Political consumersMore than ever,

Political consumers
More than ever, today’s consumers are immersed in
politics. While 2016 began with a groundswell of social
activism widely celebrated online, election victories for
Brexit and Donald Trump shocked much of the world
and exposed social tensions roiling the United States, the
United Kingdom and beyond.
For brands, it’s becoming more difficult to avoid taking a stand—those
that sit on the sidelines risk missing out on important conversations, or
even alienating consumers who seek a better alignment with their values.
Americans are overwhelmingly supportive of brands that take stances
on issues, according to SONAR™: 78% agree that companies should take
action to address the important issues facing society, while 88% agree that
corporations have the power to influence social change.
Why it’s interesting: Consumers will increasingly look to brands to stand
up for certain values. While this may still be a step too far for mainstream
brands, for others it’s simply the logical extension of the often-discussed
strategy of targeting “psychographics” over “demographics”—in other words,
aligning the brand with customers who share a belief system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้บริโภคทางการเมืองกว่าที่เคย ผู้บริโภคจะได้เต็มอิ่มในการเมือง ในขณะที่ 2016 เริ่มต้น ด้วย groundswell ของสังคมทำกิจกรรมอย่างกว้างขวางฉลองออนไลน์ ชนะเลือกตั้งสำหรับมูลค่าส่งออกและโดนัลด์ทรัมป์ตกใจมากของโลกและสัมผัสความตึงเครียดทางสังคมไทย โพรงสหราชอาณาจักร และอื่น ๆแบรนด์ มันจะกลายเป็นยากต่อการหลีกเลี่ยงการยืน — เหล่านั้นที่นั่งในสนามความเสี่ยงหายไปในสนทนาที่สำคัญ หรือแม้ alienating ผู้บริโภคที่มองหาตำแหน่งที่ดีขึ้น ด้วยค่าชาวอเมริกันแบบแอคทีฟสนับสนุนแบรนด์ที่รักปัญหา ตาม SONAR™: 78% ยอมรับว่า บริษัทควรการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญหันสังคม ในขณะที่ 88% ยอมรับว่าบริษัทมีอำนาจมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหตุผลที่สนใจ: ผู้บริโภคจะมองไปแบรนด์ให้เด่นมากขึ้นสำหรับบางค่า ขณะนี้อาจเป็นขั้นตอนมากเกินไปสำหรับหลักยังคงแบรนด์ สำหรับคนอื่นๆ มันเป็นเพียงแค่ส่วนขยายตรรกะของการมักกล่าวถึงกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมาย "psychographics" กว่า "ประชากร" — ในคำอื่น ๆการจัดตำแหน่งแบรนด์กับลูกค้าที่มีระบบความเชื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้บริโภคทางการเมือง
มากขึ้นกว่าเดิมในวันนี้' ผู้บริโภค
การเมือง ในขณะที่
การเคลื่อนไหวที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างกว้างขวางออนไลน์ชัยชนะการเลือกตั้ง
Brexit
และสัมผัสความตึงเครียดทางสังคม
สหราชอาณาจักรและเกิน
สำหรับแบรนด์มัน' s - ผู้
ที่จะนั่งบนความเสี่ยงที่สนามหายไปหมดในการสนทนาที่สำคัญหรือ
แม้กระทั่งคดีผู้บริโภคที่แสวงหาแนวร่วมที่ดีขึ้นกับค่าของพวกเขา
ชาวอเมริกันที่มีอย่างท่วมท้นสนับสนุนของแบรนด์ที่ใช้สถานการณ์
ในประเด็นตาม
ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่สำคัญหันหน้าไปทางสังคมในขณะที่
บริษัท มีอำนาจที่จะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ทำไมมัน' s
ขึ้นสำหรับค่าบางอย่าง ในขณะนี้อาจจะยังคงก้าวไปไกลเกินไปสำหรับหลัก
แบรนด์สำหรับคนอื่น ๆ มัน' s - กล่าวถึง
กลยุทธ์ในการกำหนดเป้าหมาย" psychographics " มากกว่า" ประชากร" ในคำอื่น ๆ ที่
สอดคล้องแบรนด์กับลูกค้าที่ร่วม ระบบความเชื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้บริโภคในทางการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม ผู้บริโภคในปัจจุบันที่แช่อยู่ในการเมือง ในขณะที่ 2016 เริ่มกระตุ้นความสนใจจากผู้คนในสังคมกิจกรรมฉลองชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างกว้างขวางออนไลน์brexit และ Donald Trump ตกใจมากของโลกและสัมผัสความตึงเครียดทางสังคมทอยสหรัฐอเมริกาสหราชอาณาจักรและเกินสำหรับแบรนด์ มันกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการยืนนั้นที่นั่งบน sidelines ความเสี่ยงหายไปในการสนทนาที่สำคัญ หรือแม้แต่แปลกแยกผู้บริโภคที่แสวงหาแนวร่วมที่ดีที่มีค่าของพวกเขาคนอเมริกันจะนำโด่งสนับสนุนยี่ห้อที่ใช้กระบวนท่าในประเด็น ตามเสียง™ : 78 % ยอมรับว่า บริษัท ควรใช้การแก้ไขที่สำคัญปัญหาที่เผชิญหน้ากับสังคม ในขณะที่ 88 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่าบริษัท มีอำนาจที่จะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทำไมมันน่าสนใจ : ผู้บริโภคมากขึ้นจะดูยี่ห้อเพื่อยืนสำหรับค่าบางอย่าง ในขณะที่ยังเป็นก้าวที่ไกลเกินไปสำหรับกระแสหลักยี่ห้อ สำหรับคนอื่น ๆเป็นเพียงส่วนขยายของตรรกะของมักจะกล่าวถึงกลยุทธ์ในการกำหนดเป้าหมายที่ " psychographics " มากกว่า " ประชากร " -- ในคำอื่น ๆการที่แบรนด์กับลูกค้าที่ใช้ระบบเชื่อ