ตนเอง ยกเลิกการโปรแกรมตัวเอง โดยการกดบางชุดแปลกของคีย์เช่น ctrl-alt-ลบใช้งานไม่ดี เอกสาร และข้อความผิดแปลก เขียนโปรแกรมยังคงน่าลึกลับมากคนส่วนใหญ่ ที่ไม่ดีเกินไป เนื่องจากมันสามารถค่อนข้างสนุก และคุ้มค่าในการเขียนซอฟต์แวร์ จะประสบความสำเร็จ คุณเพียงได้ทุกขั้นตอนขนาดเล็ก คิดยากมาก และไม่เคยแพ้ผมคิดว่า ทุกคนที่เรียนเทคโนโลยีสารสนเทศควรเรียนภาษาเขียนโปรแกรม และเขียนโปรแกรมน้อย ทำไม การเขียนโปรแกรมบังคับให้พิจารณาเช่นคอมพิวเตอร์ นี้ได้อย่างดีเมื่อจัดการกับปัญหาที่กว้างทีสัมพันธ์จากฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคการตั้งค่าการส่งเสริมการขาย (จ่ายต่อคลิ) โฆษณา PPC ของไคลเอ็นต์เว็บไซต์ นอกจากนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญการ IT คุณจะสามารถจัดการกับโปรแกรมเมอร์ประจำวัน มีบางความเข้าใจงานที่ทำจะช่วยให้คุณได้รับพร้อมกับพวกเขาดีกว่าโปรแกรมปกติเขียน และคอมไพล์สำหรับระบบฮาร์ดแวร์ จำเป็นอย่างยิ่งว่าซอฟต์แวร์เข้ากันได้กับส่วนประกอบทั้งหมดของคอมพิวเตอร์ ตัวอย่าง คุณไม่สามารถเรียกใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows บนคอมพิวเตอร์ Macintosh หรือคอมพิวเตอร์ Linux จริง สามารถ แต่คุณต้องมีซอฟต์แวร์พิเศษจำลองหรือเครื่องจักรเสมือนที่ติดตั้ง กับนี้ซอฟต์แวร์พิเศษที่ติดตั้ง ยังคงปกติดีที่สุดคือรันโปรแกรมกับชนิดของคอมพิวเตอร์ซึ่งจะมีวัตถุประสงค์มีสองประเภทพื้นฐานของซอฟต์แวร์ที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับที่เป็นมืออาชีพ ก่อนจะปิดบัญชีหรือซอฟต์แวร์กรรมสิทธิ์ ที่คุณไม่สามารถปรับเปลี่ยน และปรับปรุง ตัวอย่างของชนิดของซอฟต์แวร์นี้คือ Microsoft Windows หรือ Adobe Photoshop รุ่นซอฟต์แวร์นี้นิยมดังนั้นที่บางคนเชื่อว่ามันคือรุ่นเดียวที่มี แต่มีโลกอื่น ๆ ทั้งหมดของซอฟแวร์ค่ะชนิดของซอฟต์แวร์คือซอฟต์แวร์ ซึ่งไม่ปกติการใช้ และปรับเปลี่ยน (มีบางข้อจำกัดของหลักสูตร) ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ภาษาโปรแกรมที่นิยมมากที่สุด ระบบปฏิบัติการเช่น Linux และพันโปรแกรม Mozilla Firefox และเปิดสำนักงานแต่ที่ต่างกันระหว่างแหล่งเปิดและปิดซอฟต์แวร์คืออะไร คือเปิดแหล่งที่มาแหล่งซอฟต์แวร์เพียงเกี่ยวกับการบันทึกเงิน ลองตรวจสอบ สมมติว่า เช่นคุณพบบกพร่องในเวอร์ชันล่าสุด Mozilla Firefox ข้อผิดพลาดก่อให้เกิดโครงการใหญ่ล้ม และต้องแก้ไขทันที นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ฉันรู้ แต่มันเป็นเพียงตัวอย่าง คุณอาจใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:ขั้นตอนที่ 1 ดาวน์โหลด และ unzip (หรือบีบอัด) รหัสแหล่งที่มาจาก Mozillaขั้นตอนที่ 2 ใช้การรวมพัฒนาสภาพแวดล้อม (IDE) และดีบักเกอร์เพื่อค้นหา และแก้ไขข้อผิดพลาดในรหัสแหล่งที่มา โปรดทราบว่า คุณจะต้องรู้ c ++น้อยการตรวจแก้จุดบกพร่องโปรแกรมประยุกต์นี้ขั้นตอนที่ 3 ทดสอบการแก้ไข และใช้คอมไพเลอร์แบบเปิดรหัสต้นฉบับเป็นแฟ้มไบนารี นี้สามารถใช้เวลานานสำหรับโปรแกรมขนาดใหญ่ เมื่อคอมไพล์รหัสแหล่งที่มา แล้วโปรแกรมจะทำงานขั้นตอนที่ 4 คุณเกือบเสร็จ ตอนนี้ ส่งการแก้ไขข้อผิดพลาดกลับไปยังทีม Mozilla Firefox แม้อาจใช้การแก้ไขปัญหาในรุ่นถัดไปตอนนี้คิดหาบกพร่องรหัสกรรมสิทธิ์พื้นฐานเช่น Microsoft Word คุณสามารถทำอะไร ไม่มาก เพียงแฟ้มการรายงานข้อผิดพลาด และหวังว่า ผู้แก้ไขในบางจุดนี้เป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ฉันคิดว่า มันแสดงระดับใหญ่ทำไมโปรแกรมเมอร์โดยทั่วไปต้องซอฟต์แวร์ทางเลือกปิดบัญชี รหัสรักโปรแกรมเมอร์ที่ดี และพวกเขาต้องการเข้าถึง ซ่อนรหัสจากโปรแกรมเมอร์ก็เหมือนซ่อนเครื่องยนต์รถยนต์จากการช่างออโต้ เราไม่ชอบขณะนี้ คุณได้เรียนรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ คุณจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และเขียนโปรแกรมในภายหลังหน่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตราบเท่าที่มีการฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มียังได้รับซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ แต่สิ่งที่เป็นซอฟต์แวร์? ซอฟแวร์เป็นเพียงคำแนะนำที่เขียนโดยโปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ที่บอกว่าจะทำอย่างไร โปรแกรมเมอร์ยังเป็นที่รู้จักในฐานะของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ 'หรือเพียงธรรมดา' พัฒนา '. ไม่มีอะไรมากเป็นเรื่องง่ายที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ โปรแกรมซอฟแวร์สามารถมีนับล้านบรรทัดของรหัส หากหนึ่งบรรทัดไม่ทำงานโปรแกรมทั้งหมดสามารถทำลาย! แม้กระบวนการของการเริ่มต้นซอฟต์แวร์ไปด้วยชื่อที่แตกต่างกันในภาษาอังกฤษ บางทีอาจจะเป็นระยะทางเทคนิคที่ถูกต้องมากที่สุดคือ 'รัน' ในขณะที่ "ชายคนนั้นดำเนินการโปรแกรมคอมพิวเตอร์." ต้องระวังเพราะคำว่า 'รัน' ยังหมายถึง (ในบริบทอื่น) ที่จะนำคนไปสู่ความตาย! บางคำกริยาทั่วไปอื่น ๆ ที่ใช้ในการเริ่มต้นโปรแกรมซอฟแวร์ที่คุณจะได้ยินเป็น 'วิ่ง', 'เปิดตัวและแม้กระทั่ง' บูต '(เมื่อซอฟแวร์ในคำถามที่เป็นระบบปฏิบัติการ). ซอฟท์แวปกติมีคุณสมบัติทั้งสองและข้อบกพร่อง หวังมากขึ้นจากอดีตกว่าหลัง! เมื่อซอฟแวร์มีข้อบกพร่องมีบางสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นเป็น โปรแกรมสามารถผิดพลาดและยุติด้วยข้อความที่ทำให้เกิดความสับสน นี้ไม่ดี ผู้ใช้ไม่ชอบสับสนข้อความผิดพลาดเช่นข้อผิดพลาดเว็บไซต์: ไฟล์ /home7/businfc6/public_html/blog/wordpress/wp-content/plugins/seo-blog/core.php ต้อง ionCube PHP Loader ioncube_loader_lin_5.2.so จะได้รับการติดตั้งโดยผู้ดูแลเว็บไซต์. บางครั้งเมื่อซอฟแวร์หยุดการตอบสนองคุณถูกบังคับให้ตนเองยกเลิกโปรแกรมด้วยตัวคุณเองโดยการกดบางชุดแปลกของคีย์เช่น Ctrl-Alt-ลบ. เนื่องจากการใช้งานที่ไม่ดี, เอกสารและข้อความผิดพลาดแปลกการเขียนโปรแกรม ยังดูเหมือนว่ามากลึกลับเพื่อคนส่วนใหญ่ ที่เลวร้ายเกินไปเพราะมันจะค่อนข้างสนุกและคุ้มค่าในการเขียนซอฟแวร์ จะประสบความสำเร็จคุณก็ต้องใช้ทุกอย่างในขั้นตอนเล็ก ๆ คิดหนักมากและไม่เคยยอมแพ้. ผมคิดว่าทุกคนที่กำลังศึกษาเทคโนโลยีสารสนเทศควรจะเรียนรู้อย่างน้อยหนึ่งภาษาโปรแกรมและเขียนอย่างน้อยหนึ่งโปรแกรม ทำไม? กองกำลังเขียนโปรแกรมให้คุณคิดเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ นี้สามารถที่คุ้มค่ามากเมื่อต้องรับมือกับความหลากหลายของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับไอทีจากการสนับสนุนด้านเทคนิคในการตั้งค่า PPC (จ่ายต่อคลิก) แคมเปญโฆษณาสำหรับเว็บไซต์ของลูกค้า นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นมืออาชีพด้านไอที, คุณจะได้รับการติดต่อกับโปรแกรมเมอร์ในชีวิตประจำวัน มีความเข้าใจในงานที่พวกเขาทำบางอย่างจะช่วยให้คุณได้รับพร้อมกับพวกเขาดีกว่า. โปรแกรมซอฟแวร์ที่เขียนตามปกติและเรียบเรียงสำหรับแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์บางอย่าง มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่ซอฟแวร์เข้ากันได้กับทุกองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่นคุณไม่สามารถเรียกใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows บนคอมพิวเตอร์แมคอินทอชหรือคอมพิวเตอร์ลินุกซ์ ที่จริงแล้วคุณสามารถ แต่คุณจำเป็นต้องมีซอฟแวร์การแข่งขันพิเศษหรือเครื่องเสมือนการติดตั้ง แม้จะมีซอฟต์แวร์พิเศษที่ติดตั้งก็ยังคงเป็นปกติดีที่สุดที่จะเรียกใช้โปรแกรมกับชนิดของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มันถูกตั้งใจ. มีสองชนิดพื้นฐานของซอฟต์แวร์ที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นมืออาชีพด้านไอที ครั้งแรกที่เป็นแหล่งที่มาปิดหรือซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งคุณจะไม่ฟรีในการปรับเปลี่ยนและปรับปรุง ตัวอย่างของชนิดของซอฟต์แวร์นี้เป็น Microsoft Windows หรือโปรแกรม Adobe Photoshop รูปแบบซอฟต์แวร์นี้จึงเป็นที่นิยมที่บางคนเชื่อว่ามันเป็นรูปแบบเดียวที่มี แต่มีโลกอื่น ๆ ทั้งหมดของซอฟต์แวร์ออกมี. ชนิดอื่น ๆ ของซอฟต์แวร์ที่เรียกว่าซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สซึ่งเป็นปกติที่จะใช้และปรับเปลี่ยน (ที่มีข้อ จำกัด บางอย่างแน่นอน) ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้รวมถึงการเขียนโปรแกรมภาษาที่นิยมมากที่สุดระบบปฏิบัติการเช่น Linux และจำนวนของการใช้งานเช่น Mozilla Firefox และเปิดสำนักงาน. แต่สิ่งที่เป็นความแตกต่างระหว่างจริงมาเปิดและซอฟต์แวร์ที่มาปิด? เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สเพียงเกี่ยวกับการประหยัดเงิน? ลองตรวจสอบ สมมติว่าตัวอย่างสำหรับคุณพบข้อผิดพลาดในรุ่นล่าสุดของ Mozilla Firefox ข้อผิดพลาดที่ก่อให้เกิดโครงการที่สำคัญที่จะล้มเหลวและคุณจำเป็นต้องแก้ไขได้ทันที นี้ไม่มากน่าจะเกิดขึ้นฉันรู้ แต่มันเป็นเพียงตัวอย่าง คุณอาจจะทำตามขั้นตอนต่อไปนี้: ขั้นตอนที่ 1 ดาวน์โหลดและเปิดเครื่องรูด (หรือยกเลิกการบีบอัด) รหัสที่มาจาก Mozilla. ขั้นตอนที่ 2 การใช้งานแบบบูรณาการการพัฒนาสิ่งแวดล้อม (IDE) และดีบักค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาดในรหัสที่มา โปรดทราบว่าคุณจะต้องรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ C ++ เพื่อการใช้งานการแก้ปัญหาเช่นนี้. ขั้นตอนที่ 3 การทดสอบการแก้ไขแล้วใช้คอมไพเลอร์ที่จะเปิดซอร์สโค้ดเป็นไฟล์ไบนารี นี้สามารถใช้เวลานานสำหรับโปรแกรมขนาดใหญ่ เมื่อซอร์สโค้ดจะรวบรวมแล้วโปรแกรมจะทำงาน! ขั้นตอนที่ 4 คุณกำลังทำเกือบ ตอนนี้ส่งแก้ไขข้อผิดพลาดกลับไปยังทีมงานของ Mozilla Firefox พวกเขายังอาจใช้การแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณในรุ่นถัดไป! ตอนนี้คิดว่าคุณพบข้อผิดพลาดในฐานรหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์เช่น Microsoft Word สิ่งที่คุณจะทำอย่างไร ไม่มากเพียงแค่ยื่นรายงานข้อผิดพลาดและหวังว่าคนที่จะแก้ไขในบางจุด. นี้เป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นถึงระดับที่มีขนาดใหญ่ว่าทำไมโปรแกรมเมอร์มักชอบซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สกับทางเลือกปิดต้นฉบับ โปรแกรมเมอร์ที่ดีรักรหัสและพวกเขาต้องการการเข้าถึงมัน ซ่อนรหัสจากโปรแกรมก็เหมือนการซ่อนเครื่องยนต์รถจากช่างซ่อมรถยนต์ เราไม่ชอบมัน! ตอนนี้คุณได้เรียนรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานซอฟแวร์และการเขียนโปรแกรมในหน่วยในภายหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตราบเท่าที่มีคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังมีซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ แต่สิ่งที่เป็นซอฟต์แวร์ ? ซอฟต์แวร์เป็นเพียงคำแนะนำที่เขียนโดยโปรแกรมเมอร์ที่บอกคอมพิวเตอร์ว่าต้องทำอะไร โปรแกรมเมอร์จะเรียกว่า ' ' นักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือเพียงธรรมดา ' พัฒนา ' .

ไม่มีอะไรง่ายเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่สามารถมีได้หลายล้านบรรทัดของรหัสถ้าสายไม่ทำงาน โปรแกรมทั้งหมดสามารถแยก แม้กระบวนการการเริ่มต้นซอฟต์แวร์ไปโดยชื่อแตกต่างกันมากมายในภาษาอังกฤษ บางทีศัพท์ที่ถูกต้องที่สุดคือ ' ' รัน ' ใน " คนดำเนินการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ . " ระวัง เพราะคำว่า ' รัน ' หมายถึง ( ในบริบทอื่น ) ต้องให้มีใครตายบางอื่น ๆทั่วไป กริยาที่ใช้เริ่มโปรแกรมที่คุณจะได้ยิน ' วิ่ง ' ' เปิดตัว ' บูต ' ( และแม้เมื่อซอฟต์แวร์ในคำถามคือ ระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ปกติ

มีทั้งคุณสมบัติและแมลง หวังว่าเพิ่มเติมของอดีตกว่าหลัง ! เมื่อซอฟต์แวร์ที่มีข้อบกพร่องมีบางสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ โปรแกรมสามารถล้มเหลวและยกเลิกด้วยข้อความสับสนนี่ไม่ดีเลย ผู้ใช้ไม่สับสนเช่นข้อความแสดงข้อผิดพลาดเช่น : เว็บไซต์ผิดพลาด

: ไฟล์ / home7 / businfc6 / public_html / blog / เนื้อหา / ปลั๊กอิน / / WP WordPress SEO บล็อก / core.php ต้อง ioncube php โหลด ioncube_loader_lin_5.2.so จะติดตั้งโดยผู้ดูแลเว็บไซต์ .

บางครั้งโปรแกรมหยุดการตอบสนองเมื่อคุณถูกบังคับให้ตนเองยกเลิกโปรแกรมเองโดยการกดแปลกๆ การรวมกันของปุ่มเช่น Ctrl Alt ลบ

เพราะยากจน การใช้งานเอกสารและข้อความผิดพลาดประหลาด , โปรแกรมยังดูลึกลับมากเพื่อคนส่วนใหญ่ แย่จัง เพราะมันสามารถจะค่อนข้างสนุก และคุ้มค่าที่จะเขียนซอฟต์แวร์ จะประสบความสำเร็จคุณเพียงแค่ต้องใช้ทุกอย่างในขั้นตอนขนาดเล็ก คิดให้มากๆ และไม่เคยยอมแพ้

ฉันคิดว่าทุกคนเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศควรเรียนอย่างน้อยหนึ่งภาษาการเขียนโปรแกรมและเขียนอย่างน้อยหนึ่งโปรแกรม ทำไม ? โปรแกรมบังคับให้คุณคิดเหมือนคอมพิวเตอร์นี้สามารถที่คุ้มค่ามากเมื่อจัดการกับความหลากหลายของปัญหาที่เกี่ยวข้องจากฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคที่จะตั้งค่า PPC ( จ่ายต่อคลิก ) โฆษณาแคมเปญสำหรับเว็บไซต์ของลูกค้า นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นเป็นมืออาชีพ คุณจะจัดการกับโปรแกรมเมอร์ในแต่ละวัน มีความเข้าใจในงานที่พวกเขาทำจะช่วยให้คุณได้รับพร้อมกับพวกเขาดีกว่า

โปรแกรมซอฟต์แวร์โดยปกติจะเขียนและเรียบเรียงสำหรับแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์บางอย่าง มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่ซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้กับทุกองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่นคุณไม่สามารถเรียกใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows ใน Macintosh หรือ Linux คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ จริงๆ แล้ว คุณสามารถ แต่คุณจะต้องมีซอฟต์แวร์ทางพิเศษหรือเครื่องเสมือนที่ติดตั้งแม้ว่าตอนนี้ติดตั้งซอฟต์แวร์พิเศษ ยังคงเป็นปกติที่สุดเพื่อเรียกใช้โปรแกรมบนชนิดของคอมพิวเตอร์ซึ่งก็ตั้งใจ

มีอยู่สองชนิดพื้นฐานของซอฟต์แวร์ที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นมืออาชีพ เป็นครั้งแรกที่มาปิดหรือเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ที่คุณจะไม่ฟรีในการแก้ไขและปรับปรุง ตัวอย่างของประเภทของซอฟต์แวร์นี้คือ Microsoft Windows หรือโปรแกรม Adobe Photoshopรูปแบบ ซอฟต์แวร์นี้จึงเป็นที่นิยมที่บางคนเชื่อว่ามันเป็นรุ่นเดียวที่มี แต่มันมีโลกอีกใบหนึ่งของซอฟต์แวร์ออกมี .

ชนิดอื่น ๆของซอฟต์แวร์ที่เรียกว่าซอฟต์แวร์เปิดแหล่งที่มาซึ่งโดยปกติให้ใช้ฟรีและแก้ไข ( บางข้อ จำกัด ของหลักสูตร ) ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้ ได้แก่ ภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดระบบปฏิบัติการเช่น Linux ,และหลายพันของการใช้งานเช่น Mozilla Firefox และเปิดสำนักงาน .

แต่อะไรคือความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างเปิดแหล่งที่มาและซอฟต์แวร์ที่มาปิด ? เป็นแหล่งเปิดแหล่งซอฟต์แวร์เพียงเกี่ยวกับการออมเงิน ลองตรวจสอบ สมมติว่าตัวอย่างเช่นคุณพบข้อผิดพลาดในรุ่นล่าสุดของ Mozilla Firefox ข้อผิดพลาดของโครงการหลักที่จะล้มเหลวและคุณต้องแก้ไขมันเดี๋ยวนี้นี้ไม่ได้เป็นแนวโน้มมากที่จะเกิดขึ้น ผมรู้ แต่มันเป็นแค่ตัวอย่าง คุณอาจจะใช้ขั้นตอนต่อไปนี้ :

ขั้นตอนที่ 1 ดาวน์โหลดและเปิดเครื่องรูด ( หรือคลาย ) รหัสแหล่งที่มาจาก Mozilla .

ขั้นตอนที่ 2 ใช้เป็นแบบบูรณาการการพัฒนาสิ่งแวดล้อม ( IDE ) และดีบักเพื่อค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาดในรหัสแหล่งที่มา โปรดทราบว่าคุณจะต้องทราบเล็ก ๆน้อย ๆ C เพื่อแก้ปัญหาการใช้งาน เช่น นี้ .

ขั้นตอนที่ 3ทดสอบแก้ไขแล้วใช้คอมไพเลอร์เพื่อเปิดแหล่งที่มารหัสในแฟ้มไบนารี นี้สามารถใช้เวลานานสำหรับโปรแกรมขนาดใหญ่ เมื่อรหัสแหล่งที่มาจะถูกรวบรวมแล้วโปรแกรมจะทำงาน

ขั้นตอนที่ 4 คุณเกือบจะเสร็จแล้ว ตอนนี้ส่งแก้ไขข้อผิดพลาดกลับไป Mozilla Firefox ทีม พวกเขาอาจใช้แก้ไขข้อบกพร่องในรุ่นถัดไป !

ตอนนี้คิดว่าคุณพบข้อผิดพลาดในฐานเจ้าของรหัส เช่น Microsoft word คุณสามารถทำอะไร ? ไม่มาก แค่แฟ้มรายงานข้อผิดพลาด และหวังว่าคนที่จะแก้ไขมันในบางจุด

นี้เป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นถึงระดับใหญ่ทำไมโปรแกรมเมอร์โดยทั่วไปชอบซอฟต์แวร์เปิดแหล่งที่มาเพื่อเลือกแหล่งที่มาปิด โปรแกรมเมอร์ที่ดีรักรหัสและพวกเขาต้องการเข้าถึง